วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 12:12 น.
ผู้ปกครอง-ชาวบ้านสุดทน! นัดรวมตัวไล่ "ผอ.รร." บังคับเด็กเชิญธงชาติ ท่ามกลางสายฝน
19 พฤษภาคม 2568 จากกรณีที่ครูสาวของโรงเรียนแห่งหนึ่งได้โพสต์คลิป ผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งให้นักเรียนไปเชิญธงชาติขึ้นเสาในช่วงเช้าของวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยในคลิปครูผู้น้อยคนดังกล่าวได้ใส่ข้อความว่า "ฝนตกหนักก็ต้องเชิญธงชาติกลัวเขตตำหนิ ห่วงธงแต่ไม่ห่วงเด็ก ความเป็นครูไม่หวัง แต่ความเห็นอกเห็นใจควรมีนะคะอายุไม่ใช่น้อยๆ ขณะที่ครูทำอะไรก็นึกถึงเด็กก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ ร่มคันเล็กๆ 1 คัน/เด็ก 2 คน ถามจริงคิดแล้วหรอคะ ยังไงเด็กก็เปียกและก็เปียกไปทั้งตัว ในฐานะครูใจสลายมากกับเหตุการณ์เมื่อวาน ทำเต็มที่แต่ปกป้องเด็กเราไม่ได้เลย เพราะเป็นแค่ครู เราไม่มีอำนาจขนาดนั้นและครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก หนักหนามากๆ สิ่งที่ทำกับครูพอทนได้ แต่กับนักเรียนรับไม่ได้ค่ะ แจ้งทางต้นสังกัดไปเรื่องก็เงียบ เราควรปล่อยให้อนาคตของชาติอยู่กับผู้บริหารแบบนี้จริงๆหรอค่ะ ถ้าไม่หมดหนทางคงไม่ทำแบบนี้ อยากให้เด็กๆ ได้รับความช่วยเหลือ เพราะเขาคือบุคคลที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำยังไงได้บ้างค่ะ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ" ทันทีที่คลิปมีการแชร์ออกไป หลายคนที่เห็นโฟสต์ดังกล่าวต่างเข้ามาคอมเมนต์ต่อว่าถึงพฤติกรรมของ ผอ.รร. คนดังกล่าวว่า เสมือนไร้วุฒิภาวะของความเป็นผู้บริหาร
โรงเรียนที่เป็นกระแสข่าวทางโซเชียลอยู่ในขณะนี้ คือ โรงเรียนที่ตั้งอยู่ ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นโรงเรียนขนาดกลาง เปิดการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 1 – 3 และระดับ ป.1 – ป.6 มีนักเรียนทั้งหมด 85 คน
ด้านผู้ปกครอง ของเด็กที่เชิญธงชาติ กล่าวว่า มารู้หลังจากที่ได้ร่วมประชุมกับ ผอ.โรงเรียนแล้ว โดยครูประจำชั้นได้มาบอกว่าเมื่อเช้าได้เกิดอะไรขึ้น และให้ตนเองดูคลิปที่ถ่ายไว้ โดยครูประจำชั้นทั้งเล่าให้ฟังและร้องไห้เพราะสงสารเด็ก และตนรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นมันไม่สมควรจะให้เด็กออกไปแบบนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เลย ขนาดผู้ใหญ่ยังไม่กล้าออกไปเดินหรือยืนอยู่กลางสายฝนเลย ถ้าเกิดฟ้าผ่าลงมาใครจะรับผิดชอบ ขณะที่ ด.ช.เอ และ ด.ญ.บี กล่าวว่า วันนั้นกลัวมาก แต่ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ เพราะเกรงว่า ผอ.จะไปต่อว่าครูของพวกตน จึงจำใจกางร่มฝ่าสายฝนไปเชิญธงชาติ ตอนยืนอยู่ตรงนั้นก็กลัวว่าฟ้าจะผ่าลงมา
ทั้งนี้ เคยเจอพฤติกรรมที่ไม่ดีของผู้อำนวยการคนนี้มาแล้ว ตอนนั้นลูกชายเป็นแผลที่เท้าเวลาไปโรงเรียนจึงไม่ให้ใส่รองเท้านักเรียนไปเรียนเหมือนปกติ แต่ผู้อำนวยการคนนี้ ไม่ฟังเหตุผล กลับลงโทษด้วยการตีลูกชายตนเอง และอีกหลายๆ เรื่องวีรกรรมของผู้อำนวยการคนนี้ ซึ่งผู้ปกครองทุกคนได้พูดคุยกันแล้วหากไม่ย้ายผู้อำนวยการคนนี้ไป ก็จะย้ายโรงเรียนกัน ไปอยู่โรงเรียนซึ่งอยู่ห่างไปเพียงเล็กน้อย ซึ่ง ผอ.คนโรงเรียนแห่งนั้นใจดีและอาใจใส่เด็ก แต่ที่ต้องทนตรงนี้ก็เพราะไม่อยากให้โรงเรียนยุบเพราะนักเรียนไม่มี
ด้านผู้ปกครองอีกคน กล่าวว่า ไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาอีก เพราะหากเกิดความสูญเสียแล้วใครจะรับผิดชอบ ทางโรงเรียนอย่างมากก็ออกมาแสดงความเสียใจก็เท่านั้น ดังนั้นผู้อำนวยการน่าจะปรับตัวให้เข้ากับชุมชนให้ได้ และวันที่ 19 พ.ค. ทุกคนก็จะไปรวมตัวกันที่โรงเรียนเพื่อขอให้ย้าย ผอ.ไปจากพื้นที่ และขอเปลี่ยน ผอ.ใหม่ที่เข้ากับชุมชมได้ ให้ครบองค์ประกอบคำว่า “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน จะต้องอยู่คู่ชุมชน หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความสมบูรณ์ของชุมชนก็จะไม่มี
ขณะที่ผู้ปกครองหลายคนพากันย้ายบุตรหลานไปเรียนที่อื่น เพราะรับไม่ได้กับการบริหารงานของ ผอ. คนนี้ ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ได้ 6 เดือน ซ้ำยังมีครูในโรงเรียนถึงขั้นป่วยเป็นซึมเศร้า เพราะเครียด และกดดันจากการทำงาน
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับรายงานแล้ว จากเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่แล้ว ทราบว่ามีเด็ก 2 คนลงไปเชิญธงชาติตอนฝนตกจริง แต่มีร่มกางให้ด้วย เบื้องต้นเลขาธิการ กพฐ. แนะนำไปว่าหากฝนตกก็ไม่ต้องให้เด็กลงไปเชิญธงชาติทันที ให้ใช้ดุลยพินิจมากกว่านี้ และรอให้ฝนหยุดค่อยไปเชิญธงชาติก็ได้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ