หน้าแรก > ภูมิภาค

ผบช.ภ.1 รุดช่วย สภ.รัตนาธิเบศร์ เตรียมเสนอเพิ่มกำลังพลตำรวจ

วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เวลา 16:21 น.


จากกรณี สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ประสบปัญหาในการทำงานหลังพบว่าปริมาณงานกับกำลังพลที่มีอยู่ไม่สอดคล้องกัน จนทำให้งานสอบสวนของโรงพักล้นเกินกำลังของพนักงานสอบสวน กลายเป็นความเครียดสะสมก่อนป่วยเป็นโรคซึมเซากันหลายราย บางรายถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย จนสำนักงานตำรวจมีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 พ.ค.68 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1  พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยรองผู้บังคับการจังหวัดนนทบุรี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และรอง ผกก.สอบสวน ทั้ง 11 สถานี เข้าร่วมประชุมหาคือแนวทางกาคแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนไม่เพียงพอของ สภ.รัตนาธิเบศร์  มีคำสั่งให้ทุกสถานีตำรวจในจังหวัดนนทบุรี ตรวจสอบกำลังพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังจะทำการตรวจสอบทุกจังหวัดในพื้นที่ภูกธรภาค 1 นำเรื่องรายงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาระยะยาว โดยการประชุมในครั้งนี้ใช้เวลาเกือบ 2 ชม.

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยหลังจากประชุมว่า จากกาคประชุมสถานีตำรวจภูธรในจังหวัดนนทบุรี เพื่อตรวจสอบกำลังพลหาวิธีการแก้ปัญหากำลังพลไมาเพียงพอ โดยวันนี้ได้แก้ปัญหาให้กับ สภ.รัตนาธิเบศร์ ก่อน โดยจะมีการเติม พนักงานสอบสวนให้กับ สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้เพียงพอก่อน เนื่องจากสภ. รัตนาธิเบศร์ มีลักษณะเฉพาะที่พิเศษกว่าสถานีตำรวจที่อื่น เนื่องจากอยู่ใน จ.นนทบุรี ซึ่งอาจจะไม่เหมือนนครบาล แต่ปริมาณผู้คนที่ผ่านเส้นทางหน้าสถานีตำรวจและมาใช้บริการที่นี่ค่อนข้างมาก  เพราะตั้งอยู่ใกล้ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้า ลักษณะภูมิประเทศจึงคล้ายกับกรุงเทพมหานคร ทำให้คนเข้าแจ้งความจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาพนักงานสอบสวนไม่เพียงพอ วันนี้ จึงจัดกำลังผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนเทียบเท่ากับผู้กำกับสถานีมาเติมให้ทางด้านการสอบสวน โดยนำนายตำรวจผู้เชียวชาญจากกองสืบสวนภูธรภาค 1 จำนวน 2 นาย และให้ผู้กำกับสอบสวนที่ภูธรจังหวัดนนทบุรีอีก 2 นาย และรองผู้กำกับสอบสวนจาก สภ.บางบัวทอง 1 นาย รวมแล้ว 5 นายไปช่วยงานที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อแก้ปัญหาตรงส่วนนี้ก่อน สำหรับพนักงานสอบสวนทั้ง 4 นายที่ป่วยจะให้พักเวรไปก่อนและให้สะสางงานเก่าที่ค้างอยู่ โดยมีผู้กำกับสอบสวนลงไปช่วนดูแก้ไขปัญหาและดูความเรียบร้อยของงาน

อีกส่วนคือ ผู้กำกับสอบสวน ที่ส่งไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จะเข้าไปช่วยควบคุมงานในระดับบริหารของสถานีตำรวจให้ ส่วนรอง ผกก.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เดิมจะถอยลงมาช่วยพนักงานสอบสวนเข้าเวร วิธีการแก้ไขปัญหาตรงนี้จะการแก้ไขปัญหาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ได้ คนป่วยก็ให้พักรักษาตัวไปก่อน สำหรับสถานีตำรวจอื่นๆ ในจังหวัเนนทบุรี ตนได้สั่งการให้ผู้กำกับสถานีไปสำรวจข้อมูลของพนักงานสอบสวน และปริมาณงาน และสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต โดยทำเหมือนสภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนสภ.รัตนาธิเบศร์อีก นอกจากนี้ ตนจะให้จังหวัดอื่นๆในตำรวจภูธรภาค 1 ก็จะสำรวจเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นกัน

สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตนได้นำเรียนไปแล้วว่ากำลังพลที่อยู่ในตำแหน่งตามอัตรา กับกำลังพลที่มีอยู่จริงตอนนี้มีสัดส่วนแค่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งยังมีตำแหน่งว่างที่รองรับพนักงานสอบสวนได้อีกมาก ก็อยากให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแต่งตั้งในครี้งต่อไปดูตำแหน่งที่ขาดแคลนให้กับหน่วยงานของสถานีตำรวจที่ต้องทำงานใกล้ชิดประชาชน โดยเฉพาะ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ ให้ช่วยพิจารณานักเรียนนายร้อยที่จบใหม่เข้ามาเติมเติมในตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ จังหวัดปทุมธานี และ จังหวัดสมุทรปราการ ก็มีปริมาณหนาแน่นมากเช่นกัน เนื่องจากจำนวนเนื่องจากจำนวนประชากร และสถิติคดีค่อนข้างมาก นอกจากนี้สถานีตำรวจที่ไกลประชากรไม่มากแต่สถิติคดีก็ไม่น้อนเช่นกัน ซึ่งตนจะกลับไปแก้ไขปัญหาภายในกองบัญชาการก่อน หลังจากนี้จะนำเรื่องเสนอแนะและพูดคุยปรึกษากับผู้บังคับบัญชาระดับสูงต่อไป

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ