หน้าแรก > ภูมิภาค

ช้างป่าทำร้ายชาวบ้าน! เสียชีวิตขณะขับรถจักรยานยนต์ออกหาอึ่ง ในพื้นที่ป่าสงวนอุทัยธานี

วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เวลา 12:46 น.


ช้างป่าทำร้ายชาวบ้าน! เสียชีวิตขณะออกหาอึ่ง ในพื้นที่ป่าสงวนอุทัยธานี - เจ้าหน้าที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 2 หมื่นบาท

นายไชยา แดนโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานนายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งว่า เมื่อเช้าวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เวลา 06.25 น. ได้รับแจ้งเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

ผู้เสียชีวิตคือชาย อายุ 59 ปี อยู่หมู่ที่ 9 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โดยเจ้าหน้าที่พบศพในป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยทับเสลา ห้วยคอกควาย ในเขตท้องที่ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี

จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบถุงปุ๋ยจำนวน 2 ถุง ภายในมีอึ่ง สวิง 1 ด้าม ไฟฉาย และพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ YAMAHA ทะเบียน 1กม 722 อุบลราชธานี ของผู้เสียชีวิตจอดอยู่ใกล้เคียง นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของช้างป่าในบริเวณโดยรอบ 

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเข้าไปหาอึ่งในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากในช่วงค่ำของวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 มีฝนตกหนักเป็นเวลานาน ทำให้มีอึ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ระหว่างที่ผู้เสียชีวิตกำลังหาอึ่งอยู่นั้น อาจพบกับช้างป่าโดยบังเอิญและถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ด้านเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งได้รายงานว่า การชันสูตรพลิกศพได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยร้อยเวรและแพทย์ผู้ชันสูตรได้ตรวจสอบศพตามขั้นตอนกฎหมาย และญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านบึงเจริญ

ทั้งนี้ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจำนวน 20,000 บาท และนายไชยา แดนโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดที่อยู่ใกล้เคียงร่วมช่วยจัดงานบำเพ็ญกุศลร่วมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป สำหรับกำหนดการจัดงานศพ ทางครอบครัวได้แจ้งว่า จะมีการสวดบำเพ็ญกุศลในวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 19.30 น. และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันอังคารที่ 20 พฤษภาคม 2568

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวปและเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับป่าสงวนและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในเขตป่าในช่วงเวลากลางคืนหรือยามวิกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สัตว์ป่าหลายชนิดออกหากินมากขึ้น หากมีความจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่ป่า ควรเดินทางเป็นหมู่คณะ ส่งเสียงให้สัตว์ป่ารับรู้ถึงการมีอยู่ของมนุษย์ และพกอุปกรณ์ที่สามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน

นายไชยา ผอ.สบอ.12 ยังเน้นย้ำว่า การป้องกันความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานรัฐและชุมชนท้องถิ่น และกำลังเร่งดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ