วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 14:30 น.
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน”
บก.ปอท.ได้ตรวจสอบจากระบบรับแจ้งความออนไลน์ และข้อมูลจาก big data พบหนึ่งในรูปแบบการหลอกลวงที่สลับซับซ้อนและมีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหาย กล่าวคือ กลุ่มคนร้ายจะมีการโฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อรับซื้อภาพถ่ายโดยจะให้ผู้เสียหายแอดไลน์พูดคุยผ่านบัญชีไลน์ที่อ้างว่าเป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่ประกอบธุรกิจบริการจัดการโฆษณาออนไลน์ ซึ่งมีการทำธุรกิจเกี่ยวกับการหาสมาชิกในการประชาสัมพันธ์หรือโปรโมทภาพถ่ายของสมาชิก เพื่อรับผลตอบแทนหรือโบนัสในการส่งภาพถ่ายมาร่วมโปรโมทและร่วมลงทุนในการโปรโมทภาพถ่าย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมทำกิจกรรมและทำภารกิจในครั้งแรกๆ จะได้รับผลตอบแทนจริง หลังจากนั้นคนร้ายจะพยายามชักชวนให้ผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ เพื่อทำภารกิจส่งเสริมการตลาด โดยอ้างว่า ทำงานง่าย ได้ค่าตอบแทนสูง สามารถเลือกแผนในการลงทุนได้ โดยจะได้รับผลตอบแทน ประมาณร้อยละ 30-50 ของยอดเงินที่ร่วมลงทุนในแต่ละครั้ง โดยในกลุ่มไลน์ดังกล่าวจะมีการแอบอ้างชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจมาเป็นโค้ชในการลงทุน และจะมีสมาชิกในกลุ่มไลน์ซึ่งเป็นหน้าม้าเข้ามาร่วมด้วย จากนั้นจะให้ผู้เสียหายทำการลงทุนผ่านเว็บไซต์ STI CURRENCY MARKET เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปร่วมลงทุนครบตามจำนวนภารกิจ และต้องการถอนเงินออกจากระบบ คนร้ายจะอ้างว่าผู้เสียหายทำผิดกฎ ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จะต้องโอนเงินเพิ่มเติมเพื่อเป็นการปลคล็อคและแก้ไขในส่วนที่ผิดกฎ
จากการตรวจสอบข้อมูลจากระบบแจ้งความออนไลน์และฐานข้อมูลพบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว จำนวน 7 เคส มูลค่าความเสียหาย กว่า 2.4 ล้านบาท อีกทั้ง ยังพบว่ากลุ่มบัญชีม้าที่ใช้ในกลุ่มนี้ ถูกแจ้งความไว้เป็นจำนวน 67 ราย มูลค่าความเสียหาย กว่า 15 ล้านบาท
จนสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลของกลุ่มคนร้าย call center ดังกล่าวได้ ตำรวจ บก.ปอท. จึงได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องขออนุมัติศาลออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการ โดยเข้าตรวจค้น และจับกุมผู้ร่วมขบวนการในกลุ่มรับผลประโยชน์และฟอกเงินได้ทั้งสิ้นจำนวน 5 ราย ประกอบด้วยชาวจีน 2 ราย และ ชาวไทย 3 ราย สามารถตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 3,000,000 บาท จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อตรวจยึดทรัพย์สิน และจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการต่อไป
8 มิถุนายน 2568
8 มิถุนายน 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ