วันที่ 7 พ.ค.68 เวลาประมาณ 06.00 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ดูแลงานสืบสวน, พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น.ดูแลงานยาเสพติด, พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3, พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ รอง ผบก.น.3, พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ผกก.สน.มีนบุรี และพ.ต.ท.อรรณพ สังข์เสน รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนันท์ธัช แก้วทอง สว.สส.สน.มีนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี เข้าจับกุม นายเอ นามสมมติ อายุ 27 ปี ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน ซ.หทัยราษฎร์ 39 เขตคลองสามวา กทม. และจับกุมนายบี นามสมมติ อายุ 36 ปี, นายซี นามสมมติ อายุ 34 ปี, นายดี นามสมมติ อายุ 33 ปี ได้ที่ ลานจอดรถ ภายในซ.หทัยราษฎร์ 39 เขตคลองสามวา กทม. พร้อมของกลาง ยาบ้า 480,000 เม็ด, ยาไอซ์ 1 กก. และคีตามีน 1 กก.

สืบเนื่องจากฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้สืบสวนติดตามจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้มานานหลายเดือน จนพบเบาะแสว่า นายเอ นามสมมติ ซึ่งทำหน้าที่เก็บรักษายาเสพติดและเป็นหัวจ่ายคอยกระจายยาบ้าหลักล้านเม็ด และยาไอซ์-คีตามีนหลายกิโลกรัม จากการเฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องพบว่า นายเอ นามสมมติ จะนำรถยนต์ไปรับยาเสพติดมาครั้งละหลายกระสอบ และใช้รถจักรยานยนต์นำยาเสพติดไปวางตามซอยเปลี่ยวอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฯพบว่า นายเอ นามสมมติ ได้ไปรับยาบ้ามาจำนวนหลายกระสอบ จึงวางแผนนำกำลังทีมสืบมีนบุรีเข้าจับกุมเพื่อสกัดกั้นยาบ้าล็อตนี้ โดยขณะจับกุม นายเอ นามสมมติ ได้พร้อมของกลางและขยายผลอยู่นั้นได้มีข้อความจากหัวหน้าทีมของ นายเอ นามสมมติ โทรสั่งการให้เปลี่ยนสถานที่เก็บรักษายาเสพติด โดยจะให้สมาชิกอีกคนไปรับยาเสพติดทั้งหมดจาก นายเอ นามสมมติ

ต่อมาเช้ามืดของวันที่ 6 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ฯจึงวางแผนนำทีมสืบมีนบุรีเข้าจับกุมสมาชิกแก๊งที่จะเดินทางมารับยาเสพติดไปเก็บรักษาแทน จนกระทั่งพบรถ 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์เก๋ง คนขับนำทางและประสานงาน และรถกระบะตู้ทึบ ซึ่งทั้งสองทำหน้าที่ขนยาเสพติดขึ้นรถกระบะตู้ทึบ และผู้ต้องหาอีกราย คอยสังเกตุการณ์

เจ้าหน้าที่ฯจึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวทั้ง 3 คน ในขณะเข้าจับกุมนั้น ผู้ต้องหารายหนึ่ง ได้พยายามขับรถหลบหนีและจะพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงได้ตัดสินใจทุบกระจกรถยับยั้งได้สำเร็จ โดยหลังจากการจับกุมตัวทั้ง 3 คน ให้การว่าชายที่มีฉายาว่า “บุญรักษา” ได้ว่าจ้างให้พวกตนขนส่งยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งนี้จะได้รับค่าจ้าง คิดตามจำนวนยานพาหนะที่ใช้ทำงาน 

เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 ในความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นภัยมั่นคงต่อรัฐ และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน จกานั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สน.นิมิตรใหม่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป