หน้าแรก > อาชญากรรม

ตร.ไซเบอร์รวบบัญชีม้าแก๊งอ้างเป็นตำรวจ หลอกคุณตาวัย 81 ปี โอนเกลี้ยง 4.4 ล้าน ตามอายัดทัน 2 ล้าน

วันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 18:17 น.


ตำรวจไซเบอร์ลุยโปรเจค “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” รวบบัญชีม้าแก๊งอ้างเป็นตำรวจ โทรข่มขู่ยาว 4 วัน โอนเกลี้ยง 4.4 ล้าน ตามอายัดทัน 2 ล้าน นำคืนผู้เสียหาย

วันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. , พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ลุยโปรเจค “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” รวบบัญชีม้าแก๊งอ้างเป็นตำรวจ โทรข่มขู่ยาว 4 วัน โอนเกลี้ยง 4.4 ล้าน ตามอายัดทัน 2 ล้าน นำคืนผู้เสียหาย

สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน” โดยล่าสุด พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง เป็นชายอายุ 81 ปี ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงไปจนเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 4,400,000 บาท

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ผู้เสียหายได้ถูกมิจฉาชีพโทรหาโดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก แจ้งว่าผู้เสียหายได้เปิดบัญชีธนาคารไว้ และบัญชีดังกล่าวได้กระทำผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งมีนักเรียนถูกหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหาย จำนวน 45,000 บาท ทำให้นักเรียนคนดังกล่าวเกิดความเครียด จนตัดสินใจฆ่าตัวตาย

ต่อมา ผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพจึงแนะนำให้แอดไลน์ชื่อบัญชี “สภ.เมืองพิษณุโลก” เพื่อให้ผู้เสียหายได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ปปง. เมื่อแอดไลน์แล้ว มิจฉาชีพได้ส่งหมายศาล หมายตำรวจ และบัตรเจ้าพนักงานตำรวจ ให้ผู้เสียหายดูพร้อมกำชับว่าห้ามเปิดเผยหรือแจ้งบุคคลใกล้ตัว เนื่องจากเป็นความลับของทางราชการ

จากนั้น มิจฉาชีพข่มขู่ผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการโอนเงินไปให้ตรวจสอบ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินดังกล่าว เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบแล้ว เงินดังกล่าวจะถูกโอนกลับคืนให้ นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังใช้วิธีพูดข่มขู่ในรูปแบบต่างๆ ไม่ยอมให้ผู้เสียหายวางสายโทรศัพท์ จนมีการคุยต่อเนื่องกันเป็นเวลาเกือบ 4 วัน ผู้เสียหายหลงเชื่อและเกิดความกลัว สุดท้ายยอมโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ที่มิจฉาชีพส่งมาให้ จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,400,000 บาท

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.2 ได้สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จนพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการจำนวนหลายราย โดยมีผู้ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า จำนวน 5 ราย จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดนนทบุรี จนกระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย

โดยประสานกับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง จนสามารถอายัดเงินในบัญชีธนาคารของ 1 ในผู้ต้องหาไว้ได้ จำนวน 2 ล้านบาท และยังสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 4 ราย และยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอีกจำนวน 1 ราย

สำหรับเงินจำนวน 2,000,000 บาท ในบัญชีธนาคารที่อายัดไว้ได้นั้น อยู่ในบัญชีของชาย อายุ 20 ปี ซึ่งจับกุมตัวได้ในพื้นที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นธนาคารเจ้าของบัญชี เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าบัญชีดังกล่าว มีเงินของผู้เสียหายรายนี้เพียงยอดเดียว จำนวน 2 ล้านบาท ได้ถูกโอนเข้ามาในบัญชีของผู้ต้องหา ตามวันและเวลา ตรงตามหลักฐานของผู้เสียหาย จึงเป็นการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ยอดเงินดังกล่าวเป็นของผู้เสียหายรายนี้จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานทางธนาคารเพื่อขอตรวจยึดเงินซึ่งเป็นทรัพย์ถูกประทุษร้ายของผู้เสียหาย

ในส่วน ชาย อายุ 20 ปี นั้น ยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารแล้วขายบัญชีไปในราคา 3,000 บาท หลังจากการเปิดบัญชี ตนก็ไม่ได้ใช้บัญชีดังกล่าวอีกเลย กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัว จึงทราบว่าบัญชีของตนเองถูกนำไปใช้

ในการกระทำผิด และตนเองขอไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์เงินในบัญชีธนาคารจำนวน 2 ล้านบาท เนื่องจากตนเองรู้ดีว่าเป็นเงินที่ตนเองไม่มีสิทธิที่จะได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และยินดีคืนให้แก่ผู้เสียหายในคดีนี้

สุดท้ายนั้น พนักงานสอบสวนจึงประสานทางธนาคาร ขอถอดอายัดและนำเงินจำนวน 2 ล้านบาท คืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในวันนี้ ตามโครงการ “Money Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ