24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 10 เมษายน 2568

>> รถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

08.25 น. สภ.เมืองชัยนาท แจ้งว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองชัยนาท ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนพหลโยธิน ช่วงทางกลับรถ ใกล้เคียงบ้านเอื้ออาทร ในพื้นที่ ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล สีม่วง ป้ายทะเบียน กทม. จอดอยู่สภาพหน้ารถพังเสียหาย และห่างออกไป พบรถจักรยานยนตื ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน อุทัยธานี และใกล้กันพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย มีอาการสาหัส อาสากู้ภัยช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร

ต่อมาเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นชายไทย อายุ 65 ปี, หญิงไทย อายุ 63 ปี และเด็กหญิง อายุ 3 ขวบ

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเชิญตัวคนขับรถเก๋งไปทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุ และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> นายกรัฐมนตรี ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ ทำบุญไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล

09.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ร่วมสักการะศาลพระพรหม ตึกไทยคู่ฟ้า และศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ 2568 วันปีใหม่ไทย พร้อมเป็นประธานในงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2568 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล สรงน้ำพระพุทธรูป และมีพิธีรดน้ำขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวอำนวยพร เนื่องในงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงานทุกคน ว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ผู้บริหารและข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรีทุกคน ได้มาร่วมงานสืบสานวัฒนธรรมไทยที่สวยงามให้คงอยู่ เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นวันสำคัญ ซึ่งยังเป็นทั้งวันผู้สูงอายุแห่งชาติ และวันครอบครัว นับเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่ทุกคนจะได้ใช้เวลาวันหยุดยาวร่วมกับทุกคนที่รัก ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ขอให้ทุกคนมีความปลอดภัย เดินทางโดยสวัสดิภาพ ทุกคนได้ทำงานหนักในภารกิจต่าง ๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเหลือประเทศชาติ และเพื่อประชาชน ขอให้ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เมื่อกลับมาทำงาน จะได้มีพลังใจและพลังกาย พร้อมเป็นแรงสำคัญให้กับประเทศชาติต่อไป

“ในโอกาสวันสงกรานต์ ปี 2568 ดิฉันขออาราธนาอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือ ตลอดจนพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โปรดดลบันดาลประทานพรให้ทุกท่าน พร้อมทั้งครอบครัว มีความสุข ความเจริญ และมีความร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป” นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพร

>> ตร.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับ 2 ชาวจีน ก่อเหตุขโมยของบนเครื่องบิน

10.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบินหนึ่ง ว่ามีเหตุร่วมกันลักทรัพย์บนอากาศยานในเที่ยวบินลำดังกล่าว จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบคนจีน 2 คน ท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจสอบพบมีธนบัตรไทย จำนวน 80,000 บาทอยู่กับตัว

จากการสอบถามผู้เสียหาย ยืนยันว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ข้างกับตนบนเครื่องบินลำดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นตัวและสัมภาระโดยละเอียด จนกระทั่งพบเงินสดของกลาง 50,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ในตัวของผู้ก่อเหตุจริง ส่วนอีก 30,000 อยู่ในตัวคนก่อเหตุอีกคน

ในชั้นจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งสองคนยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากการตรวจสอบประวัติบุคคลของผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย พบว่าอยู่ในรายชื่อของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังที่ต้องติดตามพฤติกรรม ที่ทางชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เฝ้าติดตาม

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า "ร่วมกันลักทรัพย์ในอากาศยาน " และได้ทำการสอบปากคำพยานบนเครื่องบินดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมทั้งหมด ส่งคืนให้นักท่องเที่ยวผู้เสียหายในขั้นต่อไป

>> หนุ่มโรงงาน มุดเข้าไปหยิบแผ่นผ้าใบในเครื่องอัดกระดาษ ถูกเครื่องจักรทับหัวดับ

10.30 น. สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุ คนถูกเครื่องจักรทับเสียชีวิต ภายในโรงงานผลิตกล่องกระดาษแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ บริเวณเครื่องจักรอัดกระดาษ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายทรงพล อายุ 37 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนแท่นอัดกระดาษ มีบาดแผลถูกทับที่ศีรษะ เลือดออกปาก จมูก ไหลนองเต็มพื้น

จากการสอบถาม เพื่อนร่วมงาน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับผู้เสียชีวิต หลังแก้ไขงานเสร็จ ผู้เสียชีวิตได้กดปุ่มเปิดให้เครื่องจักรทำงาน แล้วเห็นมีแผ่นผ้าใบวางขวางอยู่ด้านใน จึงมุดเข้าไปเพื่อจะดึงออก คงลืมว่าเครื่องจักรกำลังทำงาน จึงถูกกดทับที่ศีรษะเป็น ขณะเกิดเหตุตนยืนอยู่และพยายามช่วยเหลือแต่ไม่ทัน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ สอบปากคำเพื่อนร่วมงาน พร้อมเชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางบ่อ ส่วนศพได้มอบให้มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์สมุทรปราการ และจะประสานญาติให้ทราบเรื่อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

>> ลงดาบ 2 สห. นำขบวนไฮโซเก๊ งดบำเหน็จ-ขั้นเงินเดือน กำชับ "รับจ็อบ ให้คำนึงถึงเกียรติข้าราชการ"

11.14 น. ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงผลสอบกรณี 2 สารวัตรทหาร (สห.) รับจ้างนำขบวนให้กับไฮโซเก๊ว่า ผลสอบสวนพบว่า สห. ทั้ง 2 นายใช้เวลาส่วนตัว ซึ่งไม่ได้ใช้เวลาราชการรวมถึงทรัพยากรและพาหนะก็ไม่ใช่ของทางราชการ ผลการสอบสวนเบื้องต้นได้ลงโทษทางวินัย ได้กักขัง งดบำเหน็จ และลดขั้นเงินเดือนในครึ่งปีหลัง จากเหตุดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างให้ข้าราชการเห็นว่า เราเป็นข้าราชการของประเทศ การไปทำอะไรในสิ่งที่เป็นปัญหาเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ

ส่วนที่ว่าข้าราชการชั้นผู้น้อยมีรายได้ไม่พอจึงต้องไปรับจ้างหารายได้พิเศษนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อตนมาดำรงตำแหน่งก็พยายามดูแลข้าราชการชั้นผู้น้อย และก็ได้กำชับเพิ่มเติมให้มากขึ้นเพราะที่ผ่านมายังดูแลไม่ทั่วถึง ในกรณีที่ไปหารายได้พิเศษ เช่น คุมสถานบันเทิง และอื่นๆ ได้กำชับกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า อะไรเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำก็ต้องกำชับ เพราะข้าราชการต้องรักษาเกียรติ

>> ในหลวง - พระราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มอบเงินพร้อมสิ่งของบำรุงขวัญกำลังใจทีมสุนัขค้นหาและกู้ภัย

11.37 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเรือตรี สกาย เภกะนันทน์ เป็นผู้เชิญสิ่งของพระราชทาน ซึ่งประกอบด้วย เงินจำนวน 300,000 บาท พร้อมตะกร้าสิ่งของผลิตภัณฑ์อาหารและบำรุงสุขภาพสำหรับสุนัข เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ แก่สุนัขค้นหาและกู้ภัย K9 (เค-นาย) จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่ สุนัขตำรวจ สุนัขทหาร และสุนัขทีม USA Thailand

โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตจตุจักร และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เขตจตุจักร

>> นายกฯ เป็นประธานในพิธี เผาทำลายยาเสพติด 27 ตัน จับจริงเผาจริง มุ่งบำบัดผู้เสพ

13.50 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีแถลงผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน 76 สถานีตำรวจใน 14 จังหวัด ในห้วง 2 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 31 มี.ค.2568 และการเผาทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี 2568 (ครั้งที่ 2) รวม 27,816.69 กิโลกรัม

โดยผลสรุปการดำเนินงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมยาบ้า 76,556,800 เม็ด เพิ่มจากปี 2567 กว่า 20 ล้านเม็ด คิดเป็นร้อยละ 32, จับกุมไอซ์ 7,527 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2567 กว่า 7,000 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,700 
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่เราจะทำต่อคือเรื่องการบำบัด ตรงนี้หลายพื้นที่ได้บำบัดไปกว่า 3 แสนคน เราต้องรักษาให้เขากลับเข้าสู่สังคมได้ ต้องต้อนรับกลับเข้าสู่สังคมให้เป็นกำลังสำคัญที่ดีของประเทศชาติ ส่วนการเผาทำลายยาเสพติดที่จับกุมและยึดไว้ของทาง ป.ป.ส. เพื่อแสดงให้เห็นว่าให้ประชาชนสบายใจว่ายาเสพติดที่จับมาได้นำมาเผาจริง และไม่ถูกวนกลับเข้าไปในสังคม

สำหรับของกลางที่จะเผาทำลายมาจากการจับกุมทั้งหมด 80 คดี น้ำหนักยาเสพติดของกลางและสิ่งห่อหุ้ม รวม 27,816.69 กิโลกรัม

>> กทม. นิมนต์พระสงฆ์ สวดพระพุทธมนต์อุทิศให้ผู้ประสบภัยตึกถล่ม พร้อมเรียกขวัญกำลังใจทีมงานให้สู้ต่อ

14.00 น. ที่ อาคารจอดรถสถานที่ก่อสร้างอาคาร สตง. ถนนกำแพงเพชร 2 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ เพื่อผู้ประสบภัยและผู้สูญหาย แผ่นดินไหว กรณีตึกถล่ม พื้นที่เขตจตุจักร โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง , กรรมการมหาเถรสมาคม , วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นผู้นำคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร จำนวน 103 รูป สวดพระพุทธมนต์ ให้กับผู้ประสบภัยและผู้สูญหาย ที่ยังติดค้างภายใต้ซากอาคาร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครญาติผู้ประสบภัยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าฯ สตง.)เข้าร่วมพิธี

สำหรับพิธีสวดพระพุทธมนต์ในวันนี้กำหนดสวดเป็นระยะเวลา 20 นาทีประกอบด้วยบทสวดปัพพะโตปะมะคาถา (ชราและมรณะ เปรียบประดุจภูเขาหินที่กลิ้งบดทับสัตว์ทั้งหลาย) , บทสวดอริยธนาคาถา (อริยทรัพย์อันประเสริฐ) , บทสวดขัดธรรมนิยามะสูตร และบทสวดธัมมนิยามสุตตุง (พระสูตรแสดงความแน่นอนแห่งสภาวะธรรมทั่วไป) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจที่ดี และเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับญาติพี่น้องผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ขณะที่ เจ้าหน้าที่ได้ให้ญาติของผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอาคาร สตง. ซึ่งมีทั้งคนไทยและแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน จำนวนประมาณ 100 คน เข้าร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์ให้กับผู้สูญหายในครั้งนี้

>> รวบบอสใหญ่ แก๊งหลอกลงทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ พบเหยื่อเกือบร้อย เสียหายรวม 22 ล้านบาท

15.23 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยจับกุมได้บริเวณบ้านใน ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 นาย เอ และผู้เสียหายรวม 74 ราย ได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่า นายปอ กับพวกรวม 5 ราย ได้ชักชวน หลอกลวงเหยื่อว่าสามารถนำเงินไปลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยให้ผู้ลงทุนรายเก่า ไปชักชวนผู้ลงทุนรายใหม่ เพื่อนำเงินไปลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แล้วผู้ลงทุน จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจำนวนมาก คิดเป็นผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 365-438 ต่อปี ซึ่งเป็นผลตอบแทน ที่สูงกว่าความเป็นจริง เช่น เมื่อเหยื่อ ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท จะได้ผลตอบแทนวันละ 400 บาท เมื่อผ่านไป เป็นเวลา 100 วันทำการ เหยื่อจึงคาดว่าจะได้รับเงินทั้งสิ้น 40,000 บาท แต่ความเป็นจริงแล้ว เหยื่อกลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่กลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้าง

ต่อมา เจ้าหน้าตำรวจ ปอศ. ผู้ต้องหาหลบหนีมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้จับกุมผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมาย แต่จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

>> หนุ่มวัย 19 ปี จมน้ำและเสียชีวิตในสระน้ำสาธารณะ บ้านหนองปรือ จ.พิษณุโลก

15.35 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน รับแจ้งมีบุคคลจมน้ำเสียชีวิต จุดเกิดเหตุบ้านหนองปรือ ม.1 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

โดยที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นสระน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ภายในหมู่บ้าน ชาวบ้านได้ช่วยกันงมหา และพบผู้เสียชีวิต จึงดำเนินการนำร่างขึ้นฝั่ง กู้ภัยพิษณุโลกตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย อายุ 19 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

เบื้องต้น ทราบว่าผู้เสียชีวิต เป็นผู้ที่มีความบกพร่องทางด้านพัฒนาการ ได้แอบออกไปเล่นน้ำ ซึ่งเป็นสระสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียงบ้านก่อนจมหายไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งโสภา และแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาล เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

>> รถกระบะ เสียหลักขึ้นเกาะกลางและชนเข้าเสาไฟ กลางถนนหมายเลข 11 มีผู้บาดเจ็บนับสิบราย กู้ภัยเร่งช่วยเหลือนำส่ง รพ.

18.45 น. สมาคมกู้ภัยเด่นชัย ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟเกาะกลาง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วงหลัก กม.359+200 ในพื้นที่ ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีดำ ป้ายทะเบียน อุตรดิตถ์ ลักษณะเสียหลักขึ้นเกาะกลางถนนและชนกับเสาไฟ มีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ 10 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 9 ราย ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยไร่

>> ไฟลุกไหม้รถแท็กซี่ เสียหายวอดทั้งคัน โชเฟอร์-ผู้โดยสารปลอดภัย

20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบางพลับและอ้อมเกร็ด อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย เข้าตรวจสอบเหตุไฟไหม้รถแท็กซี่ บริเวณถนนราชพฤกษ์ ขาออก เชิงสะพานข้ามคลองบางบัวทอง ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้รถแท็กซี่ สีเหลือง เจ้าหน้าที่เร่งใช้น้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ โดยต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากรถคันดังกล่าวใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊าซ NGV และน้ำมันเบนซิน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พบว่าห้องเครื่องและห้องผู้โดยสารเสียหายทั้งหมด

คนขับรถแท็กซี่ เล่าว่า ได้รับลูกค้าจากสถานีรถไฟฟ้าบางรักน้อย มุ่งหน้าไปส่งถนนหอการค้าใกล้วัดสะพานสูง ระหว่างทางจู่ ๆ มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา 1 ครั้ง บริเวณห้องเครื่อง จากนั้นมีควันเพลิงลุกตามมา ตนและผู้โดยสารรีบวิ่งหนีตายออกมาจากรถ กระทั่งไฟลุกลุกลามอย่างรวดเร็ว ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

>> รถบัสรับ - ส่งพนักงาน ชนกับรถบรรทุก ถนนเส้นทาง สีคิ้ว - ด่านขุนทด มีผู้บาดเจ็บหลายราย

20.35 น. รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุกู้ภัยพรหมธรรม อ.สีคิ้ว มีอุบัติเหตุ รถบัสรับ-ส่งพนักงาน ชนกับรถบรรทุก และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนเส้นทาง สีคิ้ว - ด่านขุนทด ขาเข้าด่านขุนทด ช่วงฝั่งตรงข้ามโรงเรียนห้วยลึก ต.บ้านหัน อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

ที่เกิดเหตุ พบรถบัส สีขาว ลักษณะชนกับรถบรรทุก 22 ล้อ ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 8 ราย เป็นชาย 1 และหญิง 7 ราย ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลสีคิ้ว ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว

>> รถเก๋งพลิกหงายท้องในคูน้ำ ริมถนนเลี่ยงเมืองพิษณุโลก พบผู้บาดเจ็บสาหัสหมดสติ กู้ภัยเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจ

23.10 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน มีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลพลิกคว่ำ ลงในคูน้ำข้างทาง ถนนเลี่ยงเมืองพิษณุโลก ใกล้เคียงโรงแรมพาราไดซ์ อินน์ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ป้ายทะเบียน พิษณุโลก ลักษณะพลิกหงายท้องอยู่ในคูน้ำ อาสาสมัครตรวจสอบพบว่ามีผู้ติดค้างภายในรถ จึงใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดประตู แล้วนำผู้บาดเจ็บออกมา พบว่ามีอาการหมดสติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำ CPR รอทีมกู้ชีพขั้นสูงจาก รพ.พุทธชินราช สนับสนุนที่เกิดเหตุ โดย CPR เป็นผล พบสัญญาณชีพ จึงรีบนำส่งรักษาเร่งด่วน ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช

เบื้องต้น ที่เกิดเหตุ เป็นลักษณะ รถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แอคอร์ต สีดำ ทะเบียน พิษณุโลก ลักษณะชนกับรถบรรทุก อีซูซุ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน สุโขทัย ก่อนรถจะเสียหลักตกลงคูน้ำข้างทาง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก 
 

>> หนุ่มน้อยวัย 17 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลัก ชนต้นไม้ข้างทางหักกลาง เสียชีวิตริมถนนศรีนครินทร์

00.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนขอบทาง และมีผู้เสียชีวิต ริมถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาออก ช่วงตรงข้ามซอยศรีนครินทร์ 24 พื้นที่ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน ล้มคว่ำ ใกล้กันพบต้นไม้ที่ปลูกอยู่ข้างทางหักกลางลำต้น และใต้ต้นไม้ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 17 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

02.38 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.2 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 287 กม. ยังไม่ผลกระทบต่อประเทศไทย