หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 พฤษภาคม 2568

วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลา 05:33 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 พฤษภาคม 2568


>> นายกฯ ย้ำ เหตุตึก สตง.ถล่ม ออกแบบผิดก็คือผิด ยัน ตนเองจะติดตามอย่างใกล้ชิด

08.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร" ถึงเรื่องตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ได้คุยกับกรมโยธาธิการ ว่า เราจะทราบได้อย่างไรว่าเหตุผลที่แท้จริงตึกถล่มเกิดจากอะไร โดยมีการให้ทำจำลองเหตุการณ์ซึ่งคนที่มาทำมี 4 สถาบัน และกรมโยธา โดยให้ทุกคนต่างทำแล้วเอาข้อมูลมาเทียบกัน เพื่อหาข้อมูลที่แท้จริงว่าตึก สตง.ถล่มได้อย่างไรเพียงตึกเดียว ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 90 วัน แต่ตนรู้สึกว่านานไป ทางกรมโยธาบอกว่าปกติใช้เวลา 2 ปี แต่ตนคิดว่านานเกินไป เพราะถ้าประเทศไทยไม่มีคำตอบเรื่องนี้ ไม่ทราบว่าตรงไหนเป็นจุดที่พลาดถือเป็นเรื่องใหญ่มีคนเสียชีวิตเพราะตึกถล่มทั้งตึกและมีคนเสียชีวิตมากมาย ไม่มีคำตอบออกมาได้อย่างไร

"ดิฉันในฐานะมนุษย์คนหนึ่งรับไม่ได้กับเรื่องนี้ และรับไม่ได้ว่าจะไม่มีคำตอบ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ตัวดิฉันตามอย่างใกล้ชิด และได้กำชับไปแล้วกับทางเจ้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ้าในกระบวนการเซ็นต่างๆ มันผิดตั้งแต่การอนุญาตก็ต้องถูกดำเนินคดีแล้ว ยังไม่ต้องพูดเรื่องตึกถล่มเลย การออกแบบออกมาการมีอุปกรณ์ประกอบในตึกถูกหรือยัง ถ้าผิดก็คือผิด ยังไม่ต้องพูดถึงตึกถล่มด้วยซ้ำนี่คือสิ่งที่ทำอยู่ และตึกอื่นๆ ก็ให้ตรวจสอบเช่นกัน เพราะอยากให้มีพื้นฐานที่เป็นมาตรฐานที่ดีของประเทศเรา"

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ตึกที่สร้างใน กทม. ด้วยข้อจำกัด และข้อกำหนดสามารถรองรับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นตึกอื่นๆ ที่ไม่เกิดปัญหาเพราะข้อต่างๆ ที่ต้องสร้างตึกมีอยู่แล้วว่าต้องรองรับแผ่นดินไหวได้กี่ริกเตอร์ เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่ามีเพียงแค่ตึก สตง.ตึกเดียวที่ถล่ม


>> ตำรวจนำตัวหนุ่มโหด กระหน่ำยิงเพื่อนรักดับ ไปฝากขังศาลนนทบุรี

08.00 น.พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด นำตัวผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนเสียชีวิต มาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ทางด้านครอบครัวมีพ่อ แม่และพี่สาว นำอาหารข้าวผัดกระเพราไข่ดาว หมูปิ้งข้าวเหนียว น้ำดื่มและยา มาเยี่ยมลูกชาย โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ

ต่อมา หลังจากสอบปากคำเสร็จ ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ก่อเหตุ เข้าห้องขัง เพื่อให้กินข้าวและยา จากนั้นได้นำตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาไปส่งศาลจังหวัดนนทบุรี ระหว่างเดินขึ้นรถผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามสาเหตุการลงมือครั้งนี้ แต่ผู้ก่อเหตุ ไม่ยอมพูดใดๆ ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากขอโทษผู้เสียชีวิตหรือไม่ ผู้ก่อเหตุ กล่าวสั้นว่า“ขอโทษครับ“ ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้งสองคนเป็นคู่เกย์กันตามที่เป็นข่าวหรือไม่ ผู้ก่อเหตุ ได้ส่ายหัวปฎิเสธ และย้ำว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพ่อของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลแต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ โดยกล่าวว่า เรื่องที่เป็นข่าวว่าเป็นคู่เกย์ และเรื่องชู้สาว ไม่เป็นความจริง ตนสอบถามลูกหลังจากที่เขาก่อเหตุแล้วโทรมาหา ลูกบอกว่าแค้นใจที่เขามาต่อย จึงโมโหขับรถตามไปยิง

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในทาง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และยิ่งปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน พร้อมคัดค้านการประกันตัว


>> เด็กชายวัย 7 ขวบ วิ่งข้ามถนน ถูกรถกระบชนร่างกระเด็นเสียชีวิต

09.20 น. ได้รับแจ้งจาก มูลนิธิแสงธรรมสาธารณกุศลอำเภอแม่จัน ว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะชนคนข้ามถนนและมีผู้เสียชีวิต บนถนนบ้านหล่อชา - สันติสุข ในพื้นที่ ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

ที่เกิดเหตุ พบเป็นรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ลักษณะเฉี่ยวชนคนข้ามถนน และมีมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบ เป็นเด็กชาย อายุ 7 ปี กู้ภัยแสงธรรม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ร่วมสอบสวน พร้อมแพทย์เวรร่วมชันสูตร ณ.ที่เกิดเหตุก่อนนำส่งโรงพยาบาลแม่จัน


>> ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันฉัตรมงคล

10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๗ และรัชกาลที่ ๙ ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก ถวายศีล และพระสงฆ์ถวายพรพระ จบแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารแด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก ประธานสงฆ์ นอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทรงประเคน และประเคน จนครบ ๒๐ รูป เสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่ สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ เจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ ๒๐ รูป ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาเทวดาที่รักษาพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เครื่องราชกกุธภัณฑ์ ทรงคม พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เครื่องราชกกุธภัณฑ์ ครบ ๓ รอบ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เจิมพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร โหรหลวงผูกผ้าสีชมพู เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงพระสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ทองคำประจำรัชกาลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วทรงกราบพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๑ ถึงรัชกาลที่ ๗ และรัชกาลที่ ๙ ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ


>> ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เยี่ยมผู้ประสบเหตุวาตภัย สั่งการ อบต.เร่งสำรวจความเสียหาย เยียวยา

10.00 น. นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบวาตภัย หรือพายุฝนและลมแรงพัดกระหน่ำเมื่อช่วงเช้ามือของวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาในพื้นที่หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 4 ตำบลนาโคก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้มีบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหมด 10 หลังคาเรือน ซึ่งก็มีทั้งเสียหายแบบเล็กน้อย ไปจนถึงเสียหายมาก

ทั้งนี้นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ นอกจากจะมอบถุงยังชีพและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจากเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร กับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้ง 10 ราย (10 หลังคาเรือน) แล้ว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้พูดคุยให้กำลังใจแก่ทุกคนได้เดินหน้าสู้ต่อไป แม้ว่าจะประสบเหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังสั่งการกำชับให้นายก อบต.นาโคก และเจ้าหน้าที่ฯ เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดไปดำเนินการขอรับเงินช่วยเหลือเพื่อการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยอันเนื่องมาจากภัยพิบัติให้แก่ผู้ประสบภัยตามระเบียบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ก็จะดำเนินการสำรวจตรวจสอบบุคคลที่ประสบวาตภัยว่า ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรหรือไม่ หากพบว่ามีการขึ้นทะเบียนไว้แล้วก็จะนำเข้าสู่ขั้นตอนการขอรับเงินช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มเติมอีกด้วย

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่หมู่ที่ 2 และ หมู่ที่ 4 ของตำบลนาโคก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ทั้ง 10 รายนั้น มีสภาพที่แตกต่างกันไป อาทิเช่น บ้านเรือนเสียหายหลังคาเปิดหมดทั้งหลัง, บ้านเรือนเสียหายบางส่วน และ ยุ้งเกลือเสียหายถูกลมพัดหลังคาเปิด เป็นต้น โชคดีที่ผู้อยู่อาศัยปลอดภัยทุกคน แม้บางคนอาจจะมีบาดเจ็บเล็กๆ น้อย หรือยังอยู่ในอาการตกใจกลัว โดยทุกคนต่างพูดเหมือนกันว่า ไม่เคยเจอพายุฝนและลมพัดกระหน่ำรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต


>> อาชักปืนรัวยิงนับ 10 นัด หลานเสียชีวิต 2 ศพ

11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ รับแจ้งเหตุยิงกันภายในซอยบุญถนอม ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย 1 ราย อายุ 55 ปี และ หญิง 1 ราย อายุ 50 ปี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น บริเวณลานจอดรถในรั้วบ้าน พบศพฝ่ายชาย ถูกยิงที่หน้าอกหลายนัด ส่วนฝ่ายหญิง ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 7 ปลอก

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคืออดีตผู้ใหญ่บ้านเป็นชาย อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นอาของผู้เสียชีวิต โดยมีปัญหาบาดหมางสะสมกันมานานหลายปี กระทั่งล่าสุดเกิดการโต้เถียงรุนแรงเรื่องการติดตั้งรั้วเมทัลชีท ระหว่างรั้วบ้าน โดยช่างรับเหมาเจาะติดตั้งโดยไม่รู้ว่าทั้งสองครอบครัวมีปัญหากัน ทำให้บานปลาย จนผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงหลานชายและหญิงที่อยู่ในบ้านเสียชีวิตทันที

มีรายงานว่าผู้ก่อเหตุยังพยายามยิงลูกของผู้เสียชีวิต แต่โชคดีที่กระสุนไม่ถูกเป้าหมาย ภรรยาของผู้ก่อเหตุสามารถแย่งปืนไว้ได้ก่อนที่เขาจะขับรถหลบหนีไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจะแจ้งให้ทราบต่อไป


>> กทม. ปรับยอด ผู้ประสบเหตุ เพิ่มเป็น 109 ราย พิสูจน์หลักฐานแจ้งเพิ่มผู้สูญหายต้องติดตามอีกเป็น 14 ราย

11.50 น. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) และพันตำรวจเอกหญิงวันเพ็ญ ด้วงปั้น ผู้กำกับการกลุ่มงานพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวแก้ไขตัวเลขผู้ประสบเหตุ จากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

รศ.ทวิดา กล่าวว่า ตามที่ได้มีญาติผู้ประสบเหตุแจ้งความตามหาเป็นบุคคลสูญหาย ไว้ที่สน.บางซื่อ ที่ผู้ประสบเหตุทั้งหมด 103 รายนั้น ล่าสุด มีญาติของผู้สูญหายมาแจ้งเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ตัวเลขของผู้ประสบเหตุและตัวเลขของผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างการติดตามเพิ่มขึ้น ซึ่งพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ และ กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้สอบสวนยืนยันแล้ว จำนวน 6 ราย

กองอำนวยการร่วมจึงขอทำการปรับเปลี่ยนพร้อมประกาศผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ว่า ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 12.00 น. จำนวนผู้ประสบเหตุเพิ่มขึ้นเป็น 109 รายจากเดิม 103 ราย โดยยืนยันผู้เสียชีวิต 86 ราย ผู้บาดเจ็บ คงที่ 9 ราย และอยู่ระหว่างการติดตามอีก 14 ราย จากเดิม 8 ราย

ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลขณะนี้ มีการ เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติสายตรงไว้จำนวน 100 ราย เพื่อเตรียมนำมาเปรียบเทียบกับศพ ของผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างการติดตาม โดยสถาบันนิติเวชสามารถตรวจพิสูจน์ยืนยัน เป็นผู้เสียชีวิตแล้ว 86 ราย ในจำนวนนี้เป็นร่างผู้เสียชีวิตสมบูรณ์ 78 ราย และเป็นชิ้นส่วนที่มีการตรวจพิสูจน์แล้วตรงกัน 8 ราย และในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด สามารถพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลว่าเป็นใคร จำนวน 63 ราย แยกเป็นสัญชาติไทย 46 ราย เมียนมา 15 ราย กัมพูชา 1 ราย และ ลาว 1 ราย


>> ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568

12.00 น. กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2568 โดยทำการยิงพร้อมกันทั้ง 3 เหล่าทัพ ณ ท้องสนามหลวง โดยจัด 1 กองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 วินาที

สำหรับการยิงสลุต ถือเป็นธรรมเนียมที่ทุกประเทศทั่วโลก ได้ยึดถือสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพให้แก่ชาติหรือบุคคล โดยยิงปืนใหญ่ด้วยดินดำหรือดินไม่มีควัน มีจำนวนนัดเป็นเกณฑ์ตามควรแก่เกียรติ หรือสิ่งที่ควรรับความเคารพ ในปัจจุบันประเทศไทยยึดตามหลักเกณฑ์ ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา, พระราชพิธีฉัตรมงคล หรือวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมราชินี หรือสมเด็จพระยุพราช รวมถึงงานต้อนรับพระมหากษัตริย์หรือประมุขแห่งรัฐ จะทำการยิงสลุตจำนวน 21 นัด เพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุด


>> ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ พื้นที่บ้านไอร์ซือเระ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่เจ็บ 2 นายและมีเสียชีวิต 1 นาย

13.30 น. ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จังหวัดนราธิวาส ได้รับแจ้ง ได้มีคนร้าย ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนคดีความมั่นคง กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดบริเวณบ้านไอร์ซือเระ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บาดเจ็บ จำนวน 3 ราย คือ

ส.ต.ท.ภคพงศ์ โดนสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า และข้อมือซ้าย อาการสาหัส รู้สึกตัว, ด.ต.สาธิต ถูกสะเก็ดบริเวณ ศรีษะ อาการยังรู้สึกตัว และ ส.ต.ท.ธีปกร โดนสะเก็ด ระเบิดขาขวาอาการ รู้สึกตัว โดยผู้บาดเจ็บทั้ง 3 นาย ขณะนี้ได้ถูกนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลอำเภอจะแนะ

ต่อมา รับแจ้งว่า ส.ต.ท.ภคพงศ์ ที่บาดเจ็บอาการสาหัส ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ขอแสดงความเสียใจด้วยความอาลัยยิ่ง เจ้าหน้าที่ผู้กล้า ที่เสียสละชีวิตตนเพื่อรักษาความสงบสุขให้แก่ประชาชน


>> ตร.ทล.อ่อนนุช ร่วมไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหาคดียิงดับ หนีจากสมุทรปราการมาชลบุรี

15.20 น. ตำรวจทางหลวงอ่อนนุช ร่วมกับตำรวจ กองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ภาค 1 (กก.3 บก.สส.ภ.1) และ สภ.แสนสุข ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายมานิตย์ ผู้ต้องหาคดียิงผู้อื่นเสียชีวิตในพื้นที่ สภ.สำโรงใต้ จังหวัดสมุทรปราการ หลังเกิดเหตุ หลบหนีจากที่เกิดเหตุโดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์สาย 7 มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานแจ้งรถตรวจเขตให้ติดตามและสกัดจับ กระทั่งสามารถไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณถนนข้าวหลาม ขณะกำลังมุ่งหน้าชายหาดบางแสน

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวที่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน และเคยมีการแจ้งความดำเนินคดีกันมาแล้ว

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการสอบสวนที่ สภ.แสนสุข และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> หอเตือนภัยสึนามิ 2 แห่งใน จ.ตรัง ถูกคนร้ายขโมยอุปกรณ์ จนท.เร่งของบซ่อมแซม

17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุปกรณ์ของหอเตือนภัยสึนามิ ที่ จ.ตรัง จากจำนวน 25 แห่ง โดนคนร้ายขโมยอุปกรณ์ไป 2 แห่ง โดยได้รับการเปิดเผยจาก

นายอุดมพร กาญจน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.ตรัง เปิดเผยว่า จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทำให้เกิดภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดแผ่นดินไหวบนบกและแผ่นดินไหวใต้ทะเล ภาวะฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลกระทบต่อประชาชนทำให้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง ได้สั่งการให้เร่งสำรวจพื้นที่ ที่เกิดเหตุซ้ำซาก และให้เตรียมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ เนื่องจากขณะนี้ใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีฝนตกมาก ที่สำคัญคือการเตือนภัยให้ประชาชนได้ทราบล่วงหน้า

ในส่วนของการแจ้งเตือนภัยการเกิดสึนามินั้น ถึงแม้ว่าจะผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีการเฝ้าระวังและการแจ้งเตือนหากเกิดสึนามิ ที่ จ.ตรัง มีหอเตือนภัย 25 แห่ง ตลอดแนวชายฝั่ง สามารถใช้งานได้จริง 23 แห่ง อีก 2 แห่ง ไม่สามารถใช้งานได้ คือที่เกาะเหลาเหลียง และที่บ้านหัวหิน อ.สิเกา เนื่องจาก มีการลักขโมยอุปกรณ์ของหอเตือนภัย ทำให้ไม่สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้หากเกิดสึนามิ ได้รายงานและของบประมาณ ในการซื้ออุปกรณ์มาเปลี่ยนที่หอเตือนภัยสึนามิแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะมีการซ้อมแผนอพยพ สมมุติสถานการณ์เกิดเหตุสึนามิ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ของทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน การแจ้งเตือนเมื่อเกิดสึนามินั้น จะได้รับการแจ้งเตือนประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่คลื่นสึนามิจะเดินทางมาถึง จ.ตรัง


>> หนุ่มขึ้นไปตีรังผึ้งบนเขาเรด้า เกิดพลัดตกหน้าผาเสียชีวิต จ.กาญจนบุรี

18.00 น. มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี เขตทองผาภูมิ พร้อมหน่วย อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย ธน34-00 ฐานบุญวิภา จุดทองผาภูมิ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุบุคคลตกจากเขา (หน้าผา) บริเวณเขาเรด้า ใกล้เคียงกับ นพค.11 ในพื้นที่ ม.1 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

โดยเจ้าหน้าที่ ต้องทำการเดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลเมตรซึ่งเป็นทางลาดชัน ในที่เกิดเหตุพบผู้ประสบเหตุ เป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 30-40 ปี ลักษณะสวมชุดที่ใช้ทำลายรังต่อหรือทำลายผึ้ง ซึ่งเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ในสภาพนอนหงายหน้าแขนทั้งสองข้างกางออก เบื้องต้นคาดว่า ชายดังกล่าวได้ปีนหน้าผาเพื่อจะเอาน้ำผึ้ง แล้วเกิดพลัดตกลงมาแล้วเสียชีวิต แล้วมีผู้มาพบจึงได้ประสานไปยังอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าทำการตรวจสอบ

ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวร สภ.ทองผาภูมิ และเจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลทองผาภูมิ มาถึงจุดเกิดเหตุดำเนินการตรวจสอบ พื้นที่โดยรอบ และตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตในการหาร่องรอยโดยรอบ และได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาสมัครดำเนินการนำไปส่งชันสูตรเพิ่มเติมยังโรงพยาบาลทองผาภูมิต่อไป


>> รอง สวป. ออกไปตัดต้นไม้ แล้วไม่กลับบ้าน ญาติออกตามหา พบร่างถูกต้นไม้ล้มทับเสียชีวิตกลางสวน

18.45 น. สภ.สันติสุข จ.น่าน ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุต้นไม้ล้มทับ ภายในสวนป่าบ้านโป่งคำ ต.ดู่พงษ์ อ.สันติสุข จ.น่าน

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณบนดอยท้ายหมู่บ้านโป่งคำ พบผู้เสียชีวิต คือ ร.ต.ท.ธนพงศ์ อายุ 57 ปี รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.สันติสุข สภาพศพสวมเสื้อลายพราง เสื้อยืดสีเขียว กางเกงขายาวสีดำ ถูกต้นไม้ขนาดประมาณ 1 คนโอบล้มทับร่างจนเสียชีวิต คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 3 ชั่วโมง

จากการสอบถามญาติทราบว่า ผู้ตายออกจากบ้านไปทำสวนตามปกติ แต่เมื่อถึงช่วงค่ำยังไม่กลับบ้าน จึงพากันออกติดตาม กระทั่งพบร่างถูกต้นไม้ล้มทับเสียชีวิตอยู่ในสวน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

เบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์ และนำร่างส่งตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลสันติสุข พร้อมทำแผนที่และบันทึกภาพไว้ประกอบการสอบสวน


>> หนุ่มป่วยจิตเวช ตกจากที่สูงบริเวณโรงพยาบาล ในพื้นที่เมืองยะลา ร่างกระแทกหลังคาแล้วตกสู่พื้นเสียชีวิต

19.05 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเหตุคนพยายามจะกระโดดตึก 10 ชั้น ภายในโรงพยาบาล พื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดกู้ชีพ-กู้ภัยแม่ทับทิมยะลา ชุดกู้ชีพ-กู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าจุดเกิดเหตุทันที 
พบชายอายุ 28 ปี ใส่เสื้อสีดำ กางเกงสีดำ ทราบเบื้องต้นว่าได้เข้ามาภายในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ แล้ววิ่งไปที่ท้ายระเบียงห้องพิเศษ ชั้น 10 ของอาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดกู้ภัย แพทย์ และพยาบาล ช่วยกันเกลี้ยกล่อม

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญญาติมาร่วมเกลี้ยกล่อม แต่ไม่สำเร็จ ชายดังกล่าว ได้กระโดดลงมากระแทกหลังคา ก่อนตกลงสู่พื้นเสียชีวิต หลังจากเจ้าหน้าที่ทุกส่วนใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าชายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยจิตเวช


>> เหตุแทงกันริมถนน ผู้บาดเจ็บสาหัสและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

20.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รับแจ้งว่า เกิดเหตุชายคนหนึ่งถูกกลุ่มคนร้าย ใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายบาดเจ็บอาการสาหัส บริเวณใกล้สี่แยกใกล้กับหน้าห้างสรรพสินค้า ถนนประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 40 - 45 ปี มีอาการสาหัสและหมดสติ อาสาสมัครได้ทำการปั๊มหัวใจ และปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

00.53 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.0 ความลึก 2 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 78 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

 

>> หนุ่มวัย 19 ขับขี่รถจักรยานยนต์ป้ายแดง เสียหลักชนเสาไฟฟ้า เสียชีวิตริมถนนศรีโสธรตัดใหม่

02.30 น. รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟฟ้า และมีผู้เสียชีวิต ริมถนนศรีโสธรตัดใหม่ ก่อนออกถนนมหาจักรพรรดิ์ ประมาณ 1 กม. ในพื้นที่ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียนป้ายแดง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ลักษณะพุ่งชนเสาไฟข้างทาง ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 19 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา 


>> แผ่นดินไหม ที่เมีองเชียงราย

03.52 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.9 ความลึก 2 กม. ในพื้นที่ ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ยังไม่มีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน 

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ