หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 เมษายน 2568

วันที่ 28 เมษายน 2568 เวลา 05:36 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 27 เมษายน 2568


>> รถตู้ชนกับรถบรรทุก คนขับเสียชีวิตร่างติดค้างในซากรถ

06.00 น. สภ.บางปะกง รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถตู้ชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ฝั่งขาเข้า กทม. ช่วงหลัก กม. 37 ช่องคู่ขนาน ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพชนกับ รถบรรทุก 6 ล้อ ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบในรถตู้ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย อาสาสมัครฯ ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่าง เพื่องัดรถและนำร่างออกมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 23 ปี

ทางเจ้าหน้าตำรวจพร้อมด้วยแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้เจ้าหน้าที่นำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลบางปะกง


>> รถกระบะชนสนั่นกลางสี่แยกท่าศาลา มีผู้บาดเจ็บหลายราย จ.นครศรีธรรมราช

06.26 น. มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง อ.ท่าศาลา ได้รับแจ้งเหตุฯ อุบัติเหตุ รถยนต์กระบะ 2 คันชนกันแล้วมีรถเสียหลักพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณ สี่แยกท่าศาลา ม.3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีเทา สภาพหน้ารถพังเสียหาย และใกล้กันพบรถกระบะ โตโยต้า สีดำ สภาพพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 4 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำสง รพ.ท่าศาลา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา


>> อุ่นอาหารทิ้งไว้ แล้วเกิดไฟไหม้บ้าน ย่านซอยเคหะร่มเกล้า 78 โชคดีประชาชนช่วยกันใช้น้ำทำการดับเพลิงก่อนจะลุกลาม

07.48 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยเคหะร่มเกล้า 78 แยก 1 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ภายในห้องครัว เพลิงลุกไหม้อุปกรณ์ประกอบอาหาร ลุกลามชั้นวางของ หน้าต่าง ฝาผนัง และหลังคา พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 6 ตารางเมตร ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้น้ำดับถ่านและระบายความร้อน 
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก การอุ่นอาหารทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้า


>> ตร.เมืองอุดรธานี ร่วมหาแนวทางสอบสวน เร่งจับกุมโจรในคราบไรเดอร์ ควงปืนปลอมจี้ชิงทอง มูลค่าล้านกว่าบาท

10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมประชุมแนวทางการสืบสวน ติดตามคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ ใช้ปืนปลอม บุกชิงทรัพย์ร้านทอง บนชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาอุดรธานี ถนนนิตโย บายพาสสกลนคร ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยเลสทอง หนักเส้นละ 1 บาท ประมาณ 30 เส้น มูลค่า 1.6 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้า ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี กองกำกับการสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี และสืบสวน ภาค 4 ร่วมกันสืบสวนติดตามคนร้าย รู้เส้นทางที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ และหลบหนีหลังก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายขี่จักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปในเมืองอุดรธานี

ยานพาหนะ เป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิ๊ก สีเหลือง ส่วนข้อมูลของร้านทองหลังตรวจจำนวนทองที่คนร้ายได้ไป เป็นเลสข้อมือหนัก 1 บาท จำนวน 22 เส้น

พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า แผนประทุษกรรม จากการดูกล้องวงจรปิด คนร้ายขี่จักรยานยนต์มาคนเดียว จอดรถที่หน้าห้าง เดินเข้าประตูหน้าฝั่งทิศตะวันตก ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสอง เดินมุ่งตรงไปที่ร้านทอง กระโดดเหยียบเก้าอี้ที่สำหรับลูกค้า เข้าไปในตู้โชว์ ก่อนเอาปืนออกมาขู่พนักงาน แล้วรีบกวาดทองในตู้โชว์ใส่กระเป๋าสะพายสีดำ เสร็จแล้ววิ่งหลบหนีไปทางเดิมที่เข้ามา มีพนักงานห้างไล่ติดตาม โดยใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 10 วินาทีเท่านั้น


>> จ.นครพนม เตรียมมอบชุด “ศรีโคตรบูร” กระเป๋ากก สานลายเกล็ดพญานาค และลิ้นจี่นครพนม แก่คณะรัฐมนตรี สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นและภูมิปัญญาไทย

10.45 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 ที่จังหวัดนครพนม ทางจังหวัดได้จัดเตรียมเสื้อ “ชุดศรีโคตรบูร” และกระเป๋ากก สานลายเกล็ดพญานาค เป็นของที่ระลึกให้แก่คณะรัฐมนตรี เพื่อสื่อถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดนครพนม

“ชุดศรีโคตรบูร” มีต้นกำเนิดจากอาณาจักรศรีโคตรบูร อาณาจักรโบราณแถบลุ่มแม่น้ำโขง สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านหัตถกรรมการทอผ้า โดยชาวจังหวัดนครพนมนิยมสวมใส่ในพิธีสำคัญทางศาสนา งานประเพณี และงานมงคลต่าง ๆ

เสื้อชุดศรีโคตรบูร ถูกตัดเย็บด้วยผ้าไหมพื้นเรียบสีกรมท่าย้อมคราม ขลิบด้วยผ้าไหมพื้นเรียบสีแดง (ย้อมครั่ง) ตกแต่งด้านหน้าด้วยผ้าไหมมัดหมี่ “ลายขอก่ายแก้ว” สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคง ซึ่งทอโดยกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า ภายใต้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษฯ และโครงการ “นาหว้าโมเดล” ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา นับเป็นการหลอมรวมประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความภาคภูมิใจของชาวนครพนมไว้อย่างงดงาม


>> องคมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรง จ.นราธิวาส

11.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เดินทางไปเยี่ยมและให้กําลังใจ พร้อมเชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่เด็กชายอัสมีน , เด็กหญิงนัซมีย์ และนายรุซลี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดด้านหลังสถานีตำรวจภูธรโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 เมษายน 2568 ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส

จากนั้น พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 80 ชุด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

โอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและกำลังพลทุกนายได้รับทราบ สร้างความปลื้มปิติและต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จากนั้นองคมนตรีได้เยี่ยมทักทายสอบถามถึงความเป็นอยู่ ซึ่งกำลังพลทุกนายมีขวัญกำลังใจดี และพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย


>> ศปช.เตือน 59 จังหวัด เตรียมรับพายุฤดูร้อนคาดการณ์วันนี้ถึง 1 พ.ค.

14.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิยา ได้ประกาศแจ้งเตือนพายุฤดูร้อน ฉบับที่ 7 ในช่วงวันที่ 27 เมษายน - 1 พฤษภาคม ซึ่งอาจมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมทั้งอาจเกิดฟ้าผ่าได้ในบางจุด

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์พื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนดังกล่าว ทั้งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 59 จังหวัด

ภาคเหนือ 15 จังหวัด, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด, ภาคกลาง 17 จังหวัด รวมถึง จ.สมุทรสงคราม จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ และ กรุงเทพฯ, ภาคตะวันออก 8 จังหวัด และ ภาคใต้ 2 จังหวัด

ขณะนี้ ศปช. ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยง พร้อมเข้าเผชิญเหตุให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์"


>> ภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหายและรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม คืบหน้าไปมาก คาดพรุ่งนี้รื้อถึงพื้นชั้น 1

15.07 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างและการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ซึ่งพังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ว่า การทำงานมีความคืบหน้าไปด้วยดี โดยขณะนี้สามารถขนย้ายวัสดุเศษซากออกจากพื้นที่ได้แล้วกว่า 343 เที่ยว และลดความสูงของเศษซากเหลืออยู่ที่ 2.57 เมตรนับจากพื้นชั้น 1 โดยยังไม่นับรวมชั้นใต้ดินอีกประมาณ 4 เมตร

ซึ่งวานนี้ (26 เมษายน) เจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหายเพิ่ม 1 ร่าง และพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อีก 5 ชิ้นส่วน ซึ่งนำส่งให้สถาบันนิติเวชเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล โดยยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ชิ้นส่วนที่พบเป็นร่างเดียวกันหรือไม่ ส่วนปัญหาหลักที่พบในขณะนี้คือ การแยกเหล็กออกจากคอนกรีตที่แข็งแรงมาก จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรหนักเพิ่มเติม โดยได้เพิ่มรถแบ็คโฮหัวเจาะกระแทกอีก 2 คัน และเสริมกำลังทีมตัดเหล็กจากทหารบก ทหารเรือ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อเร่งการรื้อถอนให้รวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีตัวโพรงอยู่ในบริเวณเชื่อมต่อระหว่างอาคารจอดรถกับตัวอาคารสำนักงาน ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่อาจพบร่างผู้ประสบภัยเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นเส้นทางหลบหนีของผู้ติดอยู่ในอาคารในขณะที่เกิดเหตุ ส่วนของแผนการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ปรับแนวทางใหม่ โดยเปิดพื้นที่ด้านหน้าและด้านข้างของอาคารที่ถล่มออก เพื่อให้สามารถเข้าถึงซากอาคารได้สะดวกมากขึ้น โดยมีการวางแผนขุดลึกเป็นลักษณะตัว U ด้วยการใช้เครื่องจักรหนัก ซึ่งหากไม่พบอุปสรรคเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเคลียร์เศษซากลงไปถึงชั้นหนึ่งได้ภายในวันพรุ่งนี้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 62 ราย ยังอยู่ระหว่างค้นหาอีก 32 ราย จากผู้ประสบเหตุทั้งหมด 103 ราย และได้ส่งชิ้นส่วนร่างกายที่พบแล้วกว่า 250 ชิ้นส่วน ให้สถาบันนิติเวชเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป


>> นายกฯ ประชุม ครม.สัญจร นครพนม พร้อมตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ช่วง 28 – 29 เม.ย. นี้

17.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ จ.สกลนคร และ จ.นครพนม ระหว่างวันที่ 28 – 29 เม.ย. 2568 เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 และตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม และมุกดาหาร)

โดยในวันที่ 28 เม.ย. นายกฯ มีกำหนดเดินทางไป จ.สกลนคร เพื่อติดตามแผนพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่บึงหนองหาร และการบริหารจัดการน้ำ ณ สวนสาธารณะดอนเกิน ก่อนเดินทางต่อไป จ.นครพนม เพื่อเยี่ยมชมศูนย์หัตถกรรมวัดธาตุประสิทธิ์ “นาหว้าโมเดล” ตามแนวพระดำริ “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” รวมทั้งประชุมติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดข้ามแดน พร้อมสักการะพญาศรีสัตตานาคราช และจุดเรือไฟบก ณ ลานพนมนาคา

จากนั้น วันที่ 29 เม.ย. นายกฯ จะเป็นประธานการประชุม ครม. สัญจร ครั้งที่ 2/68 ณ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม และประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ด่านศุลกากรนครพนม ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 16.00 น.


>> ไฟไหม้ห้องครัว ภายในบ้านเรือนประชาชน ซอยอ่อนนุช 49 เสียหายวอดทั้งห้อง

19.11 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยอ่อนนุช 49 ถนนอ่อนนุช แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัยและประกอบกิจการเก็บของเก่า ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ภายในห้องครัว เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 5 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยประเวศ


>> รถจักรยานยนต์ 2 คันชนกัน มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

19.18 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณถนนบางบอน 5 ซอย 7 ในพื้นที่ เขตบางบอน กทม.

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีม่วง ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอนแม็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 5 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือ และนำส่ง รพ.บางปะกอก 8 และ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ จำนวน 3 ราย โดยเป็นชาย 2 และหญิง 1 ราย

ส่วนในจุดเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บอีก 2 รายเป็นผู้ชาย อาการสาหัส ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยให้การช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยกันทั้งคู่ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางบอน


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

22.55 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.4 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 334 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ