วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลา 15:38 น.
วันนี้ (5 พ.ค.2568) ที่ อาคารประชารักษ์ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบกระเช้าเยี่ยม นายทัศไนย์ ตั้งคง อายุ 41 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายประกบยิง ในพื้นที่อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่ผ่านมา มีอาการสาหัส ต้องใส่ท่อระบายเลือดจากช่องเยื่อหุ้มปอด หายใจไม่สะดวก ใส่ท่อช่วยหายใจ ปัจจุบันอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดผู้บาดเจ็บ พร้อมได้เยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนคดีความมั่นคง กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ขณะเข้าเก็บกล้องวงจรปิด เพื่อหาหลักฐาน คดียิงยายพิการตาบอดถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ ไอร์ซือเระ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต จำนวน 1 ราย และได้บาดเจ็บ จำนวน 4 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บ พักรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย
1.ด.ต.สาธิต คำแหง อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลจากสะเก็ดบริเวณศรีษะมีบาดแผล
2.ส.ต.ท.ธีปกรณ์ ชูสิงห์ อายุ 27 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดที่น่องข้างขวา
3.ด.ต.ธีรวัฒน์ จอดนอก อายุ 41 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีแผลบริเวณเหนือคิ้วข้างซ้าย
4.จ.ส.ต.สาคร รัตนศิริ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บ แน่นหน้าอก หูอื้อ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้พูดคุยสอบถามอาการและให้กำลังใจกับผู้บาดเจ็บพร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมปลอบขวัญแก่ญาติและครอบครัว ซึ่งทั้ง 4 นาย อาการโดยรวมรู้สึกตัวดี อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมเด็กหญิงนัซมีย์ ศรีมารักษ์ ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดด้านหลังสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา อาการปลอดภัย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีความรุนแรงกว่าอดีตมาก เฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตแล้ว 13 ราย การแก้ปัญหาที่ต้องเร่งทำโดยด่วนขณะนี้ คือ การสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เบื้องต้นจากที่ได้รับฟังรายงานจากหน่วยงานความมั่นคง สิ่งที่จะมาดูแลป้องกันประชาชนจากนี้ คือ เพิ่มบูรณการการทำงานร่วมกันทั้ง กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อส. พร้อมดึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา และพี่น้องประชาชนมาช่วยดูแลในหมู่บ้าน ชุมชน และเพิ่มมาตรการด้านการสืบสวน ด้านการข่าว และเมื่อเกิดเหตุต้องมีข้อเท็จจริงให้ประชนชนได้รับรู้ในส่วนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่พร้อมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หมู่บ้านชุมชนต้องเป็นพื้นที่ของรัฐ ไม่ใช่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รัฐต้องลงไปดูแลและนำปัญหาข้อทุกข์ร้อนของหมู่บ้านชุมชนมาแก้ไข
สำหรับมาตราการดูแลความปลอดภัยกลุ่มเปราะบาง ก็ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนแนวทางกับหน่วยงานทหารและตำรวจไปแล้วซึ่งทุกหน่วยได้ทำงานอย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญตอนนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้กับประชาชน และการดูแลเยียวยาทางจิตใจ ก็ได้ให้นักสิทธิและนักจิตวิทยาได้ลงพื้นที่ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว
นอกจากนี้ต้องให้ ผู้นำศาสนาเข้าไปสร้างความเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องทางศาสนา เพื่อไม่ให้เกิดการบิดเบือนสร้างความแตกแยก ทั้งนี้ ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ หน้าที่ของรัฐบาล คือการนำสันติสุขและสันติภาพกลับคืนมาสู่ประชาชน
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ