หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 พฤษภาคม 2568

วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลา 05:42 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 พฤษภาคม 2568


>> รถมินิบัสเสียหลักชนเสาไฟฟ้า ริมถนนบนเกาะช้าง โชคดีไร้ผู้โดยสาร คนขับเจ็บ 1 ราย

08.40 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือฯ เขตเกาะช้าง มีอุบัติเหตุรถบัสชนเสาไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บ บนถนนทางหลงชนบท บริเวณใกล้เคียงทางเข้า คลองพร้าว รีสอร์ท ในพื้นที่ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด

ที่เกิดเหตุ พบรถมินิบัส สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง ตรวจสอบพบว่าคนขับได้รับบาดเจ็บ เป็นชายไทย อายุ 40 - 45 ปี อาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.เกาะช้าง พื้นที่ สภ.เกาะช้าง


>> ไฟไหม้บ่อขยะ เทศบาลเมืองหล่มสัก จนท.เร่งระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิง

12.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในบริเวณบ่อทิ้งขยะของเทศบาลเมืองหล่มสัก หมู่ 4 ต.หนองสว่าง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยเพลิงได้ลุกไหม้กองขยะอย่างรุนแรง ส่งผลให้กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พนักงานเทศบาลเมืองหล่มสักได้เร่งระดมรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงร่วมสนับสนุนรวมประมาณ 10 คัน รวมถึงได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครกู้ภัยสว่างมงคลศรัทธาธรรมฯหล่มสัก ในการเข้าช่วยเหลือควบคุมสถานการณ์ 
ผ่านไปราว 1 ชั่วโมง เพลิงยังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณใจกลางบ่อขยะ ซึ่งขยายการลุกไหม้เป็นวงกว้างออกไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงเร่งฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด

ซึ่งจนถึงขณะนี้การควบคุมเพลิง สามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถทำให้เพลิงสงบลงได้ เนื่องจากบ่อขยะเป็นบ่อขยะขนาดใหญ่ มีเศษพลาสติกถูกนำมาทิ้งไว้ในบ่อขยะดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดไฟลุกไหม้ ไฟจึงมีการติดและลุกลามเข้าไปด้านใต้ของกองขยะ ต้องใช้รถแบคโฮเข้าเกลี่ยกองขยะ จึงทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก


>> ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลุยค้นหาผู้สูญหายโค้งสุดท้าย คาด 3-4 วัน เปิดพื้นที่คืนเจ้าของอาคาร

12.37 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างในพื้นที่เขตจตุจักร ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ว่า การปฏิบัติงานเป็นไปได้ด้วยดี ขณะนี้โซน SC2 ลงไปถึงชั้นใต้ดินแล้ว ฝั่งนั้นไม่น่ามีผู้ติดค้างอยู่แล้ว ก็จะเดินหน้าต่อไปยังโซน SC1 ทั้งนี้ที่ผ่านมา เข้าใจว่ายังหาไม่เจออีก 8 ราย แต่ทางตำรวจเพิ่มคนที่ได้รับแจ้งสูญหายอีก 6 ราย รวมเป็น 109 ราย ตัวเลขผู้สูญหายก็จะเป็น 14 ราย ต้องเดินหน้าต่อ แต่ว่ายังมีชิ้นส่วนที่อยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐาน ดังนั้น 14 ราย ที่เหลืออาจมีบางชิ้นส่วนอยู่ในนี้ก็ได้ ก็ต้องรอว่าผลเป็นอย่างไร

ปัจจุบันมีการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปแล้ว 45 - 46 ราย ส่วนที่ยังไม่พบน่าจะพบได้ในวันนี้ เพราะมีการเปิดพื้นที่ไปมากแล้ว เหลือบริเวณโซน SC1 ซึ่งเป็นโซนสุดท้าย คาดว่าภายใน 3 - 4 วัน จะสามารถเปิดพื้นที่ได้หมด หลังจากนี้ต้องดูว่าพื้นที่ไหนที่จะยุติการค้นหา จะต้องเป็นที่ยอมรับกันทั้งหมด เสร็จแล้วก็คงส่งพื้นที่คืน เบื้องต้นได้แจ้งกับผู้ที่รับผิดชอบแล้วว่าวันนึงเราก็ต้องมีการถอนออก จากนั้นก็คงจะเป็น สตง. ที่เป็นเจ้าของเรื่องต้องไปดำเนินการต่อ

สำหรับหน้าที่ของ กทม. คือค้นหาผู้ติดค้าง ส่วนหน้าที่รื้อตึกคงเป็นของเจ้าของอาคาร เพราะถ้าหากอาคารถล่มแล้วไม่มีผู้เสียชีวิตหรือผู้ติดค้าง กทม. ก็ไม่เข้ามารื้ออาคาร หน้าที่หลักของ กทม. คือ ค้นหาผู้ติดค้างและนำร่างผู้เสียชีวิตส่งคืนญาติ หากพบผู้สูญหายทั้งหมดก็สามารถส่งคืนพื้นที่ให้เจ้าของอาคารได้เลย


>> เพลิงไหม้รถบรรทุก กลางถนนกาญจนาภิเษก อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ

13.21 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ถนนกาญจนาภิเษก ตรงข้ามสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ สีขาว หมายเลขทะเบียน พิจิตร รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้ที่ห้องเครื่องยนต์ลุกลามห้องโดยสารเสียหายบางส่วน อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ห้องเครื่องยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์


>> DSI เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านก่อสร้างให้ข้อมูล ตั้งข้อสังเกต 3 ประเด็นตึก สตง.ถล่ม

14.00 น. ที่ห้องประชุม กคร. หรือกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง เพื่อให้ข้อมูลเรื่องโครงสร้างอาคาร สตง. และให้ข้อสังเกตจุดวิบัติของตึก สตง. เนื่องด้วยผู้เชี่ยวชาญเรื่องการควบคุมงานก่อสร้าง การออกแบบก่อสร้าง การให้คำปรึกษาการก่อสร้าง ที่เชิญมา มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคารด้วยโปรแกรม BIM

โดยผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ได้ให้ข้อสังเกตกับดีเอสไอใน 3 ประเด็น คือ 1.เหตุของการแก้ไขสัญญา จำนวน 9 ครั้ง 2.ประเด็นเชิงวิศวกรรม การตั้งข้อสังเกตของโครงสร้างอาคาร และ 3.ประเด็นที่มาของผู้ออกแบบ วิศวกร และผู้ควบคุมงาน ซึ่งในการแก้ไขแบบสัญญาทั้ง 9 ครั้ง ต้องเน้นไปที่การแก้ไขแบบครั้งที่ 4 เพราะมันคือการแก้ไข Core Lift (การแก้ไขผนังปล่องลิฟต์) ผนังรับเเรงเฉือน และส่วนควบอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งจริงๆ แล้วสาระสำคัญของสัญญาการแก้ไขแบบทั้ง 9 ครั้งมีสำคัญอยู่แค่ครั้งเดียว คือครั้งที่ 4 จึงทำให้ส่วนที่เหลือเป็นการแก้ไขเรื่องตัวเลข ตัวเงิน การขยายสัญญา ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับการแก้ไขแบบ

ทั้งนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน ติดตามอัปเดตความคืบหน้าทางคดีในวันพรุ่งนี้ อังคารที่ 6 พ.ค. เวลา 13.00 น. ที่ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อจะได้กำหนดกรอบเวลาในการสรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ ภายในระยะเวลาการฝากขังผู้ต้องหากลุ่มแรก (3 นอมินีไทย และนายชวนหลิง จาง) ในช่วงผัดฝากขังที่ 1-3 เพื่อให้อัยการได้มีเวลาตรวจสอบสำนวนก่อนส่งไปยังศาลอาญารัชดาภิเษก


>> สธ. เผยสถานการณ์แอนแทรกซ์ยังไม่คลี่คลาย พบไข้หูดับระบาดเพิ่ม

14.20 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ จังหวัดมุกดาหาร พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2 ราย (รพ.มุกดาหาร และ รพ.ดอนตาล แห่งละ 1 ราย) โดยผู้สัมผัสทั้งหมดมี 636 ราย ในจำนวนนี้ 538 ราย สิ้นสุดระยะเวลาเฝ้าระวังโรค หลังจากติดตามผลระยะฟักตัวทางผิวหนังและทางเดินอาหารครบ 7 วันแล้ว ส่วน 98 ราย อยู่ในระยะเฝ้าระวังโรคทางผิวหนังและทางเดินอาหาร แต่ทั้งหมดได้รับยา Doxycycline ต่อเนื่อง 7 วัน เพื่อป้องกันโรค

ทั้งนี้ ได้กำชับให้กรมควบคุมโรคและสาธารณสุขจังหวัด เฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้น แม้ว่าจะสิ้นสุดระยะฟักตัวของเชื้อแล้วก็ตาม ขอให้จับตาใกล้ชิดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและประชาชนคลายความกังวลใจลง นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเฝ้าระวังร่วมกัน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าสามารถ จำกัด ติดตาม พื้นที่แพร่ระบาด สำหรับโรคแอนแทรกซ์" (Anthrax) ยังไม่มีรายงานการติดต่อจากคนสู่คน เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน สามารถพบได้ทั่วไปในแหล่งตามธรรมชาติ เชื้อมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมทั้งร้อนและเย็น เชื้อยังสามารถก่อให้เกิดโรคได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี โดยเฉพาะในดินที่มีซากสัตว์ตายด้วยโรคแอนแทรกซ์ ขอเน้นย้ำเรื่องการรับประทานเนื้อโค ควรจะทำให้ถูกสุขอนามัย หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ และรับฟังข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังพบว่าจังหวัดแพร่ มีการระบาดของโรคไข้หูดับ จากการทานหมูดิบ พบผู้ป่วย 14 ราย และผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่มีพฤติกรรมรับประทานลาบหมูดิบ ดังนั้น หากมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ร่วมกับมีประวัติทานหมูดิบ หรือสัมผัสเนื้อหมูดิบ รีบไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน และให้ข้อมูลประวัติเสี่ยงว่าทานหมูดิบกับแพทย์ผู้รักษา เพราะโรคดังกล่าวทำให้เกิดความเสี่ยงหูดับตลอดชีวิตได้


>> รถตู้เสียหลักชนเสาไฟฟ้า มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

15.35 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิกู้ภัยร่มไทรสตูล มีอุบัติเหตุรถตู้เสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ริมถนนใกล้เคียงโรงโม่ปูนทุ่งไหม้ ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล

ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน 8294 กทม. ลักษณะชนกับเสาไฟฟ้า สภาพรถพังเสียหาย ตรวจสอบพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 รายเป็น หญิงไทย อายุ 37 ปี มีอาการ แผลถลอกบริเวณคิ้วและแก้มซ้าย แน่นหน้าอก หายใจลำบาก โดยกู้ชีพ อบต.น้ำผุด ให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ใกล้เคียง และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 65 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู


>> รถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ คุณป้าวัย 63 ปีเจ็บสาหัส อาสากู้ชีพ - กู้ภัยทำ CPR แต่ไม่เป็นผล

16.16 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนหมายเลข 117 บริเวณเยื้องๆ กับบริษัทดิลกภัณฑ์ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ป้ายทะเบียน พิษณุโลก ลักษณะชนกับ รถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า ยารีส สีเทา ป้ายทะเบียน พิษณุโลก อาสากู้ภัยพิษณุโลกตรวจสอบ พบว่ามีผู้บาดเจ็บ หญิง 1 ราย มีอาการสาหัส จึงได้เริ่มทำการ CPR พร้อมประสานทีมแพทย์กู้ชีพ รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ร่วมให้การช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล ทางกู้ชีพยืนยันว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 63 ปี สาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิษณุโลก


>> กยศ. ชี้ช่องทางผู้กู้ยืมที่หักเงินเดือนเป็นการชั่วคราว นายจ้างสามารถลดการหักเงินเดือน เดือน พ.ค.-มิ.ย.68 ได้

16.26 น. นางสาวนันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. เปิดเผยว่า จากการที่ คกยศ. ได้หักเงินเดือนเพิ่มเติม 3,000 บาท กับผู้กู้ยืมที่มียอดค้างชำระ ซึ่งก่อนหน้า กยศ. ได้มีการติดตามหนี้ครอบคลุมผู้กู้ยืมทุกคน รวมถึงผู้ที่ถูกหักเงินเดือน ให้ไปชำระยอดค้างส่วนนี้ด้วยตนเอง แต่เนื่องจากผู้กู้ยืมส่วนหนึ่งไม่ชำระยอดที่ค้าง ทำให้ กยศ. จำเป็นต้องเพิ่มวงเงินหักรายเดือนอีก 3,000 บาทต่อบัญชี ตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 โดย กยศ.ได้มีการแจ้งทั้งผู้กู้และนายจ้างแล้วนั้น

ทั้งนี้ หากผู้กู้ยืมเงินไม่สามารถให้หักเงินเดือนได้ตามที่ กยศ. แจ้ง ให้ติดต่อขอทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มต้นการผ่อนชำระใหม่ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เป็นรายเดือนในอัตราที่ลดลง ซึ่งในปัจจุบันมีผู้กู้ยืมเงินดังกล่าวได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ. แล้วกว่า 200,000 ราย สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังคงมียอดค้างชำระ และยังไม่ได้ติดต่อขอทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ยังคงต้องแจ้งให้หักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาทต่อบัญชี ในเดือนพฤษภาคม 2568 และเดือนต่อไปจนกว่าจะไม่มียอดค้างชำระ

ดังนั้น กยศ. ขอให้ผู้กู้ยืมชำระยอดหนี้ที่ค้างหรือติดต่อขอทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์โดยเร็ว ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระของงวดปี 2568 ทั้งนี้ ในระหว่างรอการปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ได้เพิ่มเงื่อนไขการปรับลดการหักและนำส่งเงินของนายจ้างชั่วคราว โดยให้นายจ้างสามารถลดจำนวนการหักเงินเดือนให้กับผู้กู้ยืมที่ได้รับผลกระทบด้านการดำรงชีพในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2568 ได้เท่านั้น

กยศ. ขอขอบคุณผู้กู้ยืมทุกท่านที่ชำระเงินคืนกยศ. อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมรุ่นน้องต่อไป


>> หญิงวัย 65 ปี พลัดตกบ่อเกรอะหลังบ้าน เสียชีวิต

18.25 น ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยบูรพา สมาคมพิษณุโลกการกุศลสงเคราะห์ ( ไซทีฮุกตึ๊ง ) จังหวัดพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตภายในบ่อเกรอะ จุดเกิดเหตุ บ้านสะเดา หมู่ที่ 1 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

โดยตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ลักษณะคว่ำหน้าหัวทิ่มลงไปในบ่อเท้าชี้ฟ้า มีเศษน้ำคลำติดเต็มตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาดำเนินการนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 65 ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังทอง พร้อมด้วยแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัครเคลื่อนย้ายนำส่งชันสูตรนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราชเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป


>> รถกระบะ เสียหลักฟาดเสาไฟฟ้าข้างทาง ริมถนนหมายเลข 324 มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

21.50 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (ขุนรัตนาวุธ) มีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนหมายเลข 324 ช่วงทางโค้งใกล้เคียงแยกวัดเขาเม็ง ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน กาญจนบุรี ลักษณะเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง จากการตรวจสอบ พบว่ามีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นชายไทย อายุ 29 ปี, หญิงไทย อายุ 30 ปี และ เด็กชาย อายุ 11 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 รายเป็น เด็กชาย อายุ 7 ขวบและ เด็กหญิง อายุ 1 ขวบ

ชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายยางระเบิด ก่อนจะเห็นรถกระบะคันดังกล่าวจะเสียหลักหมุนแล้วฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว 


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดลำปาง    

01.17 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไห กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.3 ลึก 1 กม. ในพื้นที่ของ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ไม่มีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน 
 

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

01.27 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไห กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.3 ลึก 1 กม. ในพื้นที่ของ ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ยังไม่มีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน 
 

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดหนองบัวลำภู

01.36 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ