24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 เมษายน 2568

>> เทศบาลนครภูเก็ต ตรวจสอบ กรณีผนังกันดินริมคลองบางใหญ่ทรุดตัว

08.30 น. นายเฉลิมพร ปิยณรงค์โรจน์ ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ลงพื้นที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน (ปากคลองบางใหญ่) ฝั่งตรงข้ามศาลเจ้ากิ้วเที้ยนเก้ง (สะพานหิน) ตรวจสอบกรณีผนังกันดินริมคลองบางใหญ่ทรุดตัว หลังได้รับแจ้งจากประชาชนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมหารือร่วมกับ นายยุทธนา กาญจนภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักช่าง เทศบาลนครภูเก็ต ถึงแนวทางตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจน และแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น เพื่อป้องกันอันตรายแก่ประชาชน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักช่าง เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมลงพื้นที่ บริเวณปลายแหลมสะพานหิน (ปากคลองบางใหญ่)

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น จุดที่ผนังกันดินทรุดตัวมีระยะทางยาวประมาณ 60 เมตร นายเฉลิมพร ปิยณรงค์โรจน์ ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักช่าง นำรั้วเหล็กมาวางกั้นพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้าไปใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมทำหนังสือประสานไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต เข้าร่วมประชุมหารือเป็นการด่วน เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจน และแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป

>> ภรรยาเหยื่อปูนมรณะพระราม 2 เข้ารับศพสามี เผยทำใจไม่ได้ อยากให้ช่วยหาทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก

08.30 น. จากกรณีแผ่นปูนตกใส่รถกระบะมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย บนถนนพระราม 2 ช่วง กม.ที่ 27+500 บริเวณใต้สะพาน ต่างระดับมหาชัย-กระทุ่มแบน ช่องทางด่วนฝั่งขาออก ต.มหาชัย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ต่อมา นายอำนาจ อายุ 46 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เสียชีวิตที่ รพ. นั้น

ล่าสุด นางแรมจันทร์ อายุ 46 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เดินทางมารับศพ นายอำนาจ ไปบำเพ็ญกุศล ณ วัดยางตาล ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ซึ่งจะมีพิธีบำเพ็ญกุศลศพ นายอำนาจ เป็นเวลา 3 คืน โดยได้รับการอำนวยความสะดวกในการนำร่างจาก รพ.สมุทรสาคร ไปยังวัดยางตาล ด้วยรถของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ในส่วนของค่าใช้จ่ายการขนย้ายศพ และการจัดงานศพนั้น กรมทางหลวงจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด โดยขณะเดินเรื่องเพื่อนำศพออกจาก รพ.สมุทรสาคร ได้มีเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ร่วมดำเนินการและอำนวยความสะดวกตามที่ญาติร้องขอ

โดย นางแรมจันทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ แม้แต่จะบอกข่าวให้ลูกสาววัย 17 ปี ที่อยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด ยังไม่กล้าโทรไปบอก ต้องให้ญาติคนอื่นเป็นคนแจ้งข่าวร้าย ส่วนตัวแล้วยังโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่รู้ว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว และไม่คิดว่าสามีจะเสียชีวิต เนื่องจากถึงมือหมอแล้ว สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต ทราบจากแพทย์ว่ามีภาวะเลือดออกภายในหลังผ่าตัด หลังจากนี้ยังไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต แต่คงต้องย้ายออกจากบ้านหลังเดิมที่เช่าอยู่กับสามี เนื่องจากทำใจไม่ได้ อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

>> ตำรวจวิชิต ตามรวบโจรต่างชาติคาห้องพัก หลังขโมยรถ จยย. นำส่งรถคืนแก่เจ้าของท่ามกลางความดีใจ

09.30 น. พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต ได้ส่งมอบรถจักรยานยนต์ที่ถูกคนร้ายชาวต่างชาติขโมยไป ขณะจอดไว้ที่ลานจอดรถภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 ที่ผ่านมา

โดยทาง ตม.จว.ภูเก็ตและชุดสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ตสืบสวนจับกุม ชายสัญชาติอิสราเอล อายุ 32 ปี ที่ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน ภูเก็ต เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้สืบเนื่องเมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 ผู้เสียหายได้จอดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไว้ภายในลานจอดรถของโรงพยาบาลดังกล่าว ใน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต แล้วหายไป เนื่องจากผู้เสียหายลืมเสียบกุญแจรถไว้ ต่อมาวันที่ 24 เม.ย.68 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เช่น กล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเสนอต่อศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับคนร้ายเมื่อวันที่ 29 เม.ย.68 จากนั้นชุดจับกุมได้นำกำลังไปตรวจสอบที่โรงแรมในพื้นที่หมู่ 6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด 
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลแขวงจังหวัดภูเก็ตในคดีดังกล่าวจริง จึงนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.วิชิตก่อนดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ พร้อมกับนำรถของกลางที่ตรวจยึดได้ส่งมอบให้กับผู้เสียหายเมื่อช่วงสายวันที่ 30 เม.ย.68

>> มุ่งเป้าเจาะชั้นใต้ดิน จุดที่คาดว่าผู้สูญหายติดค้างอยู่ อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ เคลียร์ชั้นใต้ดินได้หมด

10.30 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์อาคาร สตง. ถล่ม เขตจตุจักร ว่า ความคืบหน้าจากเมื่อวานคือเราพบร่างผู้เสียชีวิตบริเวณโซน D2 เป็นร่างที่ไม่ได้อยู่ในช่องบันได แต่เป็นร่างที่อยู่ใต้แผ่นพื้นที่ถล่มลงมา 5 แผ่นทับซ้อนกัน ซึ่งพอรื้อแผ่นแรกออกไปก็จะพบว่ามีร่างผู้เสียชีวิตถูกทับอยู่ด้านใต้ ซึ่งสอดรับกับการวิเคราะห์ว่า ตัวชั้นใต้ดินมีชั้นเดียวมีความลึก 4 เมตร และแผ่นปูนที่ถล่มมา 5 แผ่นนั้นถูกทับลงไปในชั้นใต้ดินเนื่องจากแผ่นที่ 5 จะอยู่ในระดับเดียวกับพื้นของชั้นที่ 1 ของอาคาร โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 29 เมษายน 68 เวลา 18.00 น. จำนวนผู้ประสบเหตุ 103 ราย ยืนยันผู้เสียชีวิต 66 ราย อยู่ระหว่างติดตามค้นหา 28 ราย รอดชีวิต 9 ราย

ปัญหาเรื่องของเครื่องจักรเสียมีทั้งหมด 16 เคส ซ่อมเสร็จแล้ว 14 เคส เพื่อช่วยในการจัดแผนเปิดพื้นที่ โดยต้องมีการเปลี่ยนแผนใหม่ มุ่งเป้าไปจุดชั้นใต้ดิน ที่คาดว่ามีผู้ประสบภัยติดอยู่ คือ โซนช่องบันได D2 มุ่งตรงไปโซน A โดยระหว่างโซน D2 กับ C1 วันนี้จะทำการเปิดพื้นที่ให้ลงถึงชั้นใต้ดินและเจาะให้ทะลุไปเรื่อย ๆ จนถึงโซน A และโซน B มุ่งเป้าไปสู่ช่องบันไดหนีไฟ ที่คาดว่าจะพบผู้ติดค้างอยู่ อีกโซนที่สำคัญที่จะดำเนินการไปพร้อมกัน คือ โซนเชื่อมอาคารด้านหลังกับลานจอดรถที่พังยุบลงมา ซึ่งจากข้อมูลผู้รอดชีวิตแจ้งว่ามีเพื่อนวิ่งตามมาแล้วติดค้างอยู่บริเวณดังกล่าว คาดว่าวันนี้จะสามารถเจาะได้ถึงบริเวณดังกล่าว และคาดว่าจะพบร่างผู้ประสบภัยมากขึ้น

ส่วนการดำเนินการรื้อซากอาคารชั้นใต้ดินให้แล้วเสร็จทั้งหมดยังเป็นไปตามแผน คือ ประมาณ 2 สัปดาห์ หากไม่มีปัญหาอุปสรรคที่เป็นปัจจัยแทรกซ้อน อาทิ พบเสาปูนหรือเหล็กขนาดใหญ่ หรือเครื่องจักรหนักสำคัญชำรุดที่ต้องใช้เวลาในการซ่อมแซม คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนด

>> รัฐบาล ปลดล็อกหนี้นอกระบบกว่า 2,300 ล้านบาท ช่วยประชาชนกว่า 70,000 ราย

11.23 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลัง ที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ อาทิ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ และ สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 24 เมษายน 2568 พบว่า มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติแล้ว จำนวน 73,628 ราย คิดเป็นยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 2,311.63 ล้านบาท

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังมีนโยบายส่งเสริมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม อีกทั้งยังเป็นการลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมถึงเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาให้บริการสินเชื่อในระบบอย่างถูกกฎหมาย

โดยกระทรวงการคลังได้รายงานข้อมูลของเดือนมีนาคม 2568 มีนิติบุคคล (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วจำนวน 1,155 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัดทั่วประเทศ ขณะที่ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมรวมทั้งสิ้น 5,020,906 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 49,067.28 ล้านบาท โดยเป็นยอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 375,568 บัญชี คิดเป็นยอดเงินรวม 7,054.58 ล้านบาท

>> ศาลฎีกาฯ ยกคำร้องไต่สวน 'ทักษิณ' ระบุผู้ร้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผลได้เสียกับจำเลย

13.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาคำร้อง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นขอให้ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ผิดขั้นตอนกฎหมายหรือไม่

คดีดังกล่าวเนื่องจากนายชาญชัยเห็นว่า การกระทำที่เกิดขึ้นอาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่อง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.2563 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงขอให้ออกหมายจับและออกหมายขังนายทักษิณกลับมารับโทษที่เหลืออยู่ เนื่องจากเห็นว่านับตั้งแต่นายทักษิณเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยังไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำเลย ล่าสุด ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งไม่รับคำร้องเอาไว้ไต่สวน

>> บุกจับหนุ่มครอบครองปืนเถื่อนพร้อมแฟนสาว พบหมายจับอีกเพียบ

14.43 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองตรัง ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 2 ราย โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง,พ.ร.บ คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น (แบบประดิษฐ์เอง) ขนาด .38 จำนวน1 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด โดยตามจับกุม ห้องเช่าแห่งหนึ่ง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนเมษายน 2568 ตำรวจกองปราบได้รับเรื่องจากประชาชนในพื้นที่ จังหวัดตรัง ว่าผู้ต้องหาทั้งสอง ซึ่งเป็นแฟนกัน ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด, อาวุธปืน และ ข่มขู่ชาวบ้าน ยิงปืน ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ สร้างความหวาดกลัว 
กองบังคับการปราบปราบ ไม่นิ่งนอนใจ ทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านดังกล่าว จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และวางแผนจับกุม และตรวจสอบประวัติพบว่า ชายไทย (ขอสงวนชื่อ) พ้นโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน เมื่อปี พ.ศ.2554 และจากการตรวจสอบประวัติ ภรรยาของชายไทยคนดังกล่าว ทราบว่าขณะนี้ได้มีหมายประกาศสืบจับถึง จำนวน 4 หมายจับ จากสถานีตำรวจหลายจังหวัด ได้แก่ สภ.ปทุมธานี, สภ.ลืออำนาจ, สภ.พระนครศรีอยุธยา ,สภ.เมืองปาน ยอดความเสียหายทั้งสิ้น จำนวน 7,723,650 บาท

หลังจับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

>> รถ 6 ล้อเบรกแตก คนขับตัดสินใจ หักหลบรถติด ชนเข้าเสาไฟฟ้า บาดเจ็บเล็กน้อย

14.56 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งอุบัติเหตุ รถ 6 ล้อบรรทุกน้ำเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เหตุเกิด บริเวณปากซอยสุขุมวิท 89 หรือซอยทุ่งกลมตาลหมัน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกน้ำหกล้อ ยี่ห้อ อีซุซุ สีน้ำเงิน ขนาดสี่ตัน หมายเลขทะเบียน ชลบุรี บรรทุกน้ำ เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าแรงสูง จนตัวรถด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน ภายในรถพบ นายธนพล อายุ 35 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบยังพบป้ายบอกทางถูกเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย หลุดออกจากต้นเสาตกลงมาอยู่ที่พื้น เสากล้องวงจรปิด และตู้ควบคุมได้รับความเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันอำนวยความสะดวกการจราจรเนื่องจากเป็นช่วงที่มีรถจราจรเป็นจำนวนมาก

คนขับรถ ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองบรรทุกน้ำไปส่งลูกค้า จังหวะที่ มุ่งหน้าออกจากซอยสุขุมวิท 89 ปรากฏว่าเบรกไม่สามารถใช้งานได้ และมีรถติดอยู่ด้านหน้าจำนวนหลายคัน ตนเองจึงตัดสินใจหักหลบพุ่งชนเสาไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ใครได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ หากตนเองไม่หักหลบ ก็จะพุ่งขึ้นไปบนสุขุมวิท แล้วไปชนกับรถที่สัญจรไปมา อาจจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บได้อย่างแน่นอน

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองปรือลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพ ก็จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าเป็นหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนคดีในอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อ

>> สุริยะ” สั่งตรวจสอบสะพาน 17,500 แห่ง เข้มมาตรการปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

15.24 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) ทบทวนระบบการบริหารงานบำรุงรักษาสะพาน (BMMS) โดยต้องมีความเข้มงวดในทุกกระบวนการมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สะพานบนโครงข่าย ทล. มีจำนวน 17,500 แห่ง ซึ่งขณะนี้ให้ ทล. ดำเนินการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับบูรณะ ซ่อมแซมในส่วนที่มีผลกระทบต่อการจราจรของประชาชนทันที และต้องรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบจนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จทั้งหมด

สำหรับสะพานบนถนนพระราม 2 (ทล.35) มีทั้งหมด 209 แห่ง ได้สั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งหากพบว่ามีปัญหาด้านความปลอดภัย ไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะต้องซ่อมแซมทันทีเพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงขึ้นอีกเด็ดขาด

ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม มีการลงทุนและก่อสร้างโครงการพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่หลายโครงการ และมีการพัฒนาโครงข่ายสะพานในความรับผิดชอบทั้งในส่วนที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งมีความสำคัญต่อประชาชนในการสัญจร จึงได้ทำหนังสือสั่งการไปยัง ทล. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) ถึงมาตรการความปลอดภัยของโครงสร้างสะพานในความรับผิดชอบทุกแห่งทั่วประเทศของแต่ละหน่วยงาน ให้มีความมั่นคง แข็งแรง และเป็นไปตามมาตรฐานหลักวิศวกรรม ตลอดจนบำรุงรักษาโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม จะดำเนินการรับเรื่องเพื่อรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาพิจารณาสั่งการแก้ไขซ่อมแซมอย่างรวดเร็วที่สุด

>> พายุฝนฟ้าคะนอง พัดถล่ม จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบ 2 ตำบล

15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงในพื้นที่ตำบลแม่ปุ และตำบลพระบาทวังตวง อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ส่งผลกระทบเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ ตำบลแม่ปุ บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 18 หลัง และ ตำบลพระบาทวังตวง บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 20 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายอำเภอแม่พริก สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง อำเภอแม่พริก ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง สาขาเถิน, องค์การบริหารส่วนตำบลแม่พริก, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน,จิตอาสา, อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน, อาสาสมัคร, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหาย และเร่งให้การช่วยเหลือ

>> "กกพ." มีมติลดค่าไฟ รอบเดือน พ.ค.-ส.ค.68 จาก 4.15 บาท เหลือ 3.98 บาท

16.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยผลการประชุมพิจารณาข้อเสนอปรับค่าเอฟที ประจำเดือน พ.ค.-ส.ค.68 ตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน โดยระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับลดค่าไฟในงวดเดือนดังกล่าว 3.98 บาท/หน่วย

ปัจจัยสถานการณ์โลก การคาดการณ์เศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ทำให้ต้องตัดสินใจผ่อนคลายภาระให้กับประชาชน จะนำเงินอัตราเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกิน ซึ่งเป็นส่วนต่างจากที่เคยประมาณการไว้จากการลงทุนที่ไม่เป็นไปตามแผน ซึ่งมีการตรวจสอบและทบทวนทางบัญชี ซึ่งหากตรึงค่าไฟ ซึ่งมีทั้งหมดราว 20,000 ล้านบาท โดยจะนำเงินดังกล่าวมาใช้ในรอบนี้ประมาณ 12,200 ล้านบาท หรือ คิดเป็นค่าไฟในรอบนี้ประมาณ 17 สตางค์/หน่วย เมื่อหักจากค่าไฟเดิม 4.15 บาท ทำให้ค่าไฟในรอบนี้อยู่ที่ 3.98 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นค่าไฟที่ทำให้สามารถดูแลได้ ทั้งประชาชนผู้ใช้ไฟ และดูแลเสถียรภาพความมั่นคงไฟฟ้า และ ใช้หนี้ กฟผ.

>> รถเทรลเลอร์ชนกับรถกระบะ กลางทางโค้งบ้านแพะ มีผู้เสียชีวิตร่างติดค้างในซากรถ จ.สระบุรี

17.46 น. รับแจ้งจาก อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัย จุดโคกกระท้อน มีอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถกระบะ และมีผู้บาดเจ็บติดค้างอยู่ภายในรถ บนถนนบริเวณทางโค้ง บ้านแพะ ในพื้นที่ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถเทรลเลอร์ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน นนทบุรี ชนกับรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ป้ายทะเบียน สระบุรี ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถกระบะ ทางอาสาสมัครดำเนินการใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ และนำร่างออกมา พบว่าได้เสียชีวิตแล้ว ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นายณัฐวุฒิ อายุ 37 ปี ในส่วนของสาเหตุที่อแท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสาไห้

>> จับพ่อค้าลอบขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปลอมแบรนด์ดัง พบไม่ได้มาตรฐานเสี่ยงอันตรายต่อประชาชน

17.58 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหชาย 1 คน ตามหมายค้นของ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ลงวันที่ 28 เมษายน 2568 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกัน มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น ที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร และร่วมกันเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใดๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า หรือสิ่งอื่นทำนองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น”

พร้อมด้วยของกลาง เครื่องอะแดปเตอร์ เครื่องชาร์จอุปกรณ์ยูเอสบี เคสโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน กล่องเปล่าบรรจุเครื่องชาร์จอุปกรณ์ยูเอสบี หูฟังชนิดเสียบหู ปลอมเครื่องหมายการค้า ฯลฯรวมของกลางทั้งสิ้น 9 รายการ จำนวน 504 ชิ้น โดยจับกุมได้ที่บ้านพักย่านประเวศ กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงตัวแทนเจ้าของสิทธิ์เครื่องหมายการค้า เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ประเภทสายชาร์จโทรมือถือยี่ห้อดัง แล้วเกิดอันตรายจากการใช้งาน โดยพบว่าอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้มีกลุ่มผู้ค้าลักลอบจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์

สอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าทราบดีว่าเป็นของปลอมแต่ยังคงจำหน่ายเพื่อหวังผลกำไร โดยได้มีการจำหน่ายให้ลูกค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ

>> ไฟไหม้ตลาดโรงเกลือ จ.นครนายก จนท.ระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำ ลูกจ้างขนข้าวของหนีอลหม่าน

21.40 น. รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริเวณตลาดโรงเกลือนครนายก ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก

ที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงได้ลุกไหม้จากห้องแรกที่เป็นร้านเครื่องนอน แล้วลุกลามไปยังห้องข้างๆ ที่อยู่ติดกันจำนวน 5 ห้อง เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิงระดมหัวฉีดน้ำ ใช้เวลา 30 นาทีจึงสามารถควบคุม และเพลิงสงบลงในเวลาต่อมา ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ

นายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาริกา ที่ลงมาบัญชาการเองบอกว่า คาดว่าสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดเพลิงไหม้เบื้องต้นมีห้องได้รับความเสียหายประมาณ 6 ห้อง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก

>> ไฟไหม้บ้านพักคนงาน ซอยพงษ์เพชรนิเวศน์ ลุกลามรถจักรยานยนต์เสียหายวอด

23.14 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยพงษ์เพชรนิเวศน์ ถนนเลียบคลองประปา แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักคนงาน ครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น ประกอบกิจการ ขายส่งและผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้ ผนัง โต๊ะ ตู้เก็บของ ตู้เย็น ถังสี ลุกลามรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ จีพีเอ็กซ์ สีเขียว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร เสียหายบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 3 ตารางเมตร

ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควันในที่เกิดเหตุ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่สายไฟฟ้าติดผนัง

ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพศชาย จำนวน 1 ราย มีอาการบาดเจ็บถูกไฟลวกบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางซ่อน

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดลำพูน    

01.50 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.7 ลึก 3 กม. บริเวณ ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ไม่มีรายงานการรับรู้แรงสั่นสะเทือน 


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

03.00 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เกิดเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.6 ลึก 10 กม. ในพื้นที่ของประเทศเมียนมา  ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 233 กม. ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย