24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 24 เมษายน 2568
>> เพลิงไหม้บ้านเรือน ย่านถนนเทอดไท เสียหายวอดนับสิบหลัง
06.49 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ปลูกติดกันหลายหลัง ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 180 ลุกลามบ้านข้างเคียง จำนวนทั้งหมด 13 หลัง เสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 670 ตารางวา รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ( รายที่ 1 ) เป็นเพศชาย มีอาการบาดเจ็บถูกไฟลวกบริเวณเท้าด้านซ้าย อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลตากสิน ( รายที่ 2 ) เป็นเพศชาย มีอาการบาดเจ็บถูกของมีคมบาดบริเวณมือด้านขวา อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลตากสิน พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยธนบุรี
>> ช้างป่าเหยียบชายวัย 68 เสียชีวิตกลางป่า เขาอ่างฤาไน คาดลักลอบล่าสัตว์
07.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นายตันติกร พวงสกุล หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วชุดที่ 9 เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวานนี้ (23 เมษายน 2568) ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 9 และหน่วยพิทักษ์ป่าคลองครก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ดำเนินการสำรวจประชากรช้างป่าในพื้นที่บ้านคลองครก หมู่ที่ 10 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ตามโครงการสำรวจตรวจนับประชากรและโครงสร้างประชากรช้างป่าในพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก โดยสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ในป่าบริเวณพื้นที่บ้านบ่อมะเดื่อ หมู่ที่ 9 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี จึงได้ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแก่งหางแมว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งหางแมว เข้าตรวจสอบ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เตรียมการประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง เข้าไปจากคูกันช้าง เป็นระยะทางประมาณ 600 เมตร ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายอนันต์ อายุ 68 ปี ชาวตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี
พื้นที่โดยรอบที่พบศพ มีร่องรอยของช้างป่า ใกล้ศพยังพบกระเป๋าเป้สะพายหลัง ไฟฉายคาดหัว เข็มทิศ และกล้องสำหรับติดปืน แต่ไม่พบปืน เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านและญาติของผู้ตาย เข้าไปถึงพื้นที่ก่อนแล้ว คาดว่าอาจจะเก็บปืนไปแล้ว
พยานหลักฐานที่พบรอบๆ ผู้ตาย สันนิฐานว่า น่าจะเข้าไปล่าสัตว์ และผู้ตายเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีฐานเข้าไปล่าสัตว์เมื่อปี 2566 ศาลได้ตัดสินโทษจำรอลงอาญา คณะเจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งโรงพยาบาลแก่งหางแมว เพื่อชันสูตร
>> ไฟไหม้บ้านไม่มีเลขที่ เสียหายทั้งหลัง คาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
09.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.แสมดำ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอยเอกชัย 133 แยกย่อยซอยที่ 2 แขวงบานบอน เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนเทียน พร้อมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเเสงเพลิงเเละกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบ้านไม้ชั้นเดียวไม่มีเลขที่ บ้านหลังดังกล่าวปลูกสร้างเป็นลักษณะเพิงพักเป็นไม้ชั้นเดียว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำเร่งระงับเหตุเป็นการเร่งด่วนใช้เวลา 20 นาที จึงทำการระงับเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบบ้านต้นเพลิงหลังดังกล่าวได้รับความเสียหายหมดทั้งหลัง และ มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน ได้รับความเสียหายไปด้วย ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
จากการสอบถาม เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว บอกเล่าว่า ปกติที่บ้านมีอยู่กัน 5 คน แต่ในขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ต่อไป
>> ลดความสูงซากตึกลงอย่างต่อเนื่อง เหลือ 7 เมตร ตึก สตง.ถล่ม คาดการณ์เสร็จสิ้นเดือนเมษายนนี้
10.30 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์อาคาร สตง. ถล่ม เขตจตุจักร ว่า ขณะนี้ความสูงของซากอาคารในโซน A และ D อยู่ที่ 9.25 เมตร ส่วนโซน B และ C ยอดซากอาคารที่สูงที่สุดอยู่ที่ 7.41 เมตร ในภาพรวมความเฉลี่ยลดลงมาเหลือ 7.88 เมตร ประมาณการอยู่ที่ชั้น 6 หากขุดลงได้อีก 2 เมตร ก็จะอยู่ในจุดที่ทีมนานาชาติได้สแกนเอาไว้ว่าเป็นโซนบันไดหนีไฟที่คาดว่าจะพบผู้ที่ติดค้างอยู่บริเวณนั้น หลังจากนี้การทำงานค้นหาจะเร็วขึ้น เนื่องจากความลาดชันของพื้นที่ลดลงเรื่อยๆ ประกอบกับการตัดเหล็ก และขนย้ายซากจะทำงานสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วสามารถลดยอดความสูงได้วันละ 1 เมตรหรือมากกว่า คาดการณ์เสร็จทันสิ้นเดือนเมษายนนี้
ในส่วนของเครื่องจักรที่ใช้ตอนนี้มีชำรุดบ้าง จำเป็นต้องมีการซ่อมไปทำงานไป เพื่อให้งานยังคงต่อเนื่อง และด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนทำให้การทำงานเดินหน้าไม่หยุด ส่วนการพบร่างผู้สูญหาย เมื่อวานพบ 1 ร่าง และเป็นชิ้นส่วนอยู่ประมาณ 5 เคส
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 24 เม.ย. 68 เวลา 10.00 น. ผู้ประสบภัย 103 ราย เสียชีวิต 56 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ติดค้าง 38 ราย
>> ฝากขังผู้ต้องหาทำร้ายพระ ไร้วี่แววผู้ต้องหารายที่ 2
10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ควบคุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 22 เม.ย. 68 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย พระรูปหนึ่ง อายุ 32 ปี จนกรามหัก ดั้งจมูกหัก เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.20 น.วันที่ 19 เม.ย. 68 ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าอยากขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ ผู้ต้องหาไม่ตอบ ส่วนนายบี (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาที่ 2 ยังไม่มีการติดต่อขอมอบตัว ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 1 เข้าดำเนินการขอข้อมูลเพื่อเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี
>> คนร้ายดอดมอบตัว หลังจับหญิงเป็นตัวประกันที่ห้องเช่าซอยเปโตร สามพราน จ.นครปฐม
11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี เมื่อช่วง 6 โมงเช้า เกิดเหตุทวงหนี้โหด ที่ห้องเช่า ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม คนร้ายชาย ใช้อาวุธปืน ยิงหญิงวัย 42 ปี เสียชีวิตต่อหน้าลูก หลังจากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยขณะเกิดเหตุ ลูกชายวัย 11 ขวบ เห็นเหตุการณ์และใช้ยินเสียงแม่พูดก่อนถูกยิงว่า "แชมป์" ใจเย็นๆ เดี๋ยวพี่คืน
ต่อมาเวลาประมาณ 09.50 น. ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว รับแจ้งเหตุมีคนถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุบุกยิงหญิงวัย 42 ปีที่ห้องเช่า โดยตำรวจได้ปิดล้อมห้องเช่า ที่ซอยเปโตร 16 ถนนเพชรเกษม ตำบลท่าข้าม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยทราบว่า คนร้ายที่จับหญิงเป็นตัวประกันนั้น ชื่อแชมป์ อายุ 34 ปี มีอาวุธปืนพกติดมือ
ล่าสุด คนร้ายยอมมอบตัวแล้ว หลังตำรวจได้นำมารดาและน้ามาเจรจาเกลี้ยกล่อม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวน
>> สืบสวน สภ.ป่าตอง จับกุมคนร้ายตระเวนลักทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวบริเวนชายหาดป่าตอง ฯ
12.27 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายตระเวนลักทรัพย์นักท่องเที่ยว
เนื่องด้วย วันที่ 22 เม.ย.2568 ได้มี นักท่องเที่ยว สัญชาติออสเตรเลีย อายุ 50 ปี มาพบพนักงานสอบสวน แจ้งว่า ทรัพย์สินสูญหาย ได้แก่ 1. เงินสด ประมาณ 10,000 บาท 2. โทรศัพท์ iphone 16pro สีดำ เคสสีดำ เหตุเกิดที่ บริเวณชายหาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ได้สืบสวนกระทั่งทราบตัวผู้ที่ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวดังกล่าว เป็นชายไทย อายุ 47 ปี นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์” พร้อมทั้งได้ตรวจยึดและนำทรัพย์สินที่ถูกลักขโมย คืนแก่นักท่องเที่ยว
>> ผบ.ตร. ย้ำชัด "หนุ่มลูกพีช" ขับปาดหน้า อ้างเป็นญาติ - ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม
15.15 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระหว่างร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ถึงกรณีคลิปเหตุการณ์ "หนุ่มลูกพีช" ขับรถปาดหน้ารถกระบะ จนทำให้ผู้สูงอายุชายหญิงในรถได้รับบาดเจ็บ พร้อมมีการอ้างว่าเป็นญาติของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำว่า รู้จักกับ “นายกเบี้ยว” ซึ่งเป็นบิดาของผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่เดียวกัน และภายหลังเกิดเหตุ ตนได้พูดคุยกับบิดาของ "หนุ่มพีช" แล้ว โดยกล่าวตักเตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า การกระทำของลูกชายไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และยิ่งไม่ควรอ้างชื่อตนหรือผู้ใหญ่ในสังคมเพื่อพ้นผิด เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่น่าเสียใจ
“ถ้าทำดีแล้วอ้างชื่อ จะรู้สึกภูมิใจ แต่ถ้าทำไม่ดีแล้วอ้าง ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ต้องมีจิตสำนึก มีสติ” ผบ.ตร. กล่าว พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า บิดาของหนุ่มลูกพีชก็ได้กล่าวคำขอโทษ และตนเองไม่ได้โกรธเคืองใดๆ แต่ขอให้ยึดถือหลักการรับผิดชอบต่อการกระทำ
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำว่า ภาพจากคลิปที่ปรากฏมีความชัดเจนอยู่แล้ว แทบไม่จำเป็นต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม เพราะเป็นหลักฐานที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น และสิ่งสำคัญคือ การกระทำเช่นนี้หากในรถมีเด็กหรือผู้ที่บอบบางกว่า อาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้
“อยากให้ทุกคนตระหนักว่า สมัยนี้ไม่ว่าจะทำอะไร กล้องวงจรปิด โทรศัพท์มือถือก็บันทึกไว้หมดแล้ว คิดจะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี” ผบ.ตร. กล่าว
>> รถจักรยานยนต์หลุดโค้งคว่ำลงข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
16.00 น. อาสาฯ สมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุดอำเภอปราสาท รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงข้างทางและมีผู้เสียชีวิต บริเวณทางโค้ง ถนนภายในหมู่บ้านโคลด ม.6 ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง - ขาว ลักษณะหลุดโค้งแล้วพลิกคว่ำลงข้างทาง ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 64 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท
>> กรมการค้าภายใน บุกตลาดสด สำรวจ "เนื้อหมู-ไข่ไก่" ปริมาณเพียงพอ ราคาเหมาะสม
16.03 น. นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดสดยิ่งเจริญ สะพานใหม่กรุงเทพมหานคร โดยเปิดเผยว่า “ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ในการลดรายจ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งติดตามสถานการณ์และดูแลค่าครองชีพโดยด่วน
กรมฯ จึงได้มาติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเนื้อหมูและไข่ไก่ ในตลาดสดยิ่งเจริญ ซึ่งพบว่า สถานการณ์สินค้ามีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ และราคาเหมาะสมเป็นไปตามกลไกตลาด โดยราคาจำหน่ายในตลาด หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 160 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 ฟองละ 3 บาท มะนาวใบละ 4 บาท ในส่วนของผักสดต่างๆมีแนวโน้มลดลง ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ
อย่างไรก็ดี ในส่วนของต้นน้ำ กรมการค้าภายในได้ประสานไปยังกรมปศุสัตว์ เพื่อให้มีการตรวจสอบไปถึงแหล่งผลิต ได้แก่ ผู้เลี้ยงสุกรเพื่อเร่งเพิ่มปริมาณสินค้าเข้าสู่ตลาด ซึ่งคาดว่าจนถึงสิ้นเดือนนี้ ราคาจะยังคงที่ในระดับดังกล่าว
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเจ้าของตลาด ในการกำกับดูแลให้มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน ตรวจสอบความเที่ยงตรงของเครื่องชั่ง พร้อมเตรียมติดตั้ง “เครื่องชั่งกลาง” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค ป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อขาย สร้างความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน”
>> กบน. ปรับลดอัตราเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ 40 สตางค์ เพื่อรักษาราคาขายปลีกหน้าปั๊ม
16.30 น. นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กบน. วันนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างรอบด้าน ตลอดจนสถานการณ์ และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่จะส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนเป็นหลัก จึงมีมติเห็นชอบลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ E20 น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา พรีเมียม ลดลง 0.40 บาทต่อลิตร เพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศไม่ให้ปรับขึ้นราคา
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะส่งผลให้รายรับของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมัน ลดลงประมาณวันละ 40.49 ล้านบาทต่อวัน จากประมาณ 366.57 ล้านบาทต่อวัน เหลือประมาณวันละ 326.08 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 20 เม.ย. 68 ติดลบอยู่ที่ 52,513 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบอยู่ที่ 7,020 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบอยู่ที่ 45,493 ล้านบาท
สำหรับการตัดสินใจลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ครั้งนี้ เป็นมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันภายในประเทศ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว ยืนยันว่า กบน.ยังคงยึดมั่นในการดำเนินงานตามกรอบของพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 โดยมุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันภายในประเทศให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม
>> ตำรวจ ปทส. นำหมายศาลจับหนุ่มศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุงวัย 31 ปี หลังโพสต์ขายนกปรอดคอลายผ่าน TikTok
17.11 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.อภิชาติ อินยอด สว.กก.๖ บก.ปทส., ร่วมกับ ร.ต.ท.ธีรัชกฤติ แก้วขาว รอง สว.(ป)กก.๖บก.ปทส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด นำหมายศาลพัทลุง เข้าจับกุมตัว นายกอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ได้ที่บ้านพักใน ต.ลำสินธ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พร้อมของกลางนกปรอดคอลาย ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 10 ตัว กรงไม้ 10 กรง
หลังนายกอ ได้ใช้บัญชี TikTok โพสต์วิดีโอ นกกรงดอกแดงอย่างต่อเนื่อง และได้มีการตอบข้อความในลักษณะที่แสดงว่ามีการซื้อขายนก โดยจากการสอบสวนเบื้องต้น นายกอ บอกว่า เขาซื้อนกมาตัวละ 600-700 บาท ตั้งใจขายต่อในราคา 1,200-1,500 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ ศรีนครินทร์ ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 17 ต่อไป
>> พนักงานบริษัทรับเหมาขุดเจาะวางสายเคเบิ้ล พบโครงกระดูกมนุษย์ รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
17.30 น. ร.ต.อ.รัฐนินท์ เกษมสิทธิ์ชัยกุล พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งมีคนงานพบโครงกระดูกมนุษย์ ที่สถานนีรถไฟโพธาราม เขตเทศบาลโพธาราม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สายตรวจรถ จยย. กู้ภัยสว่างราชบุรี
ที่เกิดเหตุบริเวณริมทางรถไฟ พบพนักงานของบริษัทรับเหมาขุดเจาะร้อยท่อสายเคเบิ้ล ใต้ดิน ชี้ให้เจ้าหน้าที่ดูชิ้นส่วนโครงมนุษย์ ซึ่งมีกราม ฟัน กระดูกสันหลัง เศษกระดูกแขน เศษกระดูกซี่โครง แต่ละชิ้นนั้นกระดูกเริ่มผุกรอนแล้ว คาดว่าน่าจะถูกฝังมานานนับสิบปี
สอบถามนายอำนาจ อายุ 24 ปี เป็นพนักงานของบริษัทดังกล่าว ผู้พบชิ้นส่วนโครงมนุษย์ เล่าว่า ระหว่างที่ตนและเพื่อนร่วมงานทำการขุดเจาะดินลอดใต้ทางรถไฟเพื่อจะนำท่อรอดลงไปใต้ทางรถไฟเพื่อจะว่างสายเคเบิ้ลระหว่างที่กำลังใช้รถแบ็คโฮเพื่อจะเอาแขนยืนลงไปจวงดินใต้ทางรถไฟได้ลากเอาชิ้นส่วนกระดูกออกมา ตอนแรกคิดว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกของสัตว์ พอไปดูใกล้ๆ ก็ตกใจ เพราะที่พบเป็นกระดูกมนุษย์ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้นสันนิฐานว่า พื้นที่ดังกล่าวนั้นสมัยก่อนนั้นอยู่ใกล้ป่าช้าเก่าวัดโพธาราม จึงคาดว่าน่าจะเป็นศพของคนที่เสียชีวิตแล้วนำมาฝังไว้ จนเวลาล่วงเลยมานอน ต่อมาทางการรถไฟได้มาก่อสร้างทำรางรถไฟรางคู่และว่าจ้างให้บริษัทดังกล่าวมาทำการขุดเจาะลอดใต้ทางรถไฟเพื่อเดินสายเคเบิ้ล จนมาเจาะชิ้นส่วนโครงมนุษย์ ทางกู้ภัยได้นำชิ้นส่วนดังกล่าวนำไปเก็บรักษาต่อไป
>> ไฟไหม้บนอาคารอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซอยฉลองกรุง 31 รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
18.34 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยฉลองกรุง 31 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 5 ชั้น ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบกิจการรับเคลือบโลหะ ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นดาดฟ้า เพลิงลุกไหม้เสียหายไม้แบบก่อสร้าง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 5 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก สะเก็ดไฟจากการเชื่อมโลหะ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยลาดกระบัง
>> เพลิงไหม้ห้องพักชั้น 35 บนอาคารสูง ซอยสุขุมวิท 21 ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนจะลุกลาม
19.21 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยสุขุมวิท 21 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานนคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 50 ชั้น ประกอบกิจการให้เช่าพักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 35 ภายในห้องอบซาวน่า เพลิงลุกไหม้เครื่องทำความร้อน ลุกลามฝาผนัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 5 ตารางเมตร ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องทำความร้อน ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท
>> รถกระบะเสียหลักฟาดเข้าต้นไม้ข้างทาง คนขับเสียชีวิตร่างติดค้างในซากรถ
21.13 น. รับแจ้งจาก อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู สภ.บ้านหมอ เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำแล้วชนกับต้นไม้ข้างทาง บนถนนเส้นรอง บริเวณหลังวัดมัญจาภิรมย์ หมู่ 6 ตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ป้ายทะเบียน ลพบุรี ลักษณะเสียหลักฟาดเข้ากับต้นไม้ข้างทาง สภาพรถพลิกหงายท้อง อาสาสมัครตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ติดภายในรถ จึงดำเนินการใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ และนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา และตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 29 ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมอ พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัครนำร่างส่งชันสูตรที่ โรงพยาบาลบ้านหมอ
>> รถกระบะชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง วัย 39 ปี
21.22 น. ศูนย์วิทยุสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทาง ประตูน้ำสามนาค มุ่งหน้าวัดวังพระนอน ในพื้นที่ ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทา ป้ายทะเบียน สุพรรณบุรี ลักษณะชนกับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ป้ายทะเบียน กาญจนบุรี ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.เมืองสุพรรณบุรี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี
>> ถนนมอเตอร์เวย์ (ทล.7) รถบรรทุก 2 คันและรถนั่งส่วนบุคคลชนกัน มีผู้เสียชีวิตหลายราย
22.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ ถนนมอเตอร์เวย์ (ทล.7) ขาออก ช่วง กม.23+300 เลนซ้าย รถบรรทุก 2 คันและรถนั่งส่วนบุคคลชนกัน อาสาร่วมกตัญญู ตรวจสอบ พบว่ามีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย ยังติดค้างภายในยานพาหนะ เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการ
ที่เกิดเหตุ พบรถอเนกประสงค์ เชฟโลเล็ต สีขาว ป้ายทะเบียน 6161 อุดรธานี สภาพท้ายรถ ถูกรถเทรลเลอร์ชน และหน้ารถได้ชนกับรถบรรทุก สภาพพังเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมด 3 ราย โดยเป็น ผู้ชาย 1 รายและผู้หญิง 2 รายอาสาสมัครนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 9 และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 8 รายนำร่างออกมาได้ 7 ราย ส่วนอีก 1 รายเป็นคนขับ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สทล.สาย 7
>> แผ่นดินไหวที่เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้หลายพื้นที่
22.27 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.8 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้หลายพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
00.45 น. เกิดเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.2 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 245 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> รถจักรยานยนต์ชนขอบทางแล้วพลิกคว่ำ หนุ่มน้อยวัย 15 ปีเสียชีวิต
02.10 น. มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี (พ้งไล้36) ได้รับแจ้ง ว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำและมีผู้เสียชีวิต บริเวณก่อนขึ้นสะพานต่างระดับโคกหม้อ ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้า จ.กาญจนบุรี ม.12 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ลักษณะชนขอบทางแล้วพลิกคว่ำ ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็น ชายไทย อายุ 15 ปี พื้นที่ สภ.บ้านโป่ง
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ