รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.2568) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.คมสิทธ์ รังไสย์ ผบก.น.9 ว่า ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 ได้ร่วมกันจับกุม ชาย อายุ 23 ปี ชาวไทใหญ่ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 507/2568 ลงวันที่ 10 พ.ค.2568 คนร้ายก่อเหตุยิงเจ้าของฟิตเนส อายุ 70 ปี เสียชีวิต โดยจับผู้ก่อเหตุบริเวณ ซ.อ่อนนุช 65 กรุงเทพฯ

โดย พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9 ได้เดินทางมาซักถามผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม ซึ่งชุดสืบสวนตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอส 24 จำนวน 1 เครื่อง , บัตรประชาชน พร้อมบัตรเครดิตของผู้เสียชีวิต และปืนลูกโม่ .38 ยี่พร้อมปลอกกระสุนปืน 3 ปลอก และ กระสุนปืนในรังเพลิงอีก 2 นัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจซักถาม ผู้ก่อเหตุนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.คมสิทธิ์ ผบก.น.9 เปิดเผยว่า ตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังฟังภาษาไทยไม่ออก และพูดบางคำไม่ได้ แต่สามารถสื่อสารเป็นภาษาเมียนมาได้

โดยวันนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจประสานล่ามเพื่อที่จะมาแปลภาษาระหว่างการซักถามและสอบปากคำผู้ก่อเหตุ แต่เบื้องต้นผู้ก่อเหตุอ้างว่า ที่เข้าไปยังบ้านของผู้เสียชีวิตนั้นเนื่องจากต้องการจะเข้าไปหาภรรยา ที่ทำงานอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้วางแผนที่จะมาทำร้ายภรรยา แต่ที่เข้ามาที่บ้านหลังนั้นเพราะตั้งใจจะมาทำงาน ในส่วนของผู้เสียชีวิตนั้นไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวและอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุก็เป็นอาวุธปืนของผู้เสียชีวิตเอง ช่วงที่เกิดเหตุนั้นมีการยื้อแย่งปืนกับผู้เสียชีวิต ทำให้ปืนลั่นใส่ตัวของผู้เสียชีวิต แต่ในส่วนของข้อเท็จจริงที่ชัดเจนคือต้องรอให้ล่ามมาช่วยแปลภาษาอีกครั้ง