วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 06.00 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผบช.น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ เสียงใส รองผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.อชิรเวชชย์ สุพรรณเภสัช รอง ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ รอง ผกก.สส.บก.น.8 สั่งการ ว่าที่ พ.ต.ต.ทรงผล นาคชำนาญ สว.กก.สส.บก.8 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ร่วมกันจับกุม ชาย อายุ 28 ปี ในข้อหา “จำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์หรือเมทแอม เฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 7 กิโลกรัม คีตามีน จำนวน 42 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์ใช้รับและเก็บยาเสพติด จำนวน 2 คัน โดยจับได้ที่กลางซอยรามคำแหง 21 แยก 3

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจากกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสืบสวนขยายผลถึงต้นทางยาเสพติด จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ที่ลักลอบกระจายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อยู่บริเวณซอยรามคำแหง 21 แยก 3 โดยมีพฤติกรรมจะรับยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ แล้วทยอยกระจายยาเสพติดให้กับผู้ค้ารายย่อย ด้วยวิธีการเก็บยาเสพติดซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ โดยมีน ชาย อายุ 28 ปี เป็นผู้ดูแลและจัดส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า จึงได้สืบสวนติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา

ต่อมาวันที่ 13 พ.ค. 2568 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรม ของชายรายนี้ จนกระทั่งพบว่า ขับรถยนต์เข้ามาที่เกิดเหตุ จึงเชื่อได้ว่าอาจมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ คันดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกเพื่อทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นรถยนต์คันที่ 1 พบยาเค (คีตามีน)จำนวน 35 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางกลับไปยังกองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการซักถามขยายผลจากแชทข้อความแอปพลิเคชั่นไลน์ที่มีการสั่งให้นำยาเสพติดไปเก็บซุกซ่อนไว้รถยนต์คันอื่น จนกระทั่ง ชายรายนี้ ให้การยอมรับว่ากลุ่มของตนเองยังมีรถยนต์ตู้ สีขาว ที่ใช้เก็บซุกซ่อนยาเสพติดอีก 1 คัน จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่โดนจับกุมก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัว ไปทำการตรวจค้นรถยนต์ตู้ พบ ยาไอซ์ จำนวน 7 กิโลกรัม และยาเค จำนวน 7 กิโลกรัม 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหา และควบคุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางกลับไปยังกองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว ในข้อหา สมคบฯ ฟอกเงิน และประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามมาตรการตรวจยึดทรัพย์ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป