24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 29 เมษายน 2568
>> รถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์ คุณป้าวัย 56 ปีเสียชีวิตกลางถนน
07.55 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิกุศลศรัทธา มีอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนสายสุราษฎร์ธานี - นครศรีธรรมราช ใกล้เคียงศูนย์บริการ รถโตโยต้า ท่าทองใหม่ ในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถตู้โดยสาร โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงินดำ ป้ายทะเบียน สุราษฎร์ธานี ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้หญิง 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์
>> ไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง คุณยายร่ำไห้ คาดเป็นญาติ มีอาการหลอน จุดไฟเผากอไผ่ แล้วลุกลามไหม้บ้านสมบัติพ่อแม่วอด
09.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองชัยนาท รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน บริเวณ ซอยเทศบาล 11 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยนาท รุดตรวจสอบพบเพลิงกำลังไหม้ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง โดยมีต้นเพลิงมาจากกอไผ่ เพลิงไหม้ลุกลามไปยังกำแพงบ้านของอีกฝั่ง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ
ด้านหลังบ้าน พบนางศรี อายุ 70 ปี ยืนตัวสั่น ร้องไห้เสียใจ เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองชัยนาท เข้าไปปลอบใจ ทางคุณยายศรี กอดและจับมืออยู่ตลอดเวลาเพราะเป็นการสูญเสียบ้านที่เป็นสมบัติพ่อแม่ จากฝีมือของญาติชื่อ นายต่าย อายุ 38 ปี ที่อาศัยอยู่ในรั้วเดียวกัน พอก่อเหตุจุดไฟเผากอไผ่แล้วลุกลามมาไหม้บ้านอย่างรวดเร็ว โดยทางยายศรีได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายต่าย เพราะนายต่ายมีประวัติเสพยาด้วย
นางศรี อายุ 70 ปี เผยว่า บ้านหลังนี้เป็นสมบัติ ที่พ่อและแม่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ตอนนี้ให้หลานอาศัยอยู่ ตนไปปลูกใหม่อยู่ด้านหลัง นายต่ายเป็นญาติของตนเอง เคยหลอนขู่ทำร้ายคนในครอบครัวบ่อยครั้ง ส่วนครั้งนี้ คงเดินไปจุดไฟเผากอไผ่จนลุกลาม แล้วก็หนีไป ไม่เคยคิดว่าบ้านที่เป็นมรดกตกทอดต้องมาวายวอยเพราะคนเพียงคนเดียว
>> รถเก๋งขับชนท้ายรถจักรยานยนต์ แม่ - ลูกทั้ง 3 คนร่างกระเด็น ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
11.02 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายราย บนถนนสายแม่สอด - อุ้มผาง บริเวณทางกลับรถ ช่วง กม.2 ในพื้นที่บ้านหัวฝาย อ.แม่สอด จ.ตาก
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า สีเทา ป้ายทะเบียน ตาก สภาพชนแล้วรถขึ้นไปเกยอยู่บนขอบทางกั้นเกาะกลาง และห่างออกไป พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้-ไอ สีฟ้า ป้ายทะเบียน ตาก ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 34 ปี คนขับขี่รถ จยย. สภาพแขนขาหัก และ เด็กชาย อายุ 8 ขวบ และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย เป็นเด็กชาย อายุ 4 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกู้ชีพ - กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือนำส่ง รพ.แม่สอด และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ทราบต่อมาว่าเป็นแม่ - ลูกกัน
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ได้ควบคุมตัว ชาย อายุ 63 ปี คนขับรถเก๋งไปสอบสวนเพื่อหาสาเหตุและจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
>> "วราวุธ" ส่ง ทีม พม. เยี่ยม 2 ด.ญ. รอดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนบนมอเตอร์เวย์
11.04 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ทางศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. รายงานถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือของกระทรวง พม. กรณีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนรถเอสยูวี ทำให้มีผู้เสียชีวิตพร้อมกันทั้งครอบครัว 8 ราย และผู้บาดเจ็บ 2 ราย
โดยผู้เสียชีวิต 3 รายมีภูมิลำเนาในจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ หญิงอายุ 31 ปี พร้อมลูก 2 คน อายุ 2 และ 5 ปี และเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ครอบครัวผู้เสียชีวิตประกอบพิธีฌาปกิจศพ ที่วัดบ้านหนองสะแบง-หนองโจด อ.ประทาย จ.นครราชสีมา โดยชายที่เป็นทั้งสามีและบิดาของผู้เสียชีวิต เมื่อทราบข่าว จึงรีบเดินทางกลับจากการไปทำงานที่ประเทศมาเลเชียเพื่อมาร่วมงานศพ
ทาง ทีม ศรส. และ พม.หนึ่งเดียว ได้พูดคุยกับพี่สาวของหญิงผู้เสียชีวิตซึ่งให้ข้อมูลว่า ระหว่างหญิงผู้เสียชีวิตทำงานที่ต่างประเทศ ตนเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กทั้ง 2 คน โดยแม่เด็กเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กและครอบครัว ทั้งนี้ จึงได้พูดคุยเยียวยาให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องการให้ความช่วยเหลือเรื่องสิทธิสวัสดิการของกระทรวง พม. อีกทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นและพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และหากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้โทรแจ้ง ศรส. จังหวัดนครราชสีมา
>> ทลายเครือข่ายค้าไอซ์ข้ามชาติ ไทย-มาเลเซีย ยึดของกลาง 261 กิโลกรัม
11.15 น. ที่ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศปก.) เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยผลการขยายผลปฏิบัติการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ไทย-มาเลเซีย หลังจากสืบสวนติดตามมานานกว่า 1 เดือน นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมยึดยาไอซ์น้ำหนักรวมกว่า 261 กิโลกรัม ณ บ้านพักแห่งหนึ่งในอำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา
นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า เครือข่ายดังกล่าวมีลักษณะการทำงานที่เป็นระบบ โดยใช้วิธีการเช่าบ้านพักในพื้นที่ภาคกลางเพื่อกบดานและพักเก็บยาเสพติด ก่อนลำเลียงลงใต้ ผ่านเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เพื่อส่งข้ามแดนไปยังมาเลเซียทางเรือ
"เครือข่ายนี้มีการวางแผนที่รัดกุม มีการห่อหุ้มยาไอซ์หลายชั้น ซุกซ่อนมาในบรรจุภัณฑ์ที่ตีตราเป็นสินค้าผลไม้อบแห้งและสินค้าทั่วไป เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้น ซึ่งการสืบสวนครั้งนี้ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีการติดคิวอาร์โค้ดไว้บนบรรจุภัณฑ์ยาไอซ์ด้วย เป็นครั้งแรกที่พบในประเทศไทย" นายมานะกล่าว
ด้าน นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ป.ป.ส. อธิบายเพิ่มเติมว่า คิวอาร์โค้ดที่พบอาจมีหน้าที่มากกว่าการระบุสินค้า แต่ทำหน้าที่เหมือนระบบยืนยันตัวตนระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ หรือใช้ยืนยันการทำธุรกรรมภายในเครือข่าย ขณะนี้เรากำลังร่วมมือกับหน่วยงานด้านไอที และประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียในการตรวจสอบที่มาของคิวอาร์โค้ดเหล่านี้ รวมถึงขยายผลไปยังกลุ่มผู้สั่งการและผู้รับปลายทางในประเทศที่สาม นายปฤณกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายมีประวัติการรับจ้างขนยาบ้ามาก่อน โดยหนึ่งในผู้ต้องหาเคยได้รับค่าจ้างถึง 120,000 บาท จากการขนยาบ้าจำนวนมหาศาลในอดีต ก่อนจะหันมารับงานลำเลียงไอซ์ในครั้งนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโครงข่ายการทำงานที่เป็นระบบ และแรงจูงใจจากผลตอบแทนที่สูง
>> รวบ 1 ในแก๊งตบทรัพย์ หนีคดี หลังอ้างตัวเป็นตำรวจ ยัดยาผู้เสียหาย
11.19 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายทอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ฐาน “ร่วมกันซ่องโจร, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ ร่วมกันขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพฯ และฉ้อโกง” โดยจับกุมได้บริเวณริมถนน ซอยหทัยราษฎร์ 31 ถนนหทัยราษฎร์ เขตคลองสามวา
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม 2565 กลุ่มของผู้ต้องหารวม 5 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมี นายทอ (นามสมมุติ) ได้ร่วมกันวางแผนหลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจค้นและตรวจยึด ยาบ้า 10 เม็ด และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง จากผู้ต้องหา จากนั้นได้บังคับผู้เสียหายให้ส่งมอบ รถยนต์ และสิ่งของมีค่า เพื่อจะไม่ถูกดำเนินคดี ผู้เสียหายจึงได้มอบทรัพย์สินที่มีทั้งหมด รวมทั้งรถยนต์ มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปจำนำ เปลี่ยนเป็นเงินสดมาแบ่งกัน เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี
ต่อมาพนักงานสอบสวนฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 รายดังกล่าว และได้มีการจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่ง นายทอ ได้ขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล โดยมีการติดกำไล EM ต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุกผู้ต้องหารายอื่น เมื่อ นายทอ (นามสมมุติ) ทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้ตัดกำไล EM และหลบหนีไม่มาศาลตามนัด ศาลจึงได้มีการออกหมายจับ กระทั่ง มาตามจับกุมผู้ต้องหาได้ นำตัวส่งศาลอาญามีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
>> นายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลมีแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตัวเลขจีดีพีของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง
11.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม มุกดาหาร และสกลนคร) ถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังธนาคารโลกปรับตัวเลขจีดีพีของประเทศไทย ว่า รัฐบาลมีแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ที่ได้ดำเนินการมาตลอด โดยระยะสั้นได้ดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงเรื่องของการลงทุนที่นำการลงทุนเข้ามาในประเทศ และที่สำคัญได้ประชุมกับสำนักงบประมาณเร่งการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้เปอร์เซ็นต์สูงที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ที่มีการลงทุนจากภาครัฐที่กระตุ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะทราบดีว่าวิกฤติเศรษฐกิจเป็นวิกฤตทั่วโลก จึงต้องทำเต็มที่ทุกเรื่อง เช่นเดียวกับเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เม้นคอมเพล็กซ์ ก็ได้ผลักดันเรื่องนี้ให้มีผลดีในอนาคตเช่นเดียวกัน
>> เตรียม 2 หัวเจาะกระแทก สกัดคอนกรีตแผ่นแพนเค้กเปิดทางสู่ช่องบันได คาดพบร่างผู้ประสบภัยเพิ่ม
13.20 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ประสบเหตุและการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ที่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ว่า ช่วง 2 – 4 ทุ่ม คืนวานนี้ (28 เม.ย. 68) พบเคสใหญ่ 3 เคส เป็นร่างสมบูรณ์ 1 ร่าง และเคสใหญ่อีก 2 เคส และพบชิ้นส่วนเป็นเคสเล็ก ๆ ราว 5 เคส ทั้งหมดพบบริเวณช่องบันไดของโซน D
ทั้งนี้ การดำเนินการบริเวณด้านหน้าของ โซน A และ D ได้รื้อซากอาคารถึงพื้นชั้น 1 แล้ว บางจุดลงถึงชั้นใต้ดิน ส่วนโซน B และ C ซึ่งติดกับอาคารจอดรถ ไม่มีความหนาแน่นของซากแต่มีเหล็กเยอะได้ใช้เครื่องจักรและทีมตัดแก๊สตัดเหล็ก โดยวันนี้จะเก็บซากเหล็กเพื่อเปิดทางไปถึงจุดที่คาดว่าน่าจะมีผู้ประสบภัยที่พยายามหลบหนีจากตัวอาคารมายังทางเชื่อม อีกส่วนคือโซน D2 ซึ่งติดกับโซน C เจอปัญหาคือพบแผ่นพื้นที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ตกลงมาเรียงทับกันประมาณ 4 – 5 ชั้น คล้ายกับแพนเค้กเหมือนที่เห็นจากอาคารถล่มในช่วงแรก ความแข็งของคอนกรีตกับเหล็กทำให้ทำงานลำบาก แต่ต้องดำเนินการจุดนี้ก่อนเพราะกองแผ่นปูนนี้ขวางอยู่หน้าบันไดทางหนีไฟ โดยวันนี้จะนำเครื่องจักรหนักหัวเจาะกระแทกซึ่งได้สนับสนุนมา 2 เครื่อง มาเจาะกระแทกปูนออกเป็นชิ้นและใช้แบคโฮลากออก หากในช่วงกลางวันสามารถเปิดทางตรงนี้ได้ กลางคืนก็จะเข้าถึงช่องบันไดมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเจอร่างผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นทั้งในโซน B และ C ด้วย
>> เพลิงไหม้โรงงานผลิตและจำหน่ายถังพลาสติก อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
13.45 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ ถังพลาสติกใหม่ ในโรงงานผลิตและจำหน่ายถังพลาสติก ภายในพื้นที่ ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เพลิงอยู่ระหว่างการลุกไหม้และลุกลาม รถน้ำดับเพลิง งานป้องกันและบรรเทาสารภัยในพื้นที่ถึงที่เกิดเหตุแล้ว ดำเนินการใช้น้ำขณะนี้ยังไม่เป็นผล
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ถังน้ำ 2,000 ลิตร จำนวนหลายถัง ภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.14 ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งภายในโรงงานเป็นโกดังเก็บล้างถังบรรจุน้ำ เพลิงลุกไหม้ระดับ 4 - 5 กำลังลุกลามเข้าโกดังที่ 1 มีทั้งหมด 5 โกดัง ไม่มีสารเคมีวัตถุอันตราย ส่วนการปฏิบัติงานเข้าระงับเหตุ นายประสิทธิ อินทโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมด้วย นายอำเภอพนมสารคาม อำนวยการดับเพลิง ร่วมกับเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ และอำเภอข้างเคียง ร่วมกับ กู้ภัยพนมสารคาม กู้ภัยฉะเชิงเทรา ตำรวจ โรงพยาบาล หน่วยดับเพลิงภาคตะวันออก สนับสนุนรถน้ำเข้าระงับเหตุ ประมาณ 20 คัน และประสานไฟฟ้าตัดกระแสไฟในบริษัทเรียบร้อย
โดยสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่สามารถระงับเพลิงได้ และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
>> ชายต่างชาติพลัดตกจากร่มเรือลาก กระแทกเจ็ตสกี ขาขวาผิดรูป – เจ้าหน้าที่เร่งนำส่ง รพ.ป่าตอง
14.19 น. ศูนย์กุศลธรรมป่าตองได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทรให้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุพลัดตกจากร่มเรือลาก กระแทกเข้ากับเรือเจ็ตสกี บริเวณหลังป้อมตำรวจบางลา ชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นชายชาวต่างชาติ 1 ราย มีอาการขาขวาผิดรูป แต่ยังรู้สึกตัวดี หน่วยกู้ชีพ พ.373 เข้าช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลป่าตองอย่างเร่งด่วน
>> ผู้ว่าฯ เชียงราย ติดตามสถานการณ์ลำน้ำสาย พร้อมเผยแผนขุดลอก-สร้างแนวกันตลิ่งเสร็จภายในมิถุนายนนี้
15.00 น. นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พลตรี จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 และนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำบริเวณลำน้ำสาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังน้ำสายเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดสายลมจอย ชุมชนไม้ลุงขน และพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต้นน้ำในประเทศเมียนมา โดยน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งตลาดสายลมจอย ชุมชนไม้ลุงขน และพื้นที่ใกล้เคียงกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า สาเหตุของน้ำหลากครั้งนี้เกิดจากฝนตกหนักในฝั่งประเทศเมียนมา มีปริมาณกว่า 69 มิลลิเมตร ประกอบกับตะกอนดินที่ทับถมในลำน้ำสายจากช่วงน้ำหลากที่ผ่านมา ทำให้ลำน้ำมีพื้นที่รับน้ำน้อยลง จึงเกิดน้ำเอ่อล้นเข้าชุมชน
สำหรับการดำเนินการรับมือสถานการณ์เร่งด่วน ได้รับความร่วมมือจากกรมการทหารช่าง และกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 37 นำกระสอบทราย (บิ๊กแบ็ค) มาวางป้องกันจุดเสี่ยงน้ำไหลเข้าชุมชน
>> กวาดล้าง "หมูเถื่อน" ตลาดดังย่านปทุมธานี ยึดซากหมูเน่ากว่า 5 ตัน ปูดต้นเหตุราคาหมูพุ่ง-เสี่ยงโรคระบาด
15.06 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับชุดพญาไท กรมปศุสัตว์ เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 4 จุดสำคัญในตลาดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับรายงานว่ามีการลักลอบนำเข้าซากสุกรผิดกฎหมาย เข้ามาจำหน่ายในประเทศ
สำหรับผลการตรวจค้นพบว่าหนึ่งในจุดดังกล่าว เป็นห้องเย็นที่มีความจุถึง 40 ตัน ใช้เก็บซากสุกรที่ลักลอบนำเข้ามาจากจังหวัดนครปฐม และ สมุทรปราการ และกระจายส่งขายทั่วประเทศ โดยเจ้าหน้าที่พบซากสุกรจำนวนทั้งสิ้น 9,350 กิโลกรัม
จากการสอบถามเจ้าของสามารถแสดงเอกสารการเคลื่อนย้ายได้เพียง 4,000 กิโลกรัม และยังพบว่าซากสุกรจำนวนนี้ มีกลิ่นเหม็นและเน่าเสีย อีกทั้งยังไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาได้อย่างถูกต้อง ส่วนอีก 1,350 กิโลกรัม ไม่มีเอกสารรับรองใด ๆ จึงเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ จังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่เฝ้าระวังการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ทำให้การควบคุมโรคและความปลอดภัยของผู้บริโภคมีความสำคัญสูงสุด เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดซากสุกรจำนวน 5,350 กิโลกรัม มูลค่ารวมเกือบ 1 ล้านบาท ไว้เป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้เจ้าของนำเอกสารมาแสดง หากไม่สามารถนำมาแสดงได้จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
โดยเหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สะท้อนถึงความเสี่ยงของระบบการผลิตและการกระจายเนื้อหมูในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหมูมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงนี้ จากการควบคุมเข้มงวดของหน่วยงานรัฐ และการลดลงของแหล่งจำหน่ายหมูที่ไม่ปลอดภัย ทางบก.ปคบ.จึงขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อเนื้อหมู เลือกแหล่งที่มีการรับรองคุณภาพก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้ง
>> โจรวิ่งราวทรัพย์ก้มกราบขอโทษ หลังก่อเหตุกระชากกระเป๋าแม่บ้านชาวเมียนมา
16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว ชาย อายุ 47 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ เงินสดจำนวน 5,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารต่างๆ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านพักของชายคนดังกล่าว
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2568 หญิงสาว อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ว่า ขณะขี่รถจักรยานเพื่อจะกลับบ้านพักได้วางกระเป๋าสะพายไว้ที่ตะกร้าด้านหน้ารถ ภายในมีเงิน 28,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พาสปอร์ต 1 เล่ม บัตรทำงานและเอกสารต่างๆ ได้มีคนร้ายเป็นชายขับขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน มาจากด้านหลังแล้วกระชากกระเป๋าแล้วขับรถหลบหนีไป
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนตกงานต้องการหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ได้ไปยืมรถจักรยานยนต์จากเพื่อน ขับมาตระเวนหาเหยื่อ แล้วมาพบผู้เสียหายขี่จักรยานและนำกระเป๋าวางไว้หน้าตะกร้า ได้กระชากกระเป๋าไป หลังก่อเหตุได้นำเงินไปใช้หนี้นอกระบบรายวัน จำนวน 12,000 บาท ซื้อโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6,000 บาท และไปเติมเงินเล่นพนันออนไลน์ จำนวน 3,000 บาท ก่อนถูกตำรวจตามมาจับกุมตัวได้
>> รอง ผบ.ตร.ประชุมเร่งรัดให้สิทธิสวัสดิการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ฯ
16.43 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และกรณีเครื่องบินตก เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568
เพื่อติดตามเร่งรัดเรื่องการขอรับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ อันเป็นการติดตามช่วยเหลือดูแลข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนบำรุงและเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ได้อุทิศตนเสียสละในการปฎิบัติหน้าที่ ตามนโยบายด้่นสวัสดิการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ที่ให้มีการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ข้าราชการตำรวจพึงได้รับให้มากที่สุด
พล.ต.อ.กรไชยฯ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเร่งรัดดำเนินการเสนอเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ หรือสิทธิบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดโดยเร็ว
พร้อมสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่พิการ หรือทุพพลภาพ หรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปฎิบัติหน้าที่ หรือเหตุใดๆ ก็ตาม ให้ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน นอกจากนี้ กำชับหน่วยที่เกี่ยวข้องดูแลการดำเนินการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพแก่ข้าราชการตำรวจ กองบินตำรวจ ทั้ง 6 นาย จากเหตุเครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมเกียรติแก่ผู้วายชนม์และครอบครัว
>> ไฟไหม้โกดังเก็บสินค้าของเล่นเด็ก เสียหายกว่า 10 ล้านบาท
18.30 น. ศูนย์วิทยุนรสิงห์สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาครได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่บริษัทไทนี่ไลอ้อนจำกัด หมู่ที่ 8 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายของเล่นเด็กและอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับพัฒนาการเด็กที่ผลิตจากพลาสติกบนแพลทฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
ทั้งนี้จึงได้รีบประสานรถน้ำดับเพลิงทั้งจากเทศบาลตำบลนาดี เทศบาลเมืองคลองมะเดื่อ เทศบาลเมืองกระทุ่มแบน และจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและพื้นที่ใกล้เคียง รวมกว่า 20 คัน เข้าระงับเหตุ
โดยโรงงานดังกล่าวมีลักษณะเป็นโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ 2 อาคารติดกัน ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ซึ่งเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงที่อาคารโกดังแรก เนื่องจากด้านในมีสินค้าของเด็กเล่นจำพวกพลาสติกจำนวนมาก จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทั้งนี้เพลิงได้โหมลุกไหม้ในโกดังแรก ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯต้องฉีดน้ำสกัดจากทุกทิศทุกทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังโรงงานข้างเคียง โชคดีที่ไม่มีลมพัดแรงจึงทำให้สามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ความรุนแรงจากเปลวเพลิงก็ทำให้หลังคาของตัวโกดังยุบลงมาเป็นบางส่วน แต่ทั้งนี้แม้ไฟจะสงบลงแล้ว แต่ทางผู้บัญชาการเหตุการณ์ยังคงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงต่อไป เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดการปะทุขึ้นมาใหม่ได้
สำหรับสาเหตุนั้นต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจน อีกทั้งยังต้องประสานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารเข้ามาตรวจสอบด้วยว่าตัวโครงสร้างอาคารหรือโกดังนั้น จะสามารถปรับปรุงเพื่อใช้งานได้อีกหรือไม่ โดยเบื้องต้นทางเทศบาลตำบลนาดี ก็จะได้ออกประกาศกันพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตห้ามเข้าไว้ก่อน จนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ
>> ชายวัย 52 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เฉี่ยวชนกับรถพ่วง เสียชีวิตตรงเชิงทางขึ้นสะพานภูมิพล จ.สมุทรปราการ
21.35 น. ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุ ที่เกิดเหตุเชิงทางขึ้นสะพานภูมิพล ขึ้นจากถนนสุขสวัสดิ์ เล็กน้อย รถบรรทุก 18 ล้อ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน นครปฐม ชนกับรถสามล้อพ่วง ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีแดง ป้ายทะเบียน กทม.
อาสา ม.ป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิต ชาย 1 คนเป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 52 ปี จนท.ระหว่างดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตและยานพาหนะ พื้นที่ สภ.พระประแดง
>> หนุ่มใหญ่ ขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ เสียชีวิตริมถนนสายพิษณุโลก - หล่มสัก จ.พิษณุโลก
22.00 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัย บูรพา มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต บนถนนทางหลวงหมายเลข 21 เส้นทางพิษณุโลก - หล่มสัก ช่วง กม.ที่ 256 ใกล้เคียงองค์การบริหารส่วนตำบลชัยนาม ในพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน พิษณุโลก พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 50 - 60 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังทอง
>> รถเก๋งถูกชนอัดก็อปปี้ระหว่างรถบรรทุกทั้ง 2 คัน กลางถนนหมายเลข 344 พบผู้เสียชีวิตชาย 3 ราย
01.00 น. รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุ รถบรรทุกพ่วง 2 คัน และรถนั่งส่วนบุคคล 1 คันชนกัน บนถนนหมายเลข 344 ใกล้เคียงแยกไฟแดงกระแสบน ในพื้นที่ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. สภาพถูกชนอัดก็อปปี้ระหว่างรถบรรทุก ป้ายทะเบียน ระยอง และรถบรรทุก ป้ายทะเบียน ชุมพร ที่พลิกตะแคง
เบื้องต้น พบว่า ภายในรถนั่งส่วนบุคคล มีผู้ติดค้างภายในยานพาหนะ เป็นผู้ชาย 4 ราย ทางอาสากู้ชีพกู้ภัยเร่งดำเนินการ และตรวจสอบ พบว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พื้นที่ สภ.แกลง
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงราย
01.57 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.3 ลึก 2 กม. ในพื้นที่ ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
05.16 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.8 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 157 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ