24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2568

>> รถพ่วงเสียหลักชนขอบทางแล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ เชิงขึ้นต่างระดับฉิมพลี ห้องเครื่องเสียหายวอด

06.40 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ ถนนกาญจนาภิเษก แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุรถบรรทุกขนาดใหญ่ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน นนทบุรี รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้ห้องเครื่องเสียหายทั้งหมด รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบและทำการระบายความร้อน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 รายเป็นเพศชาย อาการบาดเจ็บที่ศีรษะ และแขนขวาเล็กน้อย อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลธนบุรี 2 พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยตลิ่งชัน

>> นทท.ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนเขาเล่ จ.สงขลา ระหว่างทางลื่นพลัดตกหน้าผาลึก 100 เมตร จนท.รุดช่วยเหลือ

07.58 น. เกิดเหตุนักท่องเที่ยวผลัดตกจากจุดชมวิวบนเขาเล่ ในอ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากที่ตำรวจ สภ.สะเดา รับแจ้งเหตุได้ประสานทีมกู้ชีพไม้ขม กู้ชีพสำนักขาม และทีมกู้ชีพพะตงเทิดธรรม ขึ้นไปช่วยเหลือซึ่งต้องเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขาเล่ราว 400 เมตรและทางขึ้นเขาชันมาก

โดยจุดที่นักท่องเที่ยวคนนี้ตกลงไปอยู่บริเวณหน้าผาเขาหัวล้าน ได้ลื่นไถลลงไปจากหน้าผาไปค้างอยู่กับต้นไม้ที่อยู่ลึกลงไปราว 100 เมตร สภาพหมดสติแต่ยังหายใจอยู่หัวแตกปากแตก แขนซ้ายหัก ทีมกู้ภัยได้ลงไปช่วยนำตัวใส่เปลและค่อยๆหามไต่ลงมาจากเขาใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงกว่าจะพาตัวลงมาจากเขาเล่สำเร็จและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสะเดา

สำหรับนักท่องเที่ยวรายนี้ เป็นชาย อายุ 20 ปี เป็นชาว จ.ปัตตานี มากับแฟนสาวสองคน โดยขึ้นไปเที่ยวบนเขาเล่ ตอนเช้ามืดเพื่อรอชมดวงอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก แต่ระหว่างเดินไปยืนอยู่บริเวณจุดชมวิวเขาล้าน น่าจะลื่นทำให้พลัดตกหน้าผาลงไปด้านล่างต่อหน้าต่อตาแฟนสาวที่ตกใจกรีดร้อง และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งน่าจะมาจากหญ้าหรือดินที่ลื่นเพราะช่วงนี้มีฝนตก

จากการสอบถาม นักท่องเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าตอนนั้นยืนอยู่คนละมุมมองไม่เห็นตอนตอนแต่ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่ตกใจ ตามมาด้วยเสียงคนตกลงไปดังตุบ ก็เลยไปดูพบชายคนนี้พลัดตกลงไปนอนอยู่ด้านล่างและร่างกายชักเกร็ง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วย

ซึ่งเบื้องต้นตำรวจและทีมกู้ภัยได้ช่วยแจ้งประสานญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้ทราบแล้วเพื่อให้เดินทางมาติดตามอาการโรงพยาบาลสะเดา ส่วนแฟนสาวยังอยู่ในอาการช๊อคและตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา

>> ลิฟท์ รพ.ดัง พุ่งกระแทกขึ้นชั้น9 สาวท้องแก่พร้อมคนไข้รวม 6 คนติดในลิฟท์ ติดนานร่วมชั่วโมง

08.20 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งจาก รพ.ชื่อดังแห่งหนึ่ง ว่า มีเหตุคนไข้และผู้มาใช้บริการติดอยู่ภายในลิฟท์ จำนวนหลายราย ไม่สามารถเปิดลิฟท์ได้ หลังรับแจ้งจึงประสานไปยัง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมให้เจ้าหน้าที่สายตรวจและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรีบเดินทางไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นอาคาร สูง 9 ชั้นและเป็นอาคารสำหรับตรวจรักษา คนไข้ทั่วไป โดยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลว่า มีคนไข้และญาติคนไข้จำนวน 6 คน ที่ติดอยู่ภายในลิฟท์ตัวที่ 3 โดยทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากญาติคนไข้ที่ติดอยู่ภายในลิฟท์ แต่ คนในลิฟท์ก็ไม่รู้ว่าติดอยู่ที่ชั้นไหน และ1ในคนไข้ที่ติดในลิฟท์นั้นมีหญิงท้องแก่ใกล้คลอดด้วย

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคน จึงได้ทำการตรวจสอบเดินเคาะเรียกลิฟท์ทุกชั้น ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 9 จนกระทั่งพบว่ามีเสียงตอบรับของผู้ที่ติดอยู่ในลิฟท์ที่ชั้น 9 แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะทำการเปิดลิฟท์ได้ จึงประสานขออุปกรณ์เครื่องตัดถ่างจากอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วม 1 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู มาถึงและเตรียมขนอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างเพื่อจะขึ้นไปชั้น 9 ได้มีผู้ที่ติดอยู่ในลิฟท์ได้โทรศัพท์ออกมาแจ้งว่าทุกคนเริ่มจะหายใจกันไม่ออกเนื่องจากติดอยู่นานแล้วเริ่มจะขาดอากาศหายใจ ทำให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงตัดสินใจใช้ชะแลงงัดแล้วเปิดง้างประตูลิฟท์ออกและสามารถนำคนไข้พร้อมผู้ที่ติดอยู่ภายในลิฟท์ออกมาทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย แต่ทุกคนก็ยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเด็กหญิงวัย 7 ขวบ วิ่งออกมาร้องไห้ทันที และทุกคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล จึงได้รีบนำตัวทุกคนไปยังห้องพยายาลเพื่อทำการตรวจร่างกาย หลังจากนั้นทุกคนเมื่อตรวจเสร็จแล้วจึงได้กลับบ้านทันที

>> รวบหนุ่มรับจ้างขน-เฝ้ายาบ้ามหาศาล 8 ล้านเม็ด , ยาไอซ์ อีก 720 กิโลกรัม เผยได้ค่าจ้าง 1 แสน

10.57 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุขรอง ผบ.ตร. ประธานอนุกรรมการป้องกันปรายราม การพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ชุดสืบสวน กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 เข้าจับชายอายุ 32 ปี ชาว จ.พิจิตร พร้อมของกลางยาบ้า 40 กระสอบ คิดเป็นจำนวนยาบ้าประมาณ 8,732,000 เม็ด และไอซ์ 18 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 720 กิโลกรัม โดยตรวจจับยึดของกลางภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

การจับสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2568 ตำรวจร่วมกันจับรถบรรทุกเทรลเล่อร์ขนยาเสพติดในพื้นที่ อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ ต่อมาตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนขยายผล จนกระทั่งทราบว่า กลุ่มลูกค้าที่เคย รับยาเสพติดจากรถบรรทุกเทรลเล่อร์คันดังกล่าว ได้นำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในบ้านหลังหนึ่งต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เฝ้าติดตามตรวจสอบพฤติกรรมเรื่อยมา

จนกระทั่งวันที่ 7 พ.ค. 2568 ตำรวจจึงเข้าจับตรวจยึดของกลาง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหานายชัยนรินทร์ ให้ทราบว่ากระทำผิดฐาน "จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และ ยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า , เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป"

จากการซักถามผู้ต้องหารับว่า รับจ้างขนและเฝ้ายาเสพติตล็อตนี้ราคา 100,000 บาท ก่อนหน้านี้เคยทำลักษณะนี้ 2 ครั้ง ๆ ละ 30,000 บาท โดยนำเงินที่ได้จากการเฝ้ายาเสพติดไปใช้จ่ายส่วนตัว อีกทั้งหากต้องการเสพยาบ้า ก็จะทยอยแกะยาบ้าที่เฝ้าไว้นำออกเสพวันละ 10 เม็ด

>> สั่งเด้ง ร.ต.อ. เมาแล้วขับซิ่งกระบะตราโล่ ชนสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส

12.42 น. จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.วังคู จ.ฉะเชิงเทรา เมาแล้วขับรถยนต์หลวงตราโล่ ชนคน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย ตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้ 79 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหา เมาสุราชับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ นั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้ออกคำสั่ง ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ไปช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และสั่งให้ พ.ต.อ.ภูวดล พิสุทธินรเศรษฐ์ ผกก.สภ.วังคู ดำเนินการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และรายงานผลให้ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ทราบเป็นการด่วน

ขณะที่ พ.ต.อ.ภูวดล พิสุทธนรเศรษฐ์ ผกก.สภ.วังคู พร้อมด้วย พ.ต.ท.กุลภณ กุลวสุสิริ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.รัตนบดินทร์ รอยเวียงคำ รอง ผกก.(สอบสวน) ได้ร่วมกันนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ไปมอบกระเช้าไปขอขมาและมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 20,000 บาท หลังจากออกจาก รพ. จะไปเจรจาค่าเสียหายเพิ่มเติมอีกรอบหนึ่ง ส่วนผลคดีอาญาและวินัยให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย สภ.วังคู

>> นายกฯ นำแถลงจับยาเสพติดล็อตใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 8 ล้านเม็ด-ยาไอซ์ 18 กระสอบ

13.20 น. ณ ตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมโกดังพักยาเสพติดในพื้นที่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมด้วย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างต่อเนื่อง จากการติดตามจับกุมยาเสพติดที่จังหวัดนครสวรรค์ นำไปสู่การขยายผลครั้งใหญ่ในวันนี้ จับกุมการขนยาเสพติดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ของกลางยาบ้า จำนวน 8,700,000 เม็ด ยาไอซ์ 722 กิโลกรัม และ เฮโรอีน 0.700 กรัม ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง 
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผลจากการตรวจค้น พบยาบ้า 40 กระสอบ คิดเป็นจำนวนยาบ้าประมาณ 8,732,000 เม็ด และ ยาไอซ์ 18 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 720 กิโลกรัม และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป

>> จ.สระแก้ว ไฟไหม้ร้านขายอุปกรณ์ช่างครบวงจร ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด

13.30 น. สำนักงาน ปภ.จังหวัดสระแก้ว รายงาน เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านขายอุปกรณ์ช่างครบวงจร หมู่ 7 บ้านใหม่ไพรวัลย์ ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ขณะเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ถูกนำส่ง รพร.สระแก้ว ในขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมเพลิงไหม้โดยสามารถควบคุมการติดต่อลุกลามไว้ในวงจำกัด คาดว่าจะสามารถสกัดเพลิงให้สงบได้ในเวลาไม่นาน มีรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ ของ อปท. ที่ร่วมดำเนินการ ไม่น้อยกว่า 20 คัน

ส่วนในเรื่องของมลพิษทางสิ่งแวดล้อม อำเภอเมืองสระแก้ว ได้แจ้งให้ สสอ.เมืองสระแก้ว ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุ : อยู่ระหว่างตรวจสอบ และผลการปฏิบัติงานความคืบหน้าเป็นประการใด จะรายงานต่อไป

>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์แล้วพุ่งลงคูน้ำข้างทาง สาวชาวเมียนมาเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.

14.15 น. ได้รับแจ้งจาก ทีมกู้ภัยสว่างสรรเพชญ มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์แล้วเสียหลักตกลงไปในคูน้ำ ริมถนน รพช. บริเวณแยกกระจับ ในพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีเทา ป้ายทะเบียน เพชรบุรี ชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน เพชรบุรี ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นหญิง 2 ราย ชาวสัญชาติเมียนมา ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลท่ายาง และรับแจ้งว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่มีอาการสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง

>> นายกฯ โทรศัพท์แสดงความยินดีกับ นายลอเรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ในโอกาสชนะการเลือกตั้ง พร้อมเตรียมผนึกกำลังอาเซียน

14.30 น. ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับ นายลอเรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสการชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

นายกฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้ ยืนยันถึงความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ของสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด และทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่จะได้พบกันอีกครั้งในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้เชิญ นายกรัฐมนตรีไทย เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่ง นายกฯ ตอบรับที่จะไปเยือนสิงคโปร์ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในโอกาสการครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – สิงคโปร์

ผู้นำทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรใช้โอกาสการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ หารือกับผู้นำอาเซียนทั้ง 10 ชาติ เพื่อผนึกกำลังร่วมกัน สร้างความแข็งแกร่งของภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการส่งเสริมความร่วมมือภายในอาเซียนเพื่อรับมือเพื่อความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก

>> ระทึก รถกระบะบรรทุกถังแก๊ส เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง จนท.เร่งปิดวาล์วถัง และช่วยเหลือคนเจ็บนำส่ง รพ.

15.00 น. เกิดเหตุรถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำที่บ้านคลองคูณ ตำบลอรัญญิก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน พิษณุโลก ของบริษัทสยามแก๊ส ซึ่งบรรทุกแก๊สหุงต้มเต็มคันรถ ได้เสียหลักพลิกคว่ำข้างทาง ถังแก๊สหุงต้มกระจายเกลื่อนและมีกลิ่นแก๊สรั่วไหลทั่วบริเวณ ภายในรถพบผู้บาดเจ็บสองราย ได้แก่ นายศรัณย์ อายุ 24 ปี บาดเจ็บบริเวณใบหน้าและมีแผลถลอกตามร่างกาย และนายสืบ อายุ 60 ปี คนขับรถ ซึ่งติดอยู่ภายในและได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่แขนซ้ายและขาขวาหัก ทีมกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลกได้เร่งเข้าช่วยเหลือโดยใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อเปิดประตูรถและนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพิษณุเวชทันที

จากการสอบสวน นายสืบ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ เขากำลังขับรถบรรทุกแก๊สออกจากบริษัทสยามแก๊สเพื่อไปส่งสินค้าให้ลูกค้าที่อำเภอวังทอง โดยใช้ความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดอาการส่ายและเสียการควบคุม ทำให้รถพลิกคว่ำลงข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์และตรวจสอบความปลอดภัยในพื้นที่ เนื่องจากกลิ่นแก๊สยังคงฟุ้งกระจายและอาจเกิดอันตรายได้หากมีประกายไฟหรือการจุดติดไฟในบริเวณดังกล่าว

>> เพลิงไหม้บ้านเรือน ย่านเจริญกรุงซอย 79 อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนจะลุกลาม

16.41 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยเจริญกรุง 79 แยก 13 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นบน ภายในห้องนอน เพลิงลุกไหม้เสียหายสายชาร์จโทรศัพท์ ลุกลามที่นอนและฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 12 ตารางเมตร อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่สายชาร์จโทรศัพท์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยยานนาวา

>> ผู้ว่าฯ นครพนม ลงพื้นที่ "อ.ธาตุพนม" เหตุเสาไฟโค่น 26 ต้น หลังเจอวาตภัยลมกระโชกแรง

16.58 น. นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.นครพนม ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย กรณีเหตุวาตภัยในพื้นที่ อ.ธาตุพนม เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าหักโค่น จำนวน 26 ต้น บริเวณถนนชยางกูร หมายเลข 212 หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลพระกลางทุ่ง-ทางแยกเข้า ตชด. 235 ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

โดยมี ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจ.นครพนม นายอำเภอธาตุพนม หัวหน้าส่วนราชการ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระกลางทุ่ง กำนันตำบลพระกลางทุ่ง ผู้ใหญ่บ้านท้องที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคธาตุพนม ร่วมให้ข้อมูลและรายงานความเสียหายเหตุวาตภัยดังกล่าว ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

>> ลอบวางระเบิด ทหารช่างบาดจ็บ 2 นาย ขณะกำลังเดินทางไปขุดลอกคลองในหมู่บ้าน อ.รามัน

17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจาก ร.ท.วัลลภ อ่อนคำ หัวหน้าชุดทหารช่าง พัน.15 พล.ร.15 ซึ่งเป็นชุดขุดลอกคลองถนนเลียบทางรถไฟ บ.ไม้แก่น ต.เนินงาม - บ.อาตะคูวอวอ ต.กอตอตือร๊ะ จ.ยะลา

ในระหว่างเดินทางกลับที่พัก บริเวณที่เกิดเหตุหน้ากูโบว์ บ.กอตอตือร๊ะ ม.1 ต.กอตอตือร๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น

เบื้องต้น มีทหารช่าง พัน.15 พล.ร.15 ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อ จ.ส.อ.จามร มีอาการหูอื้อ และ ส.อ.ภานุพงศ์ มีอาการแน่นหน้าอก คิ้วแตก นำส่ง รพ.ใกล้เคียง รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

>> รวบหนุ่มวัย 45 ปี ขโมย จยย. อ้างตกงาน มาหาเพื่อนแต่ไม่มีเงินค่ารถกลับบ้าน

18.00 น. พ.ต.ท.เฉลิมฤทธิ์ ถาวร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี พร้อมของกลาง รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดงขาว โดยสามารถจับกุมตัวได้ บริเวณป่าหญ้ารกร้าง ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหาย อายุ 26 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี ว่าได้จอดรถ จยย. คันดังกล่าวไว้ที่หน้าบ้านซอยเรวดี 57 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนตื่นมาตอนเช้าพบว่า รถ จยย. ได้หายไป หลังรับแจ้งตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายสวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาว สวมแมสก์สีขาวเดินผ่าน จากนั้น คนร้ายได้นั่งคร่อมรถ จยย.แล้วเข็นรถ จยย.ออกจากซอย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจนมาพบคนร้ายกำลังถอดชิ้นส่วนรถ จยย. ที่ขโมยมา ทราบคือ นายเอ อายุ 45 ปี ได้จับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ก่อนนำตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวน นายเอ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ อ้างว่าตกงานอยู่ และได้มาหาเพื่อนที่ซอยเรวดี ขณะจะกลับห้องพัก ไม่มีเงินนั่งรถกลับ เลยเดินมาตามถนน และเห็นรถ จยย. จอดอยู่หน้าบ้าน ตนได้เข็นรถ จยย. มาที่ซอยปลอดคน แล้วเปิดยูทูปดูวิธีการต่อสายตรง เพื่อสตาร์ทรถ หลังจากนั้นได้ขี่มาจอดทิ้งไว้ในป่าหญ้าข้างทาง และส่งรูปรถ จยย. ที่ขโมยมาไปให้คนรับซื้อตีราคา เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย แต่ยังไม่ทันได้ขาย ถูกตำรวจตามมาจับกุมตัวได้

>> พายุฤดูร้อน ถล่มจังหวัดน่าน พัดหลังคาบ้านปลิวเสียหาย อุตุฯ เตือน 9–12 พ.ค.นี้ เฝ้าระวังอีกครั้ง

19.28 น. นายรุ่งโรจน์ ขจรพงศ์กีรติ นายก อบต.ผาสิงห์ พร้อมด้วย รองนายก และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย หลังเกิดพายุฤดูร้อน มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ในพื้นที่ที่ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน และสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชน โดยแรงลมพายุ ได้พัดหอบเอาหลังคาบ้านของนางปรานี กองคำ บ้านเลขที่ 456 บ้านห้วยส้มป่อย หมู่ที่2 ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ปลิวหลุดออกไปทั้งแถบ ประกอบกับฝนตกหนัก ทำให้ฝ้าเพดานในบ้านร่วงหลุด ข้าวของ เครื่องใช้เรือนภายในบ้านเสียหาย และแรงลมยังพัดกระหน่ำทำให้กระจกหน้าต่างรอบบ้านแตกเสียหาย ซึ่งในเบื้องต้นได้ประมาณการความเสียหายและเร่งช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้หักโค่นขวางเส้นทางสัญจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินขนย้ายเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ศูนย์ราชการจังหวัดน่าน แรงลมพายุได้พัดต้นไม้ กิ่งไม้หัก ใส่รถยนต์เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มาติดต่อราชการได้รับความเสียหายเช่นกัน

อย่างไรก็ตามอุตุนิยมวิทยา ได้ออกหนังสือเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 9–12 พฤษภาคม 68 จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนริมคลองสามวา เสียหายวอดทั้งหลัง

22.11 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ชุมชนริมคลองสามวา ถนนราษฎร์นิมิต แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในบ้าน เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 50 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางชัน

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

03.39 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.6 ลึก 10 กม. ในพื้นที่ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 252 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดน่าน

04.04 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.7 ลึก 1 กม. ในพื้นที่ ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน ไม่มีรายงานการรับรู้แรงสั่นสะเทือน