วันที่ 26 เมษายน 2568 เวลา 22:12 น.
รวบอดีต รปภ. สวมรอยเป็นกรรมการบริษัท ออกใบกำกับภาษีปลอมกว่า 4,000 กว่าฉบับ รัฐเสียหายกว่า 493 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นาย พัน (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ในฐานะนิติบุคคลและฐานะส่วนตัว เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออก” เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร” จับได้ที่บริเวณแถวชุมชนริมคลองลาดพร้าว 80 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก บริษัทแห่งหนึ่ง ประกอบกิจการผลิตกระดาษลอนลูกฟูก และกระดาษแข็ง และจำหน่ายกล่องกระดาษ รับซื้อ ขายเศษกระดาษรีไซเคิล ต่อมาในช่วงเดือนภาษีมกราคม 2557 ถึงเดือนภาษีธันวาคม 2558 เจ้าพนักงานกรมสรรพากรพบว่าบริษัทดังกล่าวปิดลง ไม่ได้ประกอบกิจการ และไม่มีป้ายชื่อบริษัทฯ เจ้าพนักงานจึงเชิญนาย พัน (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทฯ ดังกล่าวมาพบ แต่เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย กลับไม่มีผู้ใดมาพบและไม่นำส่งเอกสารหลักฐานเพื่อพิสูจน์เกี่ยวกับ การประกอบกิจการ และการออกใบกำกับภาษีโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง
โดยจากการสืบสวนและตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องปรากฏว่า บริษัทฯ ดังกล่าวได้นำใบกำกับภาษี ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของกลุ่มผู้ค้าของเก่า เศษโลหะ อลูมิเนียม ทองแดง มาใช้เป็นภาษีซื้อ และบริษัทฯ ไม่มาพบเจ้าพนักงานฯ เพื่อพิสูจน์การได้มาซึ่งใบกำกับภาษี จึงถือว่าบริษัทฯ ไม่มีสินค้าเพื่อขาย แต่พบว่า บริษัทฯ ได้ออกใบกำกับภาษีขายสำหรับเดือนภาษีมีนาคม 2557 ถึงเดือนภาษีธันวาคม 2557 ให้แก่นิติบุคคลรวมจำนวน 128 ราย รวมใบกำกับภาษีจำนวน 4,441 ฉบับ ซึ่งการออกใบกำกับภาษีดังกล่าว เป็นใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งได้ประเมินภาษี มูลค่าเพิ่ม พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 493 ล้านบาท จึงเชื่อได้ว่าบริษัทดังกล่าว ได้ออกใบกำกับภาษีให้กับนิติบุคคลจำนวน 128 ราย โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการจริง ซึ่งเป็นการ ออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 86/13 แห่งประมวลรัษฎากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
ต่อมา พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ได้อออกหมายเรียกเพื่อติดต่อตัวกรรมการมาทราบ ข้อกล่าวหา แต่ก็ไม่มีผู้ใดมาพบพนักงานสอบสวนตามที่ออกหมายเรียกไป จึงเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุญาตศาลเพื่อออกหมายจับ นำตัวกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบมาดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากที่ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวน ติดตามตัวผู้ต้องหาจนสืบทราบว่า นาย พัน (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ผู้ต้องหา ได้หลบหนีมาอยู่ในบริเวณแถวชุมชนริมคลองลาดพร้าว 80 เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์และเข้าจับกุม ขณะที่ผู้ต้องหากำลังเดินออกมา จากบ้านพักภายในชุมชนดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ