หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 เมษายน 2568

วันที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 06:05 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 เมษายน 2568

>> ฮือฮา ปรากฏการณ์ "เสาแห่งแสง" โผล่บนท้องฟ้า จ.ภูเก็ต

08.30 น. เฟสบุ๊กเพจ Phuket Times ภูเก็ตไทม์ ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ภูเก็ต จ.ฝั่งอันดามัน เมื่อกลางดึก 19 เม.ย. 68 เวลาประมาณหลังเที่ยงคืนได้เกิดปรากฏการณ์แสงสีเขียวลอยอยู่บนน่านฟ้า เป็นแนวตั้งหลายสิบแท่ง ทำให้ชาวบ้านที่พบเจอแตกตื่น โดยสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ชาวบ้านฮือฮา ปรากฏการณ์ "เสาแห่งแสง" โผล่บนท้องฟ้า จ.ภูเก็ต ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant (อาจารย์เจษฎ์) ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นระบุว่า "น่าจะปรากฏการณ์ "เสาแสง" ครับ เคยเห็นกันเป็นระยะๆ ตามจังหวัดต่างๆ ริมทะเล ซึ่งเคยพบเห็นแสงประหลาดที่ จ.ระนอง เรียกว่า "Pillars of Light เสาแห่งแสง" โดยเมื่อคืนวานมีรายงานการพบเห็นแสงประหลาดบนท้องฟ้าแถวริมทะเลของอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง จากหลายพื้นที่ และมีการถ่ายรูปไว้ด้วยเป็นจำนวนมาก (แปลว่าไม่ใช่ภาพตัดต่อหลอกชาวบ้านแน่นอน) แสงที่เห็น ไม่ใช่ฝนดาวตก ประตู Asgard หรือ มนุษย์ต่างดาวบุกโลกอะไร แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สามารถพบเห็นได้เรื่อยๆ แม้จะไม่ค่อยบ่อยก็ตาม ที่เรียกว่า เสาแห่งแสง

>> อาลัย พ.อ.สังกัด มทบ.11 หนึ่งในทีมค้นหาร่างผู้สูญหายตึก สตง. ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

09.17 น. นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ หัวหน้ารถกู้ภัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถึง พ.อ.พิฆราช สุริยะ สังกัด มทบ.11 ซึ่งเป็น 1 ใน นายทหารที่มาร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือเหตุอาคารถล่มทุกวัน ประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถกลับจากประชุมที่หน่วย ทำให้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งที่ นิติเวช รพ.รามาธิบดี โดยพ่อแม่ ได้เดินทางมาจากเชียงใหม่

โดย นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ หัวหน้ารถกู้ภัย และรองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้โพสต์ร่วมอาลัยด้วย ระบุว่า “วันก่อนเสธยังมาไหว้เจ้าที่ตรงจุเกิดเหตุในวันครอบครัวด้วยกัน.!!!”ร่วมแสดงความเสียใจ พอ.พิฆราช สุริยะ สังกัด มทบ.11 เสธเป็น 1 ใน นายทหารที่มาร่วมปฏิบัติการ ช่วยเหลือที่เกิดเหตุอาคารถล่ม ทุกวัน ขณะขับรถจะกลับประชุมที่หน่วยประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต ... ตอนนี้ร่างเสธอยู่ที่ นิติเวช รพ.รามา คุณพ่อ,คุณแม่ กำลังเดินทางมาจากเชียงใหม่ ... พวกเราทุกคนขอแสดงความเสียใจ

>> รถยนต์ไฟฟ้า เกิดไฟลุกกลางดึก หลังชาร์จทิ้งไว้ กล้องวงจรปิดจับภาพ นาทีไฟค่อยๆ ลุกขึ้นมา เคราะห์ดีมีคนเห็นทัน

12.00 น. เหตุการณ์รถไฟไหม้ เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และเป็นสิ่งที่คนใช้รถมักเกิดความกังวล ซึ่งทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์​ต้องพิสูจน์ว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร ล่าสุดเป็นเหตุการณ์ที่สมาชิกเฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้โพสต์ไว้ว่า เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าของเพื่อนขณะที่จอดชาร์จในบ้าน

โดยโพสต์ระบุว่า “เมื่อเพื่อนทักมาบอกว่ารถยนต์ไฟลุกตอนจอดชาร์ตอยู่ที่บ้านตอนตี5 ดีที่มีคนเห็น และคนในบ้านไม่มีใครเป็นอะไร เพื่อนออกรถมา ม.ค. ปี 67 ไมล์หมื่นกว่าเองค่ะ เข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันเกิดขึ้นแล้ว ก็ขอช่วยเพื่อนปักหลักรอดูการเยียวยาและรับผิดชอบจากบริษัทต่อไป

>> ทช. สนับสนุนรถบรรทุกน้ำและเข้าช่วยเหลือประชาชนในช่วงภัยแล้งอย่างเต็มกำลัง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

13.30 น. นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งในหลายพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำชับไปยังสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 - 18 และแขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศ ในการรับมือเกี่ยวกับการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ประสบภัยแล้ง ซึ่งปัจจุบัน ทช. ได้ประสานข้อมูลพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือกับจังหวัด พร้อมสนับสนุนรถบรรทุกน้ำและเจ้าหน้าที่ เพื่อแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนตามพื้นที่ต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึง เดือนเมษายน 2568 ซึ่ง ทช. ได้นำน้ำเข้าช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว จำนวน 240,600 ลิตร โดยแจกจ่ายไปยังประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครนายก จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดระยอง จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดชุมพร และจังหวัดสตูล

>> "มอบตัวแล้ว" ผู้ก่อเหตุยิงเจ้าของร้านอาหารดัง เมืองสุพรรณฯ ดับพร้อมลูกน้อง 2 ศพ

15.00 น. จากกรณี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี และลูกน้อง ถูกยิงเสียชีวิตที่ร้านอาหารของตนเอง เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 19 เม.ย. 68 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบของ สภ.สามชุก ลงพื้นที่เร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี เป็นคนพื้นที่ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นได้เดินทางมาติดตามหลังสืบทราบว่าหลบหนีมาที่บ้านใน จ.นนทบุรี

โดยเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 19 เม.ย. 68 ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ นายเอ ผู้ก่อเหตุ พร้อมทนายความ ได้ติดต่อขอมอบตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ สืบสวนสภ.สามชุก สืบสวน จ.สุพรรณบุรี และ สืบสวนภูธรภาค 7 เข้าร่วมสอบปากคำ ซึ่งได้มีการประสานให้ทางญาติเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมตรวจยึดของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อเอ็มจี สีดำ ทะเบียน กทม. ได้ที่ลานจอดรถวัดท่าเกวียน อ.ปากเกร็ด และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า คืนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาอ้างว่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่ร้าน จึงได้เดินทางกลับไปเอาของที่ร้าน แต่กลับมีปากเสียงกับเจ้าของร้าน ขณะเกิดเหตุลูกน้องได้เข้าไปห้ามจึงถูกยิงดับทั้ง 2 คน เบื้องต้น อยู่ระหว่างสอบปากคำ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเขม่าดินปืนและตรวจสอบรถยนต์คันก่อเหตุ ก่อนนำตัวส่งสภ.สามชุก ดำเนินคดีต่อไป

>> ปภ.กระบี่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบเหตุ “หลุมยุบตัว” ขนาดกว้าง 20 เมตร ในพื้นที่อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่

16.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ได้รับรายงาน เกิดเหตุหลุมยุบตัว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เมตร ลึก 10 เมตร บริเวณพื้นที่ หมู่ที่ 10 ตำบลพรุเตียว อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้กันพื้นที่โดยรอบบริเวณที่เกิดหลุมยุบตัว เพื่อป้องกันอันตรายแล้ว โดยพื้นที่เกิดเหตุ เป็นสวนปาล์มน้ำมันของนางอภิญญา หนูชู ซึ่งอยู่ใกล้กับคอกไก่ประมาณ 10 เมตร อยู่ห่างบ้านเรือนประมาณ 100 เมตร และมีแนวโน้มจะยุบตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับสาเหตุของการยุบตัว ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ได้ประสานไปยังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ เร่งเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว โดยในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น. สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต4 สุราษฎร์ธานีร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จะเข้าไปทำการตรวจสอบสาเหตุต่อไป

>>ทลายเครือข่ายเว็บพนันรายยักษ์ เงินหมุนกว่า 3,200 ล้านต่อปี ขยายผลล่านายทุนชาวจีนและอินโดนีเซีย

17.35 น. สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 3 บก.สอท.3 ได้สืบสวนพบเว็บไซต์พนันออนไลน์รายใหญ่ เครือข่าย Fun586 จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบเงินหมุนเวียนตลอดปี 2568 จำนวนกว่า 3,200 ล้านบาท จากข้อมูลการสืบสวน เบื้องต้นพบว่า เว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว มีเจ้าของ หรือ ผู้รับผลประโยชน์เป็นบุคคลสัญชาติจีน จำนวน 2 ราย และ สัญชาติอินโดนีเซีย จำนวน 1 ราย โดยเมื่อเครือข่ายดังกล่าวได้เงินจากสมาชิกผู้เล่นแล้ว จะถูกนำไปอำพรางเส้นทางการเงินด้วยการซื้อทองคำ โดยใช้บัญชีธนาคารประเภทนิติบุคคลในการฟอกเงิน จากพยานหลักฐาน เจ้าหน้าตำรวจพบว่า นิติบุคคลดังกล่าวถูกเปิดเป็นบริษัทโดยจดทะเบียนแตกต่างกันไป เช่น ทำธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกพืชตระกูลถั่ว การผลิตกระดาษ เป็นต้น โดยที่ตั้งบริษัทต่างๆ พบเป็นเพียงบ้านสำหรับพักอาศัยธรรมดา ไม่ได้เปิดเพื่อดำเนินธุรกิจจริงแต่อย่างใด

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในเครือข่ายได้แล้ว จำนวน 31 ราย เป็นชาวต่างชาติ จำนวน 10 ราย คนไทยจำนวน 15 ราย และนิติบุคคล จำนวน 6 ราย ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังเพื่อลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว จำนวน 6 ราย เป็นชาย 5 ราย และหญิง 1 ราย

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือ ทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่น ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน" และขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวผู้รับผลประโยชน์ชาวต่างชาติ ซึ่งพบว่ายังใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ โดยจะประสานหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี และเร่งติดตามผู้ต้องหาในเครือข่ายที่ร่วมขบวนการรายอื่นๆ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดอยหลวงจับกุมผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าพร้อมอาวุธครบชุด

18.20 น. นายเจษฎา เงินทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.วังเหนือ จับกุมผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าภายในเขตอุทยานแห่งชาติ พร้อมของกลางอาวุธปืนและอุปกรณ์ล่าสัตว์ครบชุด

ทีมลาดตระเวนนำโดยนายขวัญชัย กิติมา พนักงานพิทักษ์ป่า ภายใต้การอำนวยการของนายปัณณวิชญ์ ภูริรักษ์พิติกร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยหลวง ได้ออกปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ บริเวณห้วยแม่เกิ๋น ในท้องที่บ้านปงทอง หมู่ 7 ตำบลวังทอง อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง จากการปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายกิต (นามสมมุติ)​ อายุ 30 ปี ชาวบ้านปงทอง พร้อมด้วยของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด ไฟฉายคาดศรีษะ 2 อัน ลำโพงบลูทูธ 1 อัน ตอดไก่ 1 อัน กล้องอินฟาเรดติดลำกล้องปืน 1 อัน และมีดพร้อมฝัก 1 เล่ม

อุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาใช้มีความทันสมัย โดยเฉพาะกล้องอินฟาเรดติดลำกล้องปืนที่ช่วยให้สามารถมองเห็นสัตว์ป่าในเวลากลางคืนได้ชัดเจน และลำโพงบลูทูธที่อาจใช้เปิดเสียงล่อสัตว์ป่า แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.วังเหนือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> รมว.ยุติธรรม แถลงจับชวนหลิง จาง ลุยสอบปมฮั้วประมูลสร้างตึกสตง.เข้าข่ายใช้อุบายให้ได้งานหรือไม่

20.50 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงการจับกุมนายชวนหลิง จาง 1 ในกรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ตามความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 มาตรา 37 และมาตรา 41

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการขอหมายจับต่อศาล หมายจับ ได้แก่ 1.บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายชวนหลิง จาง กรรมการฯ ในฐานะกรรมการส่วนตัว 2.นายนัท (นามสมมุติ) 3.นายจวบ (นามสมมุติ) 4.นายสน (นามสมมุติ)

ทั้งนี้ นายชวนหลิง จาง ตามรายงานการสืบสวนพบว่ามีรายชื่อเป็นกรรมการอยู่ในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก

เจ้าหน้าที่มีหลักฐานเชื่อว่าคนไทยไปถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เนื่องจากมีหลักฐานทางการเงิน 2,000 กว่าล้านบาทในการกู้ยืมชาวจีน อีกทั้งตรวจสอบพบว่าชาวไทยดังกล่าวไม่ได้มีฐานะทางการเงิน รวมทั้งตรวจสอบว่าการประมูลงานก่อสร้างอาคาร สตง.เข้าข่ายการฮั้วประมูลหรือไม่และเข้าข่ายว่ามีการใช้อุบาย หรือกระทำให้ได้งานหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวผู้ต้องกาคนไทยอีก 3 รายมาดำเนินคดี

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ต่อจากนีัจะต้องตรวจสอบการออกแบบและการควบคุมงาน และสัญญาการก่อสร้าง และต้องดูในส่วนที่มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย ว่าเข้าข่ายประมาททำให้มีผู้เสียชีวิตหรือไม่ โดยตรวจสอบรายละเอียดการควบคุมงานและออกแบบ ต้องให้เป็นหน้าที่ของทางสำนักงานตำรวจเป็นผู้สอบสวน

>> รัวปืนยิงดับหนุ่ม 42 หลังมีปากเสียงกับลุงช่างสักยันต์ วัย 57 ปี ชักปืนรัวสนั่นดับคาถนน ก่อนมีคนขี่รถจักรยานยนต์มารับพาหลบหนีไป

เมื่อเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต บนถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ หมู่ 9 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จึงประสานแพทย์ พิสูจน์หลักฐาน เดินทางตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร , พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัย

ที่เกิดเหตุพบศพ นายจักรกฤษณ์ อายุ 42 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าข้างขมับขวา 1 นัด หน้าอกซ้าย 1 นัด ขวา 1 นัด โดยมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนมือปืนมีพยานระบุ ชื่อนายสัน (นามสมมุติ) อายุประมาณ 57 ปี เป็นพนักงานเก็บขยะ และช่างสักยันต์หลังหลบหนีไป

สอบสวนพยาน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายเดินผ่านหน้าเพิงพักนายสัน ที่ปลูกสร้างอยู่ริมถนนแล้วเกิดมีปากเสียงกันแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร จากนั้นคนตายเดินเอาของเข้าไปเก็บในห้องแล้วคนตายก็เดินกลับออกมายืนตรงปากซอย ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ชาวบ้านพากันออกมาดูก็พบว่านายจักรกฤษณ์ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนนายสัน (นามสมมุติ) มีคนขี่รถจักรยานยนต์มารับพาหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งรพ. พร้อมเร่งสอบสวนติดตามจับกุมตัวนายสัน (นามสมมุติ) มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ