เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 19 พ.ค. 68 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางลงพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อเยี่ยมชมการจัดบริการของหน่วยนวัตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ตามโครงการยกระดับ บัตรทอง 30 บาท รักษาทุกที่ ซึ่งหน่วยนวัตกรรมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยี่ยมชม มี 2 ประเภท คือ ร้านยาคุณภาพ ดรักเฮ้าส์ โครงการสุโขทัยอเวนิว 99 เมืองทองธานี ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ ห้องพยาบาลอิเล็กทรอนิกส์  โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ซึ่งร้านยาแห่งนี้เป็นหนึ่งในร้านยาที่เข้าร่วมเป็นหน่วยนวัตกรรมของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 กลุ่มอาการสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง และบริการสร้างเสริมสุขภาพ 7 รายการ ให้แก่ประชาชนทุกสิทธิ เช่น ชุดตรวจคัดกรองด้วยตนเอง (HIV, พยาธิใบไม้ตับ, มะเร็งปากมดลูก) บริการยาเม็ดคมกำเนิด ชุดทดสอบตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง ถุงยางอนามัย และยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีผู้มารับบริการประมาณ 5 ราย/วัน รวมเป็นจำนวนสะสมประมาณ 500 ราย โดยเป็นการขอรับถุงยางอนามัย และยาคุมกำเนิดมากที่สุด

นอกจากนี้ ในส่วนของห้องพยาบาลอิเล็กทรอนิกส์โนโรงเรียน สมศักดิ์ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการนำระบบกาคแพทย์ทางไกล (tele medicine) ของบริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด หนึ่งในผู้ให้บริการ tele medicine กับ สปสช. มาประยุกต์ใช้กับห้องพยาบาลของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี ต.ปากเกร็ค อ.ปากเกร็ด เพื่อดูแลอาการเจ็บป่วยทั่วไปโดยให้บริการเทเลเมดิชีน ผ่านแอปพลิเคชัน "Clicknic (คลิกนิก)" สำหรับนักเรียนจากพื้นที่กรุงเทพพมหานคร ไปยัง 5 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม โดยเน่นย้ำมาตรฐานการให้บริการ "พบแพทย์ทุกเคสผ่านวิดีโอคอล" และ "จัดส่งยาเฉลี่ยภายใน 3 ชั่วโมง" เช่นเดียวกับใน กทม. ปัจจุบันมีจำนวนโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ "ห้องพยาบาลอิเล็กทรอนิกส์" 129 แห่งทั่วประเทศ ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาให้บริการ OP Telemedicine สะสมแล้ว กว่า 93,000 ครั้ง

สำหรับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี หนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการห้องพยาบาลอิเล็กทรอนิกส์กับคลิกนิก เฮลท์คลินิกเวชกรรม เปิดให้บริการตั้งแต่ 13 พฤษภาคม 2567 โดยมีนักเรียนใช้บริการเฉลี่ย 20-30 คนต่อวัน และเคยให้บริการืสูงสุดถึง 50 คนต่อวัน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมดประมาณ 3,500 คน มีผู้รับบริการ Telemedicine 14,935 คน คิำจำนวนครั้วได้ 22,423 ครั้ง โดยเป็นการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Clicknic  ทั้งนี้การวางระบบการดูแลดังกล่าว มีข้อดีคือนักเรียนที่เจ็บป่วยสามารถพบแพทย์ได้โดยตรงผ่านระบบออนไลน์  ซึ่งเป็นการดูแลโดยบุคลากรสาธารณสุขโดยตรงซึ่งจะมีประสิทธิภาพดีกว่าครูเวรประจำห้องพยาบาล นอกจากนี้ ในกรณีฉุกเฉิน ผู้ช่วยพยาบาลที่ถูกส่งมาประจำห้องพยาบาลในแต่ละโรงเรียนยังสามารถทำการปฐมพยาบาลเบื้องตัน และประสานงานกับโรงพยาบาลเพื่อให้นักเรียนมีความปลอดภัยมากที่สุด อีกทั้งหากมีความจำเป็นต้องได้รับยาครอบคลุม 42 กลุ่มโรค ประจำที่ห้องพยาบาล หากต้องไข้ยานอกเหนือจากที่มี จะมีการจัดส่งยาถึงบ้าน พร้อมคำแนะนำจากจากเภสัชกรภายใน 3 ชม. ในขณะที่โรงเรียนก็ได้ลดภาระการจัดหาอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ รวมทั้งลดภาระงานของครูที่ต้องมาอยู่เวร
ห้องพยาบาลอีกด้วย