หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2568

วันที่ 17 มีนาคม. 2568 เวลา 05:37 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2568


>> ไฟไหม้เรือนำเที่ยว ขณะพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำที่เกาะเต่า เคราะห์ดีช่วย นทท.-ลูกเรือได้ทันปลอดภัย

09.00 น. ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เรือนำเที่ยว ชื่อเรือ เดวี่ โจนส์ ล็อคเกอร์ ของบริษัท เดวี่ โจนส์ ล็อคเกอร์ จำกัด ที่บริเวณเซาเวท (กองตุ้มกู) ห่างจากเกาะเต่าประมาณ 5-6 ไมล์ทะเล หลังรับแจ้ง ศร.ชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประสานเรือเอกชน และอาสาสมัคร เร่งเข้าช่วยเหลืออพยพนักท่องเที่ยวและลูกเรือ ไปยังเรืออีกลำ ได้อย่างปลอดภัย

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เรือ เดวี่ โจนส์ ล็อคเกอร์ มีใบอนุญาตใช้เรือ ประเภท บรรทุกคนโดยสาร ใบอนุญาตสิ้นอายุวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เลขทะเบียนเรือ 564700015 ขนาด 23.29 ตันกรอส มีประกันภัย ของ บริษัทวิริยะประกันภัย จํากัด (มหาชน) โดยช่วงเช้าได้นำนักท่องเที่ยว จำนวน 28 คน ออกเดินทางจากเกาะเต่าไปดำน้ำ และได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ ต้นเพลิงจากบริเวณห้องเครื่อง ก่อนจะลุกลามไปยังห้องกัปตันและห้องน้ำด้านหลัง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัด ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


>> พบผู้เสียชีวิตในทะเล ลอยอยู่ระหว่างเกาะเฮ - เกาะราชาใหญ่ คาดเป็นชายชาวต่างชาติ จ.ภูเก็ต

09.20 น. ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต อบจ.ภูเก็ต(ไข่มุก) ต.ฉลอง อ.เมืองได้รับการประสานจากเรือท่องเที่ยวว่าพบศพผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่ระหว่างเกาะเฮกับเกาะราชาใหญ่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จากนั้นได้นำเรือตรวจการณ์ออกไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบศพชายสวมกางเกงขาสั้นสีแดง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สภาพศพบริเวณหัวเหลือแต่โครงกระโหลก ส่วนลำตัวและขายังในสภาพขึ้นอืด ลอยอยู่ บริเวณผิวน้ำ ห่างจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ฉลองราว 5 กม.

จึงนำศพกลับเข้าฝั่งเพื่อมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชันสูตรหาสาเหตุการตายและตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใคร สัญชาติอะไร เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายอาจเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบตาม สภ.ต่างๆในพื้นที่ จ.ภูเก็ตว่ามีการแจ้งคนหายไว้หรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะชายชาวต่างชาติ เพื่อนำไปสู่การสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป


>> หนีไม่รอด แก๊งเยาวชนปีนรั้ว หนีออกจากสถานพินิจฯ โคราช ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตามรวบ

11.30 น. เกิดเหตุจลาจลภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ในซอย มิตรภาพ 19 ต.สุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา มีเยาวชนชายหลบหนีปีนรั้วออกมาจากสถานพินิจฯ รวม 11 คน โดยมีเยาวชนบางรายถือเหล็กแป๊บเป็นอาวุธ ทั้งนี้ เยาวชนทั้ง 11 คน ได้เดินเท้าหลบหนี และพยายามจะเข้าไปในบ้านเรือนของประชาชนในละแวกใกล้เคียง เพื่อจะขโมยรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนี สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก

ต่อมา เจ้าหน้าที่ของสถานพินิจฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง ได้ระดมกำลังติดตามจับกุมตัวเยาวชนมาได้ครบทั้งหมด 11 คน และนำตัวเข้าไปสอบสวนภายในสถานพินิจฯ ทันที พร้อมแจ้งให้ผู้ปกครองมารับทราบถึงพฤติกรรม 
จากการสอบสวนเบื้องต้น เยาวชนทั้ง 11 คน ระบุว่า ทนกับสภาพอากาศร้อน และทนคิดถึงบ้านไม่ไหว จึงได้ชักชวนกันหาทางหลบหนีออกมาจากสถานพินิจฯ


>> ไฟไหม้บ้านเรือน กลางชุมชนสันกลาง เสียหายวอด 1 หลัง

12.01 น. งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงรายได้รับแจ้งเหตุ 199 เกิดเพลิงไหม้บ้าน ชุมชนสันกลาง ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย

ที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยรถดับเพลิงระดมใช้น้ำทำการควบคุมเพลิง 35 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะเกิดเหตุ พบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นเจ้าของบ้าน ทางอาสามูลนิธิสยามรวมใจเชียงราย ได้นำผู้บาดเจ็บจากถูกไฟคลอก ส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง สาเหตุและค่าเสียหาย อยู่ระว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าทีตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย


>> ไฟไหม้โรงงานกระดาษย่านไทรน้อย จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด

12.30 น. เหตุเพลิงไหม้โรงงานกระดาษแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ถนนบางเลน-ปทุมธานี ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

โดยที่เกิดเหตุเป็นโรงงานกระดาษรีไซเคิลขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ลักษณะปลูกเป็นโกดังติดต่อกันหลายหลัง โดยไฟไหม้จากโกดังด้านหลัง ลุกลามจำนวน 2-3 โกดัง เนื้อที่ไฟไหม้เสียหายประมาณ 3 ไร่ ความร้อนทำให้หลังคาโกดังยุบตัวลงมา เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิงประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถเข้าไปภายในอาคารได้ จึงได้ฉีดน้ำล้อมไว้ให้อยู่ในวงจำกัด

ต่อมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ประชุมวางแผนร่วมกับ น.ส.อังคณา ยืนยงพานิช นายอำเภอไทรน้อย นายกเทศมนตรีและนายกอบต.ทั้งในและพื้นที่ใกล้เคียง รวมกว่า 30 หน่วย ประสานขอเครื่องสูบน้ำแรงดันสูงจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมา สนับสนุน และรถแบคโฮ เพื่อคุ้ยเขี่ยกองกระดาษที่ไฟยังคุอยู่ในอาคาร เพื่อฉีดน้ำป้องกันไฟปะทุเพิ่ม 
ด้าน น.ส.อังคณา ยืนยงพานิช นายอำเภอไทรน้อย จ.นนทบุรี กล่าวว่า สาเหตุการเกิดไฟไหม้กำลังอยู่ระหว่างการสอบถามผู้เกี่ยวข้องว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่สาเหตุหลักๆ น่าจะเกิดจากระบบไฟ แต่ยังไม่สามารถเข้าไปพิสูจน์ได้จนกว่าไฟจะสงบลง เหตุไฟไหม้ครั้งนี้มีรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งเข้ามาช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ โดยสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในบริเวณจำกัดได้แล้ว แต่ยังมีไฟคุกรุ่นอยู่ในบางจุด จึงต้องฉีดน้ำประคองไปจนกว่าไฟจะดับสนิท


>> โจรบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองย่านวัชรพล กวาดสร้อยคอทองคำ 1 บาท 5 เส้น

12.30 น. สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ร้านทองออโรร่า ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.

ที่เกิดเหตุเป็นร้านรับฝากจำนำ ซื้อ-ขายทองคำรูปพรรณ พบหญิงพนักงานของร้านยืนอยู่ในอาการตกใจ ให้การว่า มีวัยรุ่นชาย 1 คน แต่งกายสวมเสื้อสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีแมสก์สีดำปิดใบหน้า เดินเข้ามาภายในร้านเพื่อนำสร้อยคอทองคำมาฝากจำนำ ระหว่างที่กำลังตรวจค่าเปอร์เซ็นต์ทองคำ พบว่าเป็นสร้อยทองปลอม จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงได้ใช้อาวุธปืนออกมาจี้ขู่บังคับและใช้มือหยิบสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 5 เส้น ก่อนออกจากร้านเดินไปขับขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีมุ่งหน้าแยกวัชรพล

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป


>> บุกโกดังยึดปุ๋ยปลูกกัญชาเถื่อน - วัตถุอันตราย มูลค่ากว่า 6 ล้าน พบโยงร้านค้าออนไลน์

15.01 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกันตรวจค้น โกดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ พร้อมตรวจยึดและอายัดผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยว่าเป็นปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียน แต่มิได้ขึ้นทะเบียนไว้ อันเป็นความผิดตามตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 จำนวน 43 รายการ จำนวน 774 ชิ้น ยึด 76 ชิ้น อายัด 698 ชิ้น และผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยว่าเป็นวัตถุอันตราย จำนวน 5 รายการ 111 ชิ้น ยึด 18 ชิ้น อายัด 93 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางประมาณ 6,400,000 บาท

โดย บก.ปคบ. นำหมายค้นของศาลอาญา ลงวันที่ 14 มี.ค.68 เข้าตรวจค้นโกดังสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีฉลากภาษาไทย และไม่ปรากฎเลขทะเบียนปุ๋ย ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและวัตถุอันตราย เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการยึดและอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย

​จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า โกดังดังกล่าวเป็นธุรกิจให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า รวมถึงให้บริการแพ็คและจัดส่งสินค้า โดยผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยเหล่านี้เป็นสินค้าของร้านค้าออนไลน์ บนหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งมียอดผู้ติดตามกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งเป็นเพจที่ขายสินค้าประเภทปุ๋ยสำหรับพืชกัญชา และสารเคมีทางการเกษตร เช่าพื้นที่ฝากสินค้า และใช้บริการของโกดังในการแพ็คและจัดส่ง โดยมีการแจ้งรายการจัดส่งผ่านช่องทางไลน์ 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดเพื่อป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์อันตรายเล็ดลอดสู่มือผู้บริโภค


>> มอบตัวแล้ว หนุ่มรถตู้พยาบาลควันดำ ปีนเกาะถนน ขับหวาดเสียว สารภาพดื่มมาเล็กน้อย

16.51 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีมีคลิปปรากฎบนโลกออนไลน์ เป็นคลิปรถตู้ตกแต่งคล้ายรถกู้ภัย ขับขี่ด้วยความเร็ว ลักษณะส่ายไปมา และควันดำ ใช้เส้นทางถนนสายเลย-เชียงคาน ขาเข้าเมืองเลย บริเวณบ้านโพนไทร ต.เมือง อ.เมืองเลย ก่อนถึงไฟแดง ม.ราชภัฎเลย โดยรถคันดังกล่าว เป็นทะเบียนหมวดจังหวัดเลย มีการเปิดไฟไซเรนขอทาง ติดสติ๊กเกอร์ อุบัติเหตุ เจ็บ-ป่วย ฉุกเฉิน โทร 1669 รับส่งผู้ป่วย

ล่าสุดวันนี้ 16 มี.ค.2568 นายเอ (นามสมมุติ) ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ได้ติดต่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยยอมรับว่าตนเป็นคนขับรถจริง มีการดื่มกันเล็กน้อย ที่ขับรถส่ายไปมา เพราะพักผ่อนน้อยไม่ได้นอน ตอนขับรถขึ้นเกาะกลาง รู้สึกตัว จึงรีบหักออกมา มีแค่กระจกฝั่งคนขับที่หักออกไป รถคันนี้เป็นชื่อของแฟน อยากขอโทษทางสายงาน ยอมรับผิด จะไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้อีก

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว เพื่อส่งพนักงานสอบสวน พร้อมกับตั้ง 3 ข้อหา ขับรถในทางโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น, ขับรถในทางโดยติดตั้งและใช้สัญญาณไฟวาบๆ และเสียงไซเรน โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ขับรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง โดยไม่ได้รับอนุญาต


>> รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต เตรียมแถลงข่าวไวรัลคลิป “สลัมพม่ากลางภูเก็ต” ลูกหลานเรียนฟรี

17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี กระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อช่องยูทูปชื่อหนึ่ง แชร์ภาพวิดีโอพื้นที่ จ.ภูเก็ต ของยูทูบเบอร์ต่างชาติ พร้อมชื่อเรื่องว่า ต่างชาติเปิดสลัมพม่ากลางภูเก็ต โรงเรียนเรียนฟรีเปิดแอร์เย็นฉ่ำ โดยเหตุการณ์ตามคลิปวิดีโอเผยให้เห็นหมู่บ้านสลัมที่มีชาวพม่าพักอาศัยอยู่ ซึ่งจ่ายค่าเช่าต่อเดือนๆ ละ 3,600 บาทรวมค่าน้ำ-ค่าไฟแล้ว และโรงเรียนที่มีลูกหลานชาวพม่าที่พักอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต เรียนอยู่ ซึ่งโรงเรียนกับที่พักห่างกันประมาณ 300 เมตร

ล่าสุด ทางจังหวัดภูเก็ต เตรียมแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) ที่ห้องประชุมมุกอันดาชั้น 4 ของศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าฯ จ.ภูเก็ต เพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ข้อมูลดังกล่าว ยังรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาต่างด้าวผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้อย่างแน่นอน


>> รถอเนกประสงค์ชนกับรถจักรยานยนต์ เสียชีวิต 2 และเจ็บสาหัส 1 ราย

17.38 น. รับแจ้งจากสมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย มีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนทางหลวงหมายเลข 331 ช่วงทางกลับรถใกล้เคียงครัวต้นตาล ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดเเหตุ พบรถอเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาว ป้ายทะเบียน บุรีรัมย์ จอดอยู่ในสภาพหน้ารถพังเสียหาย ห่างออกไปที่ข้างทาง พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ สีดำ ป้ายทะเบียน ฉะเชิงเทรา

ตรวจสอบเบื้องต้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส รวม 3 ราย โดยเป็นชาย 2 รายและหญิง 1 ราย ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือ และนำส่งโรงพยาบาลพนมสารคาม ชาย 1 ราย ส่วนหญิง 1 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลแปลงยาว ขณะที่คนขับรถจักรยานยนต์ อาการสาหัสและได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เป็นชายไทย อายุ 36 ปี และรับแจ้งว่าผู้บาดเจ็บที่เป็นผู้หญิง ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นหญิงไทย อายุ 52 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแหน


>> พบร่างหนุ่มกู้ภัย วัย 34 พลัดตกแม่น้ำปิง ขณะไปตกปลา หลังระดมกำลังงมหาข้ามวันข้ามคืน

19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าการค้นหาร่างของนายดิษกร หรือต้นกล้า อายุ 34 ปี นักประดาน้ำกู้ภัย ที่ออกมาตกปลาริมแม่น้ำปิง บริเวณท่าทราย อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ แต่ขณะกำลังเดินข้ามฝั่งเกิดเสียหลักตกน้ำ แล้วถูกน้ำไหลเชี่ยวดูดลงไปในน้ำลึก จมหายไปตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.

ชุดทีมกู้ภัย ได้พบร่างของนายต้นกล้าแล้ว โผล่ขึ้นมาบริเวณน้ำวน ซึ่งวันนี้ระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่จึงขับเรือเข้าไปนำร่างขึ้นมาบริเวณฝั่งริมน้ำเป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนมอบศพให้ญาติดำเนินการตามประเพณีต่อไป


>> ตร.ตามรวบคาบ้านพัก โจรชิงทองย่านวัชรพลกลับใจ เชื่อเมียบอกหนียังไงก็ไม่รอด

21.00 น. พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน พร้อมด้วย ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ร่วมกันจับกุม นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท 4 เส้น รถจักรยานยนต์ 1 คัน และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในการก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองย่านวัชรพล ได้สร้อยคอทองคำ 1 บาท 5 เส้น เมื่อช่วงเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านพัก ซอยรามอินทรา 8 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

สอบสวนนายปอ ให้การว่า เป็นบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองจริง หลังก่อเหตุหลบหนี มุ่งหน้าย่านบางซื่อ ก่อนเอาสร้อยคอทองคำ 1 เส้น ไปจำนำได้เงินประมาณ 42,000 บาท จากนั้นแวะตัดผมเปลี่ยนทรงผมใหม่เพื่อหลบหนี

นายปอ กล่าวต่อว่า กระทั่งแฟนสาวทราบข่าวจึงโทรมาถามว่าตนทำอะไรอยู่ไหนและไปก่อเหตุใช่ไหม ก่อนพูดเกลี้ยกล่อมให้ตนเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพราะหนียังไงก็ไม่รอด จึงย้อนกลับมาที่บ้านพัก ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวไว้ได้

นายปอ กล่าวอีกว่า ตนต้องการเงินไปชำระหนี้เงินกู้นอกระบบที่ยืมมา เพราะช่วงนี้ขับจักรยานยนต์รับจ้างไม่พอใช้จ่าย จึงลงมือก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืนเป็นของปลอม ซื้อมาราคา 300 บาทใช้ข่มขู่เท่านั้น หลังก่อเหตุได้โยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ เสียชีวิตบนสะพานต่างระดับ

21.30 น. รับแจ้งเหตุจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำและมีผู้เสียชีวิตอยู่บนสะพานต่างระดับลาดหลุมแก้วมุ่งหน้าแยกนพวงศ์ หมู่ 10 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 125 สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกตะแคงพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 28 ปี

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูบางหลวง พร้อมแพทย์โรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว ตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต จากนั้นให้อาสามมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และจะประสานญาติให้ไปรับดำเนินการตามประเพณีต่อไป


>> หนุ่มพิจิตร ขับขี่รถจักรยานยนต์ เสียหลักชนราวสะพาน ร่างกระเด็นตกพื้นล่าง สูงกว่า 10 เมตรเจ็บสาหัส

00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ชัยพฤกษ์ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและทีมกู้ชีพจากโรงพยาบาลปากเกร็ด 2 เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์ชนขอบราวสะพาน คนขับขี่ตกลงมาด้านล่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนต่างระดับถนนราชพฤกษ์ตัด ถนนทางหลวงหมายเลข 345 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ เป็นทางโค้งที่อยู่ใต้ต่างระดับราชพฤกษ์ พบร่าง ชายไทย อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาชาว จ.พิจิตร นอนหมดสติขาซ้ายและข้อมือซ้ายหัก เจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพและกู้ภัยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายนำตัวส่งโรงพยาบาลปากเกร็ด 2

ขณะเดียวกันด้านบนต่างระดับ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีดำ ป้ายทะเบียน กทม.ล้มตะแคงข้างอยู่ โดยพบร่องรอยการเฉี่ยวชนที่แบริเออร์ขอบสะพานและคราบเลือดติดอยู่ที่เสาเหล็กรวมไปถึงรอยขูดบนพื้นผิวถนนไถลไปกว่า 20 เมตร

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้ โดยสันนิษฐานว่าผู้บาดเจ็บน่าจะขับขี่รถมาด้วยความเร็วและเกิดเสียหลักพุ่งชนแบริเออร์ราวสะพานก่อนที่ลำตัวจะไปกระแทกกับเสาเหล็กและกระเด็นตกลงไปด้านล่างที่มีความสูงกว่า 10 เมตร โดยหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดถึงลักษณะของการเกิดเหตุอีกครั้ง  
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม