หน้าแรก > ข่าวจราจร

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2568

วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 05:16 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2568

>> รวบคาบ้าน มือปืน ยิงรปภ. ศูนย์กำจัดขยะ เสียชีวิต เปิดปากสารภาพ

10.30 น. จากกรณีคนร้ายก่อเหตุยิง นายธีรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี รปภ. เสียชีวิตริมกำแพง ที่ทำการซ่อมบำรุง ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ปากซอยอ่อนนุช 86 แขวงและเขตประเวศ กทม. ก่อนหลบหนีไป

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.ประเวศ และชุดสืบสวนนครบาล 4 ร่วมกันจับกุม นายเฉลิม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ 1 กระบอก และเสื้อผ้าสวมใส่วันเกิดเหตุ โดยจับกุมได้บริเวณโพรงหญ้า หน้าบ้านหลังหนึ่งแขวงและเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จากการสอบสวน นายเฉลิม ให้การว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายธีระศักดิ์เสียชีวิต โดยอ้างว่าถูกผู้ตาย ซึ่งมีอาการลักษณะเมาสุราไล่ยิงก่อน จึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กัน แล้วทำให้นายธีระศักดิ์ถึงแก่ความตาย แล้วหลบหนีไป

>> ยุติการค้นหาใต้ซากตึก สตง. ส่วนผู้สูญหายอีก 7 ราย รอผลพิสูจน์ DNA จากเศษชิ้นส่วน

11.30 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า จากการดำเนินการต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ดำเนินการเปิดช่องลิฟต์ทั้ง 6 ช่อง ปรากฏว่าไม่พบร่างผู้ประสบภัย ดังนั้นตั้งแต่เมื่อวานจึงถือได้ว่าได้เปิดพื้นที่ซากอาคารตึก สตง.ที่ถล่มได้ครบถ้วนแล้ว โดยเช้านี้ได้มีการตั้งแถวเจ้าหน้าที่ประมาณ 57 นาย และสุนัข K9 จำนวน 5 ตัว เป็นหน้ากระดาน เพื่อค้นหาเศษชิ้นส่วนอวัยวะก่อนจะขนซากปูนขึ้นรถบรรทุก ปรากฏว่าพบชิ้นส่วนของกะโหลก 1 ชิ้น ความกว้างประมาณ 1 นิ้ว และชิ้นส่วนกระดูกเพิ่มอีก 2 ชิ้น และถือว่าการเปิดพื้นที่ค้นหาร่างผู้ประสบภัยจากซากอาคาร สตง. เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว ระหว่างนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 -3 วัน เพื่อขนซากเหล็ก ซากปูน จากพื้นที่ สตง. นำไปพักไว้ที่พื้นที่ของการรถไฟต่อไป

ในส่วนของผู้สูญหายที่ยังคงมีตัวเลขคงค้างอยู่ที่ 7 ราย จะเป็นกระบวนการของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจและนิติเวช ที่จะต้องพิสูจน์และใช้เวลาในการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอของอวัยวะรวมถึงกระดูกชิ้นใหญ่ของชิ้นส่วนอวัยวะผู้ประสบภัย เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้เสียชีวิตรายใดได้ เนื่องจากในพื้นที่อาคารของ สตง. จะไม่พบร่างของผู้เสียชีวิตแล้ว แต่อาจจะเป็นชิ้นส่วนอวัยวะชิ้นเล็กๆ ซึ่งหากพบก็จะเร่งนำ ให้นิติเวชเผื่อรวบรวมต่อไป และเป็นเรื่องของพนักงานตำรวจสืบสวนสอบสวนร่วมกับนิติเวชในการยืนยันผู้สูญหายอีก 7 ราย สำหรับการคืนพื้นที่ให้กับสตง.นั้น ยังเป็นไปตามแผนเดิมคือวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ตามหนังสือที่กทม. ได้แจ้งให้สตง.ได้รับทราบ

>> ผบช.น. เยี่ยมให้กำลังใจ ร.ต.อ. ชักเกร็งร่วงเก้าอี้ เพื่อนตำรวจปั๊มหัวใจเยื้อชีวิตกลับมาได้

เมื่อเวลา 12.50 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. } พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9, พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญเเก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เข้าเยี่ยมบำรุงขวัญ ร.ต.อ.ออมสิน สีดามาตย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม ณ ห้อง ICU รพ.เกษมราษฎร์ บางแค หลังปฐมพยาบาลล้มตกจากเก้าอี้ มีอาการตัวชักเกร็ง ใบหน้าซีด ตาลอย เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สยาม ได้ให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และแสดงความห่วงใยแก่ ร.ต.อ.ออมสิน อีกทั้งได้ชื่นชม ผกก.สน.เพชรเกษม รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ทุกนาย ที่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และใช้ความรู้การ CPR ในการปฐมพยาบาล จนทำให้ ร.ต.อ.ออมสิน ปลอดภัย และมาถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา

>> น้ำป่าหลากท่วม ต.อุดมทรัพย์ วังน้ำเขียว หลังเจอฝนตกกระหน่ำกว่า 3 ชม. มีผู้สูญหาย 1 ราย

15.00 น. เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันในพื้นที่ตำบลอุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานานเกือบ 3 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลบ่าท่วมเส้นทางหลายเส้นทางที่บ้านหนองโสมง ม.6 ที่อยู่ติดกับคลองหนองโสมง

โดยเฉพาะบ้านของนายสมศักดิ์ ทอนสูงเนิน ที่อยู่ห่างจากคลองน้ำประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นที่กำลังก่อสร้าง ถูกน้ำป่าหลากเข้าท่วมชั้นล่างจมมิด เสียหายเกือบทั้งหลัง นอกจากนี้ รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน รถกระบะ 1 คัน รถไถ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 6 คัน ที่จอดไว้ภายในบริเวณบ้านถูกน้ำท่วมมิดคันเสียหายทั้งหมด

ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่ามีคนงานของผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านหลังดังกล่าว เป็นชายต่างด้าวชาวพม่าถูกน้ำป่าซัดสูญหายไป 1 ราย ได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าทำการค้นหาอย่างเร่งด่วน โดยทางการได้เร่งตรวจสอบความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป

>> รถจักรยานยนต์เสียหลัก พุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ดับ 3 ศพ

17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต รับแจ้งอุบัติเหตุรถ จยย.ชนเสาไฟฟ้าข้างทางบริเวณหมู่บ้านฮกฮวด ถนนศักดิเดช ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีลาโน่ สีเทา หมายเลขทะเบียน จ.ภูเก็ต ชนเสาไฟฟ้า ได้รับความเสียหายทั้งคัน ที่เสาพบร่องรอยถูรถจักรยานยนต์ชนสภาพล้มคว่ำอยู่ริมถนนพังยับเยิน ใกล้กับพบศพหญิงสาวและเด็กหญิงนอนจมกองเลือดอยู่ที่ป่าข้างทาง ทราบชื่อคือ น.ส.ปรียา อายุ 50 ปี ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็กหญิงยังไม่ทราบชื่อและอายุ โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นชายอีก 1 ราย รถพยาบาลเทศบาลตำบลวิชิตนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ส่งมอบกู้ภัยนำศพส่ง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง

>> สยอง! พบซากหัววัวเป็นจำนวนมาก ทิ้งริมถนนและในคลองส่งน้ำย่านปทุมธานี

18.50 น. จากกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต๊อกได้โพสคลิปวีดีโอซากหัววัวถูกนำมาทิ้งเป็นจำนวนมากและมีข้อความว่าสัตว์เป็นจำนวนมากไครเอามา คลองสองคลองหลวง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุเป็นบริเวณริมถนนเลียบคลองแอล1-2 ม.4 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบซากหัววัวทั้งเก่าและใหม่ถูกนำมาทิ้งไวอยู่ริมถนนเป็นจำนวนมากอยู่1 กอง และอยู่ด้านในอีก 1 กอง ในพื้นที่ ที่ถูกถมแล้วและน่าจะเป็นเนื้อที่ส่วนบุคคลนอกจากนั้นยังมีแมลงวันเป็นจำนวนมากที่มาตอมส่งกลิ่นเหม็นทั่วบริเวณในระแวงใกล้เคียง และใกล้ริมถนนยังพบหนังวัวและเครื่องในวัวถูกนำมาทิ้งเป็นจำนวนมากเช่นกัน รวมทั้งในคลองส่งน้ำยังพบมันว้วอยู่ในถุงพลาสติกพร้อมทั้งหัววัวถูกนำมาทิ้งไว้ในน้ำด้วยสร้างความสกปรกและเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค

จากการสอบถามนายสมศักดิ์ อายุสุข เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอคลองหลวง บอกว่าตนเองได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีคนเอาซากหัววัวที่ถูกชำแหละแล้วมาทิ้งไว้ริมถนน จึงได้มาตรวจสอบก็พบว่าเป็นจิงอย่างที่ประชาชนแจ้งไป ซึ่งการนำมาทิ้งอย่างนี้ผิดวิธีและผิดกฏหมายซึ่งการกำจัดซากนั้นต้องฝั่งกลบอย่างเดียวห้ามนำมาทิ้งไว้อย่างนี้เป็นอันขาดเพราะจะส่งกลิ่นเหม็นพร้อมทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธ์เชื้อโรคด้วย ที่ตรงนี้น่าจะเป็นเนื้อที่ส่วนบุคคล ซึ่งโดยปกติซากโครงกระดูกวัวนั้นจะมีโรคผลิตอาหารสัตว์รับซื้อแต่ก็มีบางอย่างที่เขาไม่รับซื้อ และเวลานี้จะต้องตรวจสอบดูว่าไครเป็นคนนำซากหัววัวพวกนี้มาทิ้งและจะได้ให้มานำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป

>> สามี-ภรรยา ขี่จยย.ล้มท่ามกลางสายฝน ก่อนถูกรถกระบะชนซ้ำดับคู่

19.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง สมาคมกู้ชีพบัวเพชรนนทบุรี เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดบนถนนเลียบคลองประปา ใกล้ทางเข้าเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด พร้อมประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างของนาย คุน ม่อง มิตร อายุ 38 ปี และ น.ส.แนน เพียง อายุ 35 ปี ทั้ง 2 เป็นชาวเมียนมา นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำ ทะเบียน กทม. ล้มอยู่ ในที่เกิดเหตุไม่พบรถคู่กรณี ขณะเดียวกันกล้องหน้ารถของพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ พบว่ารถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับขี่มาจากแยกศรีสมานมุ่งหน้าถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ พยายามเร่งเครื่องแซงขวารถคันหน้าแต่เกิดลื่นไถลเสียหลักล้มและเป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์กระบะวิ่งสวนทางมาเบรกไม่ทันชนซ้ำอย่างแรง หลังเกิดเหตุรถกระบะคันดังกล่าวขับออกจากที่เกิดเหตุไป ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุและเก็บคลิปกล้องหน้ารถไว้เป็นหลักฐาน และจะต้องติดตามคนขับรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม

>> รวบคาสนามบิน สาวยูเครน พังห้องเช่าคอนโดหรูภูเก็ต เสียหายว่า 3 แสนบาท

20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวยูเครน หลังก่อเหตุทำลายทรัพย์สินภายในห้องพัก มูลค่าความเสียหายกว่า 350,000 บาท ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศผ่านสนามบินภูเก็ต

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.วิชิต ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ก่อเหตุทำลายข้าวของภายในห้องพัก อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ฝาผนัง และเพดาน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 350,000 บาท ก่อนผู้ต้องหาหลบหนีไป หลังจากรับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสืบสวน และออกหมายจับ พร้อมทั้งประสาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อระงับการเดินทางออกนอกประเทศของผู้ต้องหา

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำท่าอากาศยานภูเก็ตแจ้งว่า พบผู้ต้องหาพยายามเดินทางออกนอกประเทศ และสามารถควบคุมตัวไว้ได้ทันเวลา ตำรวจ สภ.วิชิต จึงไปรับตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุทำลายทรัพย์สินจริง เนื่องจากโกรธที่ไม่ได้รับเงินมัดจำค่าห้องคืนตามข้อตกลง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินคดีในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และเตรียมส่งฟ้องตามกระบวนการกฎหมายต่อไป

>> แผ่นปูนจากรถบรรทุกหล่นทับรถยนต์เสียหาย ปากซอยลาดกระบัง 54

เมื่อเวลา 23.09 น. (10 พ.ค.68) รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู บริเวณปากซอยลาดกระบัง 54 เกิดเหตุแผ่นปูนจากรถบรรทุก ตกใส่รถนั่งส่วนบุคคล ที่เกิดเหตุปากซอยลาดกระบัง 54 ถนนลาดกระบัง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม. พบรถนั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ถูกแผ่นปูนลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ หล่นทับกระจกหน้าแตก และฝากระโปรงหน้ารถพังยับเยิน กันชนหน้าหลุด ใกล้กันพบ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จ.เพชรบุรี ที่บรรทุกแผ่นปูนดังกล่าว ซึ่งใช้สำหรับก่อสร้างสะพานยกระดับจอดอยู่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าว ทราบว่าสาเหตุเกิดจากรถบรรทุกแผ่นปูนระหว่างทำการขนย้าย เกิดแผ่นปูนสไลด์ทับรถยนต์ที่ตามมา โดยผู้รับเหมารับดำเนินการเคลื่อนย้ายแผ่นปูนและดูแลผู้เสียหาย โดยผู้ขับขี่รถนั่งส่วนบุคคลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ข้อมือ 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ