24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 พฤษภาคม 2568
>> รถตู้ชนกับรถบรรทุก กลางถนนสายเอเชีย (ทล.41) มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
06.00 น. รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนทางหลวงหมายเลข 41 ฝั่งขาล่องใต้ ในพื้นที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ลักษณะชนกับรถบรรทุก อีซูซุ ป้ายทะเบียน นครศรีธรรมราช ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายในที่เกิดเหตุ และมีผู้บาดเจ็บอีก 6 ราย อาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ท่าฉาง และ รพ.ท่าโรงช้าง
และได้รับแจ้งว่า ผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 รายได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นไทย อายุ 41 ปี, หญิงไทย อายุ 39 ปี และเด็กหญิง อายุ 1 ขวบ และบาดเจ็บ 4 ราย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉาง
>> ช้างป่าภูวัวเหยียบชาวบ้านที่เข้าป่าหาเห็ด มีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง
08.00 น. นายวิษณุ กุมภาว์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ได้รับแจ้งจากหน่วยพิทักษ์ป่าชะแนน ว่ามีช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต บริเวณดอนตู้หลง ท้องที่บ้านภูเงิน ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โสกก่าม และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว และประสานผู้นำชุมชน มูลนิธิกู้ภัยสว่างศรีวิไล แพทย์เวร รพ.เซกา เข้าตรวจสอบพื้นที่พบผู้เสียชีวิตในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เป็นหญิง อายุ 52 ปี จากการสอบถามข้อมูลทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวเพื่อเก็บเห็ดร่วมกับสามี ลูกสาว และชาวบ้านอีกส่วนหนึ่ง
ส่วนร่างผู้ตาย เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาจากบนภูวัว ระยะทางไป-กลับ ประมาณ 6 กิโลเมตร เพื่อให้แพทย์เวร รพ.เซกา ร่วมชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต เบื้องต้นอาสากู้ภัยทำการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตนำส่งภูมิลำเนา บ้านช่อง ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ต่อไป
ลูกสาวผู้ตายที่ไปหาเห็ดด้วยกัน กล่าวว่า เหตุเกิดประมาณ 6 โมงเช้า ขณะเกิดเหตุ ตนกับแม่ก็เดินตีคู่กันมา ห่างกันประมาณ 4-5 เมตร เห็นช้างเดินออกมา ยืนอยู่หน้าแม่สักพัก แล้วกระโดดใส่เข้าทำร้ายแม่ ช่วงที่ช้างเหยียบแม่ได้ยินเสียงแม่ร้องโอ๊ยอยู่ 2 ครั้ง ตนเองก็รีบวิ่งเข้าไปแอบหลังต้นไม้ พร้อมร้องตะโกนร้องให้ช้างออกมาจากตัวแม่ พร้อมกับจุดประทัดใส่ช้าง จากนั้นช้างก็หันหลังเดินเข้าป่าไป ตนจึงรีบมาดูแม่ทันทีก็เห็นว่าแม่เสียชีวิตแล้ว จึงรีบวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านที่มาหาเห็ดด้วยกัน
>> ผึ้งหลวงแตกรัง รุมต่อยขบวนแห่นาค พระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป คาดตกใจเสียงรถแห่
08.16 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุชุลมุนในงานบวชนาค ภายใน วัดเขาใบไม้ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยขณะที่แขกและญาติๆ นับ 100 คน กำลังแห่นาค รอบอุโบสถ ซึ่งได้เปิดเพลงรถแห่เสียงดัง จู่ๆ ฝูงผึ้งหลวงขนาดใหญ่ ที่อยู่ชายคาหลังอุโบสถ ได้บินแตกรังลงมาต่อยผู้ที่ร่วมขบวนแห่ ทำให้ต่างวิ่งหนีกระเจิง พบว่ามีผู้ที่มาร่วมงานถูกผึ้งหลวงรุมต่อย เหล็กในฝังตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ 9 คน
ผึ้งหลวงรังนี้ยังรุมต่อยพระกิตติศักดิ์ อายุ 42 ปี ซึ่งกำลังจะเดินขึ้นอุโบสถเพื่อร่วมพิธีบวชนาค ถูกผึ้งต่อยหลายแห่งจนมีอาการสาหัสเจ้าหน้าที่กู้ชีพจากมูลนิธิการกุศลตาคลี ต้องรีบเข้าช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลตาคลีเป็นการเร่งด่วน แต่พระกิตติศักดิ์มีอาการหน้ามืดและชักกระตุกหมดสติถึง 2 ครั้งระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวต่อไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ สุดท้ายพระรูปดังกล่าวได้มรณภาพในเวลาต่อมา เนื่องจากมีอาการแพ้เหล็กในผึ้งหลวงอย่างรุนแรง
>> พบร่างดีเจเตเต้ สภาพศพถูกฆาตกรรม ในพื้นที่เมืองกาญจนบุรี
09.00 น. มีรายงานพบศพดีเจ เตเต้ อายุ 33 ปี กลางทุ่ง พื้นที่บ้านท่าทุ่ม ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลัง สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ลักษณะการแต่งตัว คล้ายกับชุดสวมใส่ในวันที่หายตัวไป กลางดึกวันที่ 14 พฤษภาคม
โดยก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเตเต้ ที่กระท่อมด้านหลังสนามกอล์ฟ ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนหายตัว จึงตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบรอยล้อรถเก๋ง และล้อรถเก๋ง 4 ล้อ ขนาดเดียวกับรถเก๋งต้องสงสัยที่พบก่อนหน้านี้
"เตเต้" หายตัวไปตั้งแต่กลางดึกวันที่ 14 พฤษภาคม ขณะออกจากผับที่ทำงานอยู่ เพื่อไปหาสาวคนสนิท ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยพ่อเตเต้แจ้งความไว้ เนื่องจากร้อนใจที่ลูกชายหายตัวไปอย่างปริศนา
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดตาก
10.15 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.8 ความลึก 3 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.แม่วะหลวง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ไม่มีรายงานการรับรู้แรงสั่นสะเทือน
>> พบร่างผู้ชาย ลอยเกยหาดพัทยา ตำรวจเร่งหาสาเหตุการเสียชีวิต
11.00 น. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุพบศพลอยมาเกยหาดบริเวณชายหาดพัทยา ตรงข้ามซอย 13 ถนนเลียบชายหาด ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุพบศพชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ อายุประมาณ 30-40 ปี นอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณชายหาด สวมเสื้อคอกลมสีดำ (มีตัวอักษรคล้ายภาษาจีนและภาษาอังกฤษ) และกางเกงยีนส์ขาสั้น ภายในตัวพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบาดแผลถลอกบริเวณเปลือกตาและโหนกแก้มขวา เลือดไหลออกทางจมูกและปาก มีน้ำลายฟูมปาก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง
เบื้องต้น ร.ต.ท.อัครพงษ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยสันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจเป็นการจมน้ำเสียชีวิต แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง พร้อมเร่งตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล เพื่อยืนยันตัวตนและติดตามหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่เมืองจังหาร ลุกลามหลังข้างเคียงเสียหายวอด 3 หลังรวด
14.50 น. ได้รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมจุดอำเภอจังหาร เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณ บ้านเหล่างิ้ว ต.จังหาร อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เพลิงกำลังโหมลุกไหม้รุนแรง เจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาสาธารณภัยพร้อมด้วยรถดับเพลิงในพื้นที่ รุดเข้าใช้หัวฉีดน้ำเพื่อควบคุม และเพลิงสงบลงในเวลาต่อมา ตรวจสอบพบว่ามีบ้านเรือนที่เสียหายทั้งบ้านต้นเพลิงและบ้านใกล้เคียง จำนวน 3 หลัง ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จังหาร
>> รวบโชเฟอร์แท๊กซี่ ลวนลามผู้โดยสารวัย 15 ปี เจ้าตัวให้การไม่ได้ลวนลาม อ้างเอ็นดูเหมือนลูกหลาน
15.39 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม ชาย อายุ 62 ปี ฐานความผิด “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถ ขัดขืนได้” โดยจับกุมได้บริเวณ หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก มีเด็กหญิง อายุ 15 ปี ได้นั่งโดยสารรถแท็กซี่ จากหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ย่านถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี มายังซอยลาดพร้าว 112 เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ในระหว่างทาง ช่วงแรกโชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว ได้ชวนเด็กหญิงคนดังกล่าว พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเมือง จนกระทั่งขับมาถึงบริเวณซอยรามคำแหง 87 ได้เริ่มชวนพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเพศ และเรื่องลามก มาตลอดทาง
ทำให้เด็กหญิง รู้สึกกลัว และเริ่มภาวนาให้ถึงที่หมายโดยเร็ว จนกระทั่งมาถึงที่หมาย คนขับกลับใช้มือจับบริเวณหน้าขาขวาของเด็กหญิง ทำให้ตกใจกลัว และไม่สามารถขัดขืนได้ เด็กหญิงจึงรีบชำระเงินค่าโดยสาร และวิ่งลงจากรถทันที ก่อนนำเรื่องราวไปเล่าให้ผู้ปกครองฟัง จึงพากันไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาล ออกหมายจับ กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขตทวีวัฒนา และจับกุมได้
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การว่าไม่ได้ลวนลาม อ้างเนื่องจากตัวเองอายุมากแล้ว ไม่คิดเรื่องชู้สาว เพียงใช้มือแตะ เพราะเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน
>> จับแรงงานเมียนมาลักลอบเข้าเมือง อัดกันมาแน่นรถ
15.50 น. ทหารหน่วยฉก.ราชมนู โดย ร้อย ร.421 ออกปฏิบัติภารกิจ ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ม.3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลขับมาลักษณะมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณเพื่อหยุดรถคันดังกล่าว จากการตรวจสอบภายในรถ พบมีผู้โดยสารอยู่จำนวน 9 คน นั่งอัดแน่นมาในรถ ทั้งด้านหน้าและบริเวณแคป โดยทั้งหมดเป็นแรงงานชาวเมียนมา
เจ้าหน้าได้ควบคุมตัว ผู้ขับขี่ชายไทย อายุ 29 ปี ให้การรับสารภาพว่า ไปรับกลุ่มชาวเมียนมา บริเวณแนวชายแดนบ้านมอเกอร์ไทย และจะนำไปส่งที่บ้าน 15 ต.คีรีราษฏร์ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อไปหางานทำในพื้นที่ชั้นใน โดยแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด รับสารภาพว่าได้ลักลอบเข้าประเทศไทย เพื่อต้องการเดินทางเข้าไปทำงานที่ กทม.
ทั้งนี้ ทางหน่วยจึงได้ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมา พร้อมผู้นำพาและรถยนต์ นำส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> รถพ่วงเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ คุณป้าวัย 60 กว่าเสียชีวิตบนทางต่างระดับ จ.ชุมพร
16.22 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถพ่วง และมีผู้เสียชีวิต บนทางแยกต่างระดับปฐมพร ถนนเพชรเกษม ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ป้ายทะเบียน 672 ล้มคว่ำสภาพถูกรถไม่ทราบชนิดเฉี่ยวชน พังเสียหาย และใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุประมาณ 60 - 65 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร
>> รอง ผกก.ขับรถตราโล่ห์ ฝ่าสายฝน ก่อนเสียหลักพุ่งชนข้างทางเสียชีวิตที่เชียงใหม่
17.00 น. หน่วยกู้ภัยแม่โจ้ พร้อมกับทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าให้การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ตราโล่ห์พลิกคว่ำตกข้างทาง เหตุเกิดบนถนนโชตนา บริเวณบ้านทับเดื่อ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขาเข้าเมืองเชียงใหม่
โดยในที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ป้ายทะเบียนตราโล่ห์ พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง พบร่าง พ.ต.ท.สมชาย ตำแหน่ง รอง.ผกก.ป้องกันและปราบปราม สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เสียชีวิตในสภาพที่ถูกตัวรถทับอยู่
เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเพื่อนำร่างออกจากจากซากรถ ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำร่างออกมาได้ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลแม่แตง
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.สมชาย ขับรถกลับจากไปราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งหน้ากลับจังหวัดลำปาง ระหว่างนั้นเกิดฝนตกหนักจนทำให้รถเสียหลักลื่นไถลพุ่งชนข้างทางจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว โดยบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกถนนลื่น อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนดำเนินการต่อไป
>> ตร. เตรียมออกหมายจับ แก๊งอุ้มฆ่า ดีเจเตเต้ เชื่อมี 4 คน
18.25 น. หลังตำรวจพบร่างของนาย วราพงษ์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ที่หายตัวไปตั้งแต่กลางดึกวันที่ 14 พ.ค.68 ขณะไปหาสาวคนสนิท ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และมีชาวบ้านที่ไปหาของป่าพบว่าเสียชีวิตสภาพถูกมัดมือไพล่หลัง และที่ศรีษะถูกยิง 2 นัด
ความคืบหน้าทางคดี โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามรถเก๋งสีดำต้องสงสัย ขับเข้าพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยก่อนหน้านี้รถเก๋งคันดังกล่าว ถูกพบจอดปิดคลุมผ้าอยู่ในบ้านพักหลังหนึ่ง เซึ่งเจ้าของบ้าน อ้างว่ามีคนขับรถมาขอจอดไว้ชั่วคราว อ้างว่ารถเสีย
รวมถึงระหว่างขยายผลจุดที่กระท่อมด้านหลังสนามกอล์ฟ พื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นจุดที่คนร้ายอุ้มเตเต้ไปพัก ก่อนจะพาไปสังหาร โดยที่กระท่อมพบชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถถูกถอดทิ้งคาดเป็นการทำลายหลักฐาน
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนเชื่อว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ มีคนร้ายทั้งหมด 4 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ต้องสงสัย ที่ถูกตำรวจจับกุมมาก่อนหน้านี้ แต่ยังให้การปฎิเสธ
>> รถจักรยานยนต์สายตรวจ ขี่ไล่ล่ารถจักรยานยนต์ต้องสงสัย เกิดอุบัติเหตุเสียหลักชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต 1 นาย
19.55 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ของตำรวจสายตรวจ เสียหลักชนเสาไฟฟ้า ริมถนนบรมโตรโลกนาถ ใกล้เคียงแยกแม็กโคร ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า CBR สีน้ำตาล ป้ายทะเบียนตราโล่ ล้มคว่ำได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบร่างของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อต่อมา ส.ต.ท.ฐิติกร ผบ.หมู่(ป) สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นผู้ขับขี่ และ ส.ต.ท.อภิเดช ผบ.หมู่ (ป) เป็นผู้ซ้อนท้าย มีอาการสาหัสและหมดสติ โดยทั้ง 2 นายมีบาดแผลแตกบริเวณศีรษะ บาดแผลถลอกตามลำตัว เจ้าหน้าที่เร่ง CPR เพื่อช่วยชีวิตทั้ง 2 นาย พร้อมนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช ล่าสุดมีรายงานว่า ส.ต.ท.อภิเดช เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเหตุเกิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ซึ่งหลบหนีการขอตรวจค้นมุ่งหน้าวัดจุฬามณี เมื่อมาถึงบริเวณแยกไฟแดงแม็คโคร รถต้องสงสัยขี่ย้อนศรฝ่าสัญญาณ จนท.ตร.จึงได้ติดตามมา และมาประสบอุบัติเหตุ ซึ่งทาง ตร.สืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดและติดตามรถต้องสงสัย ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงทางเจ้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีจะดำเนินการต่อไป
>> รถบัสชนแล้วทับซ้ำ ชายนิรนามดับอยู่ใต้ท้องรถ จ.นครศรีธรรมราช
20.00 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิประชาร่วมใจ มีอุบัติเหตุ รถบัสชนคนข้ามถนน และมีผู้เสียชีวิต บนถนนสายจันดี - ควนสงสาร ช่วงบ้านสวนจีน ในพื้นที่ ตำบลจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุ พบรถบัส สแกนเนีย สีเหลือง - น้ำเงิน จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้ารถมีร่องรอยการชน ทำให้กระจกแตก และที่ใต้ท้องรถช่วงล้อหลัง พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 30 - 35 ปี ไม่พบเอกสารติดตัว ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉวาง
>> รถบรรทุกชนกับรถจักรยาน กลางถนนสายบ้านจรเข้มาก - บ้านบัว คุณลุงวัย 60 กว่าปีเสียชีวิต
23.15 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุด ประโคนชัย มีอุบัติเหตุ รถบรรทุกชนกับรถจักรยาน และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทาง บ้านจรเข้มาก - บ้านบัว ในพื้นที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน เพชรบุรี จอดอยู่ที่ใต้ท้องรถ พบรถจักรยาน สีน้ำเงิน สภาพถูกชนแล้วทับซ้ำ รถพังเสียหาย และห่างออกไป พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 65 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย
>> แผ่นดินไหว ภายในพื้นที่ สปป.ลาว ศูนย์กลางห่าง อ.เชียงคาน จ.เลย ประมาณ 68 กม.
23.31 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าเกิดเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศลาว ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.เชียงคาน จ.เลย ประมาณ 68 กม. ยังไมีมีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
02.15 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.3 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 462 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
21 มิถุนายน 2568
21 มิถุนายน 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ