24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2568
>> ไฟไหม้ภายในอาคารพาณิชย์ ถนนสุรศักดิ์ รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
08.40 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ถนนสุรศักดิ์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 8 ชั้น ประกอบกิจการ สำนักงานให้เช่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นชั้นใต้ดิน ชั้น B 2 ใช้สำหรับจอดรถจักรยานยนต์ เพลิงลุกไหม้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เสียหายหมดทั้งคัน จำนวน 7 คัน, เสียหายบางส่วน จำนวน 9 คัน รถจักรยานยนต์ใช้น้ำมันเสียหายจำนวน 8 คัน ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ลุกลามห้องเก็บของ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 12 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางรัก
>> นายกฯ ย้ำ รัฐบาลดูแลคนไทยทุกวัย ให้ห่างไกล NCDs เร่งยกระดับบริการสาธารณสุข ให้เข้าถึงง่ายและทั่วถึง
09.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข “30 บาท รักษาทุกที่ อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs” เขตสุขภาพที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการต่าง ๆ ณ อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชัน เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 9 - 10 เมืองทองธานี
นายกฯ เน้นย้ำว่า สุขภาพเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดตัวเลขของผู้เสียชีวิต พร้อมให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันและปฏิบัติตนเพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุของการเกิดโรค รวมถึงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างรัฐกับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจว่ารัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง เพื่อให้มีศักยภาพในการร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไป
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุขให้ประสบผลสำเร็จ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะเร่งลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
>> รถตู้เสียหลักชนขอบทางแล้วพลิกตะแคงกลางถนน มีผู้บาดเจ็บนับสิบราย
09.45 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัย ฮุก31 จุดไทยสามัคคี มีอุบัติเหตุ รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนหมายเลข 304 ฝั่งขาเข้า จ.นครราชสีมา ในพื้นที่ บ้านศิลางาม ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ โตโยต้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะพลิกตะแคงอยู่กลางถนน ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 10 ราย โดยเป็นชาย 7 รายและหญิง 3 ราย อาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.วังน้ำเขียว สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเขียว
>> ไฟไหม้บริเวณตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เสียหายเป็นร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ไร้ผู้บาดเจ็บ
10.00 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว มอบหมายให้นายอุทัย ขันทอง รักษาการหัวหน้า ปภ.จังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยนายธงชัย สังสิมมา ลงพื้นที่ เนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้ภายในตลาดโรงเกลือ ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าต้นเหตุเกิดร้านขายสินค้า ล็อค ค5 โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาสาธารณภัย นำอุปกรณ์ดับเพลิงและรถดับเพลิงประมาณ 10 คันเข้าระงับเหตุ เหตุไฟไหม้ครั้งนี้ มีห้องขายเสื้อผ้ามือสองเสียหายไปด้วยประมาณ 4 - 5 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นร้านขายผ้า ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ สาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ในการเกิดเหตุครั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต สาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก
>> กระบะพลิกคว่ำตกเขา คนขับร่างกระเด็นออกมาเสียชีวิตนอกรถ
10.00 น. ศูนย์กู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักตกเขาพลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บกระเด็นออกมานอนตัวรถ ริมถนนในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ลักษณะพลิกตะแคง และห่างออกไปพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย สวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อต สวมกางเกงวอร์มขายาว นอนคว่ำหน้า กะโหลกศีรษะแตก ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พะโต๊ะ พร้อมด้วยแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัคร นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรศพ รพ.พะโต๊ะ และญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
>> ไฟลุกที่กองใยมะพร้าวและใยต้นปาล์มรีไซเคิล จนท.พร้อมรถดับเพลิงระดมฉีดน้ำสกัด
13.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แจ้งว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้กองขยะ ในโรงงานโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ของ ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเกิดเหตุบริเวณบริเวณกองขยะรีไซเคิล (ใยมะพร้าวและใยต้นปาล์ม) ที่กองทับถมกันอยู่ด้านนอกโกดัง เกิดความร้อนสะสมเกิดกลุ่มควันโพยพุ่งออกมา
การให้ความช่วยเหลือ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับอำเภอทับสะแกประสานงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง องค์การบริหารส่วนตำบลแสงอรุณองค์การบริหารส่วนตำบลนาหูกวาง เทศบาลตำบลทับสะแก พร้อมเจ้าหน้าที่ นำรถบรรทุกน้ำดับเพลิง จำนวน 4 คัน เข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ โดยการฉีดน้ำ และนำรถแบคโฮ เข้าโกยกองใยมะพร้าวและใยต้นปาล์มเพื่อฉีดน้ำลงไปด้านล้าง
สถานการณ์ปัจจุบัน สามารถควบคุมเพลิงไว้อยู่ในวงจำกัด ในที่เกิดเหตุเป็นวันหยุดไม่มีคนงานหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ สภ.ทับสะแก
>> ผอ.รพ. หนองบัวแดง ตัดสินใจลาออกจากราชการต่อสู้คดีเมาแล้วขับ
13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี ผอ.โรงพยาบาลหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เมาแล้วขับชนผู้ช่วยช่างภาพสื่อช่องดัง บาดเจ็บสาหัส 2 ราย พบผลเป่าวัดแอลกอฮอล์ได้ 119 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย ระหว่างนายแพทย์พุทธา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวแดง คนขับรถ กับ นายทศวรรษ อินพุก ช่างภาพข่าวไทยรัฐทีวี ในฐานะผู้เสียหาย เพื่อเจรจาเรื่องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล
โดยเบื้องต้น ทางผู้เสียหายได้เรียกค่าทำขวัญและค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวน 3 แสนบาท ขณะที่ทาง ผอ.โรงพยาบาล ปฏิเสธยอดเงินดังกล่าว ตำรวจจึงได้ขอให้เลื่อนการไกล่เกลี่ยออกไปเป็นวันที่ 15 พฤษภาคม เนื่องจากต้องรอให้ผู้บาดเจ็บ รักษาตัวให้หายดีก่อน และรอผลจากใบรับรองแพทย์ด้วย จึงเข้าสู่การไกล่เกลี่ยพร้อมกัน
ส่วนผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดนั้น ได้มีการส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่สถาบันการแพทย์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา รอผลประมาณ 7 วัน
ขณะที่ทาง ผอ.โรงพยาบาล ได้พูดทิ้งท้ายในห้องประชุมว่า ตนเองนั้นเตรียมเกษียณอายุราชการภายในอีก 1 ปีหลังจากนี้ โดยตั้งใจเลือกโรงพยาบาลหนองบัวแดงเป็นโรงพยาบาลสุดท้ายในการเกษียณ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงขอตัดสินใจลาออกจากราชการทันที เพื่อต่อสู้คดีต่อไป
>> จังหวัดเชียงราย ติดตามคุณภาพน้ำแม่น้ำกก เพิ่มจุดตรวจและความถี่ในการเก็บตัวอย่าง
13.30 น. นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการเพื่อติดตามและตรวจสอบคุณภาพน้ำแม่น้ำกก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ที่ประชุมได้หารือแผนการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานเพื่อร่วมกันเฝ้าระวังและตรวจสอบคุณภาพน้ำแม่น้ำกกอย่างเป็นระบบ โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 รายงานว่า ได้เพิ่มจุดตรวจน้ำจากเดิม 3 จุดเป็น 9 จุด รวมทั้งตรวจน้ำในลำน้ำสาขาอีก 5 จุด รวมทั้งสิ้น 14 จุด พร้อมเพิ่มความถี่ในการเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินและตะกอนดิน
ขณะเดียวกัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายเตรียมส่งข้อมูลจุดใช้น้ำดิบจากแม่น้ำกกสำหรับผลิตประปาให้กับสำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เพื่อประกอบการวางแผนตรวจสอบ ส่วนสำนักงานประมงจังหวัด จะประสานกับส่วนกลางเพื่อตรวจหาสารปนเปื้อนในตัวปลา โดยเก็บตัวอย่างจากต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จุดละ 2 ตัวอย่าง ด้านสำนักงานเกษตรจังหวัด ได้เก็บตัวอย่างพืช 5 ชนิด และดินจาก 8 แห่ง ที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกก เพื่อตรวจหาสารปนเปื้อนเช่นกัน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เน้นย้ำว่า ผลการตรวจคุณภาพน้ำจะยึดตามผลวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งให้ผลที่ชัดเจนกว่าการใช้ชุดตรวจแบบเร่งด่วน พร้อมขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการส่งผลตรวจมายังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด เพื่อจัดทำเป็นรายงานกลางสำหรับเผยแพร่สู่ประชาชน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเสนอให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เพิ่มการเก็บตัวอย่างน้ำจากแม่น้ำสาย หลังพบกระแสข่าวว่ามีสารหนูเกินค่ามาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่
>> นายกฯ ร่วมประชุมแผนปฏิบัติการ AI เพื่อพัฒนาประเทศไทย
14.00 น. นายกฯ ประชุมแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทย ครั้งที่ 1/2568 ตั้งเป้าพัฒนาประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในภูมิภาค
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทย (National AI Committee) ครั้งที่ 1/2568 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
นายกฯ กล่าวเปิดการประชุม โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศ พร้อมตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำ สามารถยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล สร้างรายได้ พัฒนานวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน
>> ฟ้าผ่าฝูงวัวกลางทุ่งตาย 13 วัว ปศุสัตว์อำเภอเข้าตรวจสอบช่วยเหลือ จ.สุโขทัย
15.05 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุโขทัย รายงานความเสียหายจากพายุฝนลมกระโชกแรง ในพื้นที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้พบว่าที่หมู่ 4 และหมู่ 10 ตำบลเขาแก้วศรีสมบูรณ์ มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 3 หลังคาเรือน ทางหน่วยงานท้องถิ่นจึงเตรียมให้ความช่วยเหลือต่อไป ขณะที่หมู่ 5 ตำบลวังลึก อำเภอบ้านด่านลานหอย หลังฝนฟ้าคะนองเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฟ้าผ่าฝูงวัวของ นายปรีชาเกษตรกรที่เลี้ยงวัวไว้บริเวณใต้ต้นไม้ในคอกกลางทุ่ง ตายไปจำนวน 13 ตัว
ภายใต้การอำนวยการของน่ายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย โดยนายคณิตธวัช บำรุงรัตน์ นายอำเภอบ้านด่านลานหอย มอบหมายให้ปศุสัตว์อำเภอบ้านด่านลานหอย ตรวจสอบเหตุกรณีฟ้าผ่าวัวของเกษตรกร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอฯ และ อบต.วังลึก ได้เข้าตรวจสอบเตรียมให้ความช่วยเหลือ โดย มอบเวชภัณฑ์ มอบน้ำยาฆ่าเชื้อ และให้คำแนะนำในการรักษาสุขภาพสัตว์ แก่เกษตรกรเจ้าของสัตว์ด้วย
>> “พิชัย” เผยการเจรจาสหรัฐฯ มีเรื่องอื่นต้องกังวลนอกจากภาษี ภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างของแต่ละประเทศ
15.10 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมในการเจรจากับสหรัฐอเมริกาว่า ในเรื่องกำแพงภาษีเราได้เตรียมไปตรงแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปเข้าใจว่าทางฝั่งสหรัฐฯ ต้องการดูแผนที่สามารถจับต้องได้มากขึ้น และทั้งสองประเทศได้ผลประโยชน์อะไรร่วมกันบ้าง เขาคงอยากดูถึงความเป็นไปได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราได้ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แต่ที่เราห่วงคือ อันที่ไม่เกี่ยวกับภาษีมากกว่า เช่น เรื่องกติกาต่างๆ ซึ่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯ คงพิจารณาว่าบ้านเรามีอะไร น่าจะเป็นส่วนนี้มากกว่าที่เราจะต้องเตรียมโจทย์ เตรียมคำตอบ
เมื่อถามถึงท่าทีของไทยต่อสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการเจรจาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า คงทราบอยู่แล้วว่าเราอยากเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง ประสานผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ฉะนั้น เวลาเราคุยจะไม่ได้ดูว่าเอาผลประโยชน์ของใคร แต่จะดูว่าเราจะเอาอะไรที่สามารถไปแลกเปลี่ยนได้ ส่วนการเจรจาจะเป็นการเกาะกลุ่มอาเซียนกันไปหรือไม่นั้น พูดตรงๆ เราค้าขายในอาเซียนค่อนข้างเยอะ ต้องเกาะกลุ่มกันไป แต่ถ้าเงื่อนไขในประเทศอาเซียนได้แตกต่างกัน จะกลายเป็นว่าพวกเราจะมีปัญหากันเอง ดังนั้นหลักๆ แล้วคงต้องไปด้วยกัน
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีการดำเนินคดี ม.112 กับนักวิชาการชาวสหรัฐฯ เรื่องนี้จะถูกนำมาเป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งกระทบต่อการเจรจาหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เราต้องสามารถแก้ไขปัญหาได้ เชื่อมั่นอย่างนั้น เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้
>> หนุ่มกัมพูชา ขับขี่รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิตกลางถนนภายในซอยวัดศรีวารีน้อย
18.10 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตี๊ง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์, รถแท็กซี่ และรถกระบะเฉี่ยวชนกัน และมีผู้เสียชีวิต กลางถนนวัดศรีวารีน้อย ใกล้เคียงหมู่บ้านนิรันวิลล์ 12 ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สภาพรถพังเสียหายที่หน้ารถแท็กซี่ สีเขียว -เหลือง กทม. สภาพกันชนหน้าเสียหาย และห่างออกไปพบรถกระบะ นิสสัน สีส้ม กทม. สภาพข้างรถฝั่งขวามีร่องรอยการเฉี่ยวชน จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายสัญชาติกัมพูชา อายุ 38 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี
>> ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผย วันเดียวพบผู้ติดค้างใต้ซากอาคารเพิ่ม 10 ร่าง
20.38 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการค้นหาผู้ประสบภัยจากอาคารถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เขตจตุจักร พร้อมให้กำลังใจและขอบคุณและชื่นชมทีมกู้ภัย กับการค้นพบร่างผู้ติดค้างในวันนี้ถึง10 ร่าง โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ นิยามว่าเป็น breakthrough ของภารกิจนำผู้ติดค้างกลับบ้านในรอบหลายวัน
วันแรงงานวันนี้ถือเป็น breakthrough หรือว่าทะลุเป้าในการค้นหาครั้งยิ่งใหญ่ ตอนนี้พบเพิ่ม 10 ร่าง โดยตั้งแต่เมื่อคืนที่มาติดตามการทำงานตอนตี 3 จนเมื่อตอน 6 โมงเช้า เจอ 1 ร่าง แล้วจากนั้นก็มาเจออีก 9 ร่างที่อยู่ใกล้เคียงกัน จุดที่พบเป็นจุดที่เราคาดการณ์ไว้และพยายามเข้าถึงมาตลอดแต่เข้าถึงยากมาก คือบริเวณบันไดโซน D2 ที่คาดว่าผู้ประสบภัยจะหนีมารวมกันบนชั้น 3 และ 4 ของตึก ที่เชื่อมต่อไปยังอาคารจอดรถด้านหลัง ตอนนี้เหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ระหว่างการติดตามอีกประมาณ 12 คน ส่วน 10 ร่างที่พบจากนี้ก็รอผลชันสูตรจากนิติเวช
“เสียใจมาก ๆ ที่เขาเสียชีวิต แต่ดีใจที่เจอเขา ดีใจที่ได้พาเขากลับบ้าน ญาติพี่น้องจะได้เดินหน้าในการจัดการเรื่องที่เหลือและเริ่มต้นชีวิตต่อไป ทีมงานทุกคนเองก็มีแรงมีกำลังใจพร้อมลุยต่อเพราะเหมือนได้ทำลายกำแพงความอัดอั้นที่ไม่เจอมาหลายวัน วันแรงงานวันนี้ก็ไม่มีใครหยุดเพื่อพาร่างที่ยังติดค้างอยู่กลับบ้านให้ครบทุกคน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
22.44 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.2 ความลึก 5 กม. ภายในพื้นที่ของ ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 328 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีผู้เสียชีวิตกลางถนนเพชรเกษม
01.28 น. ทีมกู้ภัยสว่างสรรเพชญ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีเทา ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สีแดง กลางถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ ก่อนถึงตลาดหนองบ้วย ในพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 65 ปี สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง
>> ไฟไหม้เพิงพัก ซอยพึ่งมี 13 เสียหายวอดหมดทั้งหลัง
02.02 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยพึ่งมี 13 ถนนสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ชั้นเดียว ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในบ้าน เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 100 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้ไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพระโขนง
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ