ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่ 1 เมษายน- 30 มิถุนายน 2566 เพื่อคงความสมดุล และควบคุมการทำประมงฤดูปลามีไข่

(22 มี.ค.66) นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้มีการประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2528 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนของทุกปี  ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดตรัง

ผลการศึกษาทางวิชาการ พบว่าสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิด มีความสมบูรณ์เพศสูง โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายนพบสัตว์น้ำวัยอ่อนมีความหนาแน่นสูงสุดถึง 1,197 ตัว/1,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนประกาศใช้มาตรการฯ ที่มีความหนาแน่นเพียง 470 ตัว/1,000 ลบ.ม. อีกทั้งข้อมูลขนาดสัตว์น้ำที่จับได้จากเครื่องมือประมงที่อนุญาตให้ใช้ในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ พบว่ามีขนาดเหมาะสม โดยมีขนาดความยาวมากกว่าความยาวแรกสืบพันธุ์ จึงเป็นการยืนยันได้ว่ามาตรการที่ใช้มีความสอดคล้องกับผลการศึกษาทางวิชาการทั้งในด้านพื้นที่และช่วงเวลาในมาตรการฯ ว่ามีความถูกต้องและเหมาะสมกับฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และยังช่วยเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ เพื่อคงความสมดุลทางธรรมชาติอีกด้วย

กรมประมง จึงประกาศใช้มาตรการ บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันประจำปี ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนนี้ จึงขอให้พี่น้องชาวประมงทุกคน ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐในการปฏิบัติตามกฎหมายมาตรการปิดอ่าวทะเลอันดามัน เพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนและมั่นคงในการประกอบอาชีพประมงต่อไป