24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2568
>> พบศพทารก ถูกยัดกระเป๋าถ่วงหินทิ้งคลองคูคต ปทุมธานี
08.00 น. สภ.คูคต ได้รับแจ้งว่า มีคนหาปลาพบศพเด็กทารก ถูกห่อผ้ายัดถุงพลาสติกใส่กระเป๋าเป้สีดำถ่วงด้วยหินทิ้งน้ำ ภายในคลอง เหตุเกิดภายในซอยพหลโยธิน 64 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุทธานี
ในที่เกิดเหตุ บริเวณริมคลอง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระเป๋าสีดำอยู่ภายในคลองถูกเปิดออกพบมีศพเด็กทารกอยู่ภายใน ลักษณะห่อผ้าผูกด้วยถุงพลาสติกยัดใส่กระเป๋าเป้สีดำ แล้วมีหินถ่วงอยู่ด้านใน โดยศพเด็กอายุประมาณ 10 เดือน เป็นเพศชาย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ ไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง
จากการสอบถามคนหาปลา กล่าวว่า วันนี้ผมเดินทางออกมาหาปลา พอหว่านแหไปบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าเเหติดกับกิ่งไม้ ตนเองจึงได้ลงไปแกะ เมื่อแกะไม้ออกแล้วได้ลากแหขึ้นมาก็พบว่ามีกระเป๋าเป้สีดำติดขึ้นมาด้วย ตอนแรกตนเองจะดันทิ้งไป แต่ไม่รู้มีอะไรดลใจให้เปิดออก เมื่อเปิดออกดูก็ต้องตนใจสุดขีดเมื่อพบว่าภายในเป็นศพเด็กจึงได้รีบขึ้นจากน้ำ แล้วมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการบันทึกภายในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งตรวจสอบกระเป๋า และผ้าห่อเด็ก พร้อมทั้งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล้กล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อหาคนที่สะพานกระเป๋าต้องสงสัยและคนท้องที่อยู่ในบริเวณนี้ เพื่อติดตามแม่เด็กมาทำการสอบสวนต่อไป
>> อุบัติเหตุหมู่ รถชนกันระเนระนาด 9 คัน ถนนมิตรภาพ เสียชีวิต 1 เจ็บ 4 ราย
10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถชนกันจำนวนหลายคัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้า กม.29 อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่เกิดเหตุพบ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถพ่วง 18 ล้อ และรถบรรทุก 10 ล้อ รถบรรทุกน้ำนมดิบ ชนกันรวม 9 คัน
พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในซึ่งขับรถ 18 ล้อบรรทุกข้าวสารพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเทศบาลทับกวาง เร่งนำเครื่องมืออุปกรณ์ตัดถ่างเร่งให้ความช่วยเหลือนำร่างออกจากตัวรถ แต่คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อได้เสียชีวิตขณะที่จะนำร่างออกจากตัวรถ ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 47 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 รายมากับรถกระบะอีซูซุ สีเลือดหมู เป็นเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ 1 ราย และหญิงอีก 2 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำส่ง รพ.มวกเหล็ก ส่วนแม่ของเด็กหญิง 8 ขวบอาการสาหัสเจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.แก่งคอย
ในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีรถชนติดต่อกันจำนวน 9 คันมีรถได้รับความเสียหาย นำมันไหลรั่วลงพื้นถนน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่ตรวจที่เกิดเหตุ และเร่งนำรถที่เกิดอุบัติออกจากท้องถนนเพื่อระบายการจราจรที่ติดขัด และมีการเปิดช่องทางพิเศษเพื่อระบายรถ 1 ช่องทาง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีรถได้มีรถบรรทุกแตงโมเกิดอุบัติเหตุอยู่ช่วงทางโค้งค่ายเพรชรัตน์ ช่วงตอนตี 3 จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้เคลียพื้นที่แล้วและมามีฝนตกอีกและได้ทำสัญญาณไฟไว้ จากนั้นได้มีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 2 คันได้พุ่งชนท้ายกัน จากนั้นได้มีรถกระบะ รถบรรทุก 10 ล้อ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ รถกระบะ รถบรรทุกน้ำนม และรถบรรทุกข้าวสาร พุ่งชนท้ายต่อๆ กันมารวม 9 คัน
>> ฝนตกถนนลื่น หนุ่มวัย 31 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม ถูกรถเมล์ขับตามมาทับเสียชีวิต
11.25 น. สน.บางนา รับแจ้งอุบัติเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตบริเวณปากซอยสุขุมวิท 101/2 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม.ล้มคว่ำ ห่างออกไป พบรถโดยสารประจำทาง สาย 180 สีครีม-แดง ป้ายทะเบียน กทม. จอดอยู่ ใกล้กันพบร่างผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางเจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งทำการ CPR แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 31 ปี
จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุมีฝนตกลงมา ทำให้พื้นผิวจราจรลื่น ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิต ขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงที่เกิดเหตุ แล้วเกิดเสียหลักลื่นล้ม ระหว่างนั้นรถประจำทางสาย 180 ที่ขับตามหลังมา ไม่สามารถหักหลบได้ทัน ล้อหน้าทับเข้ากับศีรษะ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างนำตัวคนขับรถประจำทางไปสอบปากคำ พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> รถบรรทุก 2 คันชนกันมีผู้เสียชีวิต 2 ราย
12.04 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี ว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุก 2 คันชนกัน บนถนนแจ้งสนิท ใกล้เคียงปั๊ม ปตท. ในพื้นที่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ลักษณะชนกับ รถบรรทุก ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน ยโสธร ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต ชาย 2 ราย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขื่องใน
>> นายกฯ แก้ปัญหายาเสพติดจริงจัง กำชับ ทุกภาคส่วนทำต่อเนื่อง เต็มที่ ให้เด็กกลับสู่สังคมได้จริง
13.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเพจดัง โพสต์ภาพเด็กอายุ 14 ปี เข้าบำบัดยาเสพติดที่วัดถ้ำกระบอก จ.สระบุรี และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้ง พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคาม ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งมีเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติดรวมอยู่ด้วย
นายกฯ ย้ำว่า จะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งส่วนตัวเวลาลงพื้นที่ เห็นเด็กอายุ 12-13 ปี เข้ามาบำบัดยาเสพติด ต้องการให้เด็กกลับคืนสู่สังคม และได้รับการต้อนรับอย่างแท้จริง ได้ทำงาน และไม่หันกลับมาหายาเสพติดอีก ซึ่งได้กำชับให้ทุกภาคส่วนดูแลและทำต่อเนื่องอย่างเต็มที่ หลังจากนี้จะนำตัวเลขที่ได้เก็บข้อมูลมาชี้แจงว่าสถานการณ์การแก้ไขปัญหายาเสพติดดีขึ้นมากน้อยเพียงใด
>> รถไฟชนกับรถกระบะ กลางถนนพาดผ่านทางรถไฟ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันตัง ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก บริเวณจุดตัดทางรถไฟ พื้นที่ หมู่ 2 บ้านพรุใหญ่ ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง
ถึงที่เกิดเหตุ พบขบวนรถไฟ ขบวนรถเร็วที่ 168 สถานีกันตัง-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จอดนิ่งสนิทอยู่บนราง ห่างมาจากท้ายขบวนประมาณ 100 เมตร บริเวณจุดตัดทางรถไฟ ติดกับเสาสัญญาณไฟและเสียงสัญญาณเตือนที่ติดตั้งอยู่และได้รับความเสียหาย พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน 1583 สงขลา สภาพช่วงหัวรถและท้ายรถด้านซ้ายพังเสียหายจากการถูกรถชน พบมีผู้เสียชีวิต 4 คน ทั้งหมดนั่งท้ายกระบะ แบ่งเป็นเพศหญิง 3 คน และเพศชาย 1 คน
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน กระเด็นออกมาจากตัวรถนอนรอความช่วยเหลืออยู่บนพื้นหญ้าริมรางรถไฟ โดยมีอีก 3 คนอยู่ภายในรถกระบะ รวมบาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย ทางอาสาหน่วยกู้ภัยให้ความช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ศูนย์ตรัง อย่างเร่งด่วน ส่วนคนขับรถยนต์กระบะ ชาย อายุ 41 ปี ชาว จ.สงขลา ไม่ได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในตัวของพนักงานขับรถไฟ ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติด ส่วนคนขับกระบ ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ แต่พบปัสสาวะสีม่วง มีการใช้สารเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเพื่อสอบสวน และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> บิ๊กเต่า "พล.ต.ต.จรูญเกียรติ" ขยายผลคดีทุจริตยา-เวชภัณฑ์ เผยสอบปากคำไปแล้ว 80-90 ปาก
14.40 น. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายหลังจาก พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เข้าประชุมหารือในคดีการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 80-90 ปาก ขณะนี้อยู่ในการรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้สำนวนมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะพิจารณาออกหมายจับดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับข้อมูลที่คณะพนักงานสอบสวนมีอยู่ในขณะนี้ มีความน่าเชื่อว่าอาจจะมีโรงพยาบาลอื่นที่กระทำในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน และถือว่าเคสนี้เป็นเคสที่น่าสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา ตำรวจยังไม่เคยเจอแผนประทุษกรรมในลักษณะนี้ ซึ่งเป็นการนำเหยื่อจำนวนมากมาเบิกเงินจากบัญชีของรัฐออกไป เพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือผู้อื่น การกระทำเหล่านี้อุบาทว์มาก แต่เชื่อว่าการสืบสวนและสอบสวนจะเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนด
โดยจะมีการขยายผลไปถึงปลายทางของยา ว่านำไปที่ไหนอย่างไร ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานจะมีคำตอบที่ชัดเจน ในส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีอดีตแม่ทีมกลับใจ ยืนยันว่าไม่ใช่แม่ทีมที่กลับใจ แต่บุคคลดังกล่าวเป็นพลเมืองดีที่เสียสละเข้าไปเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้ตำรวจ
>> ระดมกำลังเร่งดับไฟป่าบริเวณดอยพระบาท หลังมีมือดีแอบเผา
15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับไฟป่ากรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงชาวบ้านผู้นำชุมชน ระดมกำลังไม่ต่ำกว่า 50 นาย เร่งระดมดับไฟป่าบริเวณเทือกเขาดอยพระบาทในเขตอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต จ.ลำปาง หลังจากไฟป่ายังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ และกรมป่าไม้ได้ระดมกำลังกว่า 850 นาย เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่า และไฟป่าครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้ป่าในพื้นที่ดอยพระบาทเป็นจำนวนมาก
ซึ่งที่ผ่านมา ชุมชนโทก หัวช้าง และชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ตำบลพระบาท มีการติดป้ายประกาศเตือนห้ามบุกรุกห้ามเข้าป่าไปแล้ว ป้ายห้ามเข้าป่า ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท แต่ก็ยังไม่ได้ผล คาดว่าน่าจะมีกลุ่มบุคคลบางคน หรือชาวบ้านที่ชอบฝ่าฝืนคำสั่ง ลอบเข้าไปจุดไฟป่าเพื่อหวังล่าสัตว์หาของป่า โดยไฟป่าได้ยังส่งผลให้ท้องฟ้าในตัวเมืองลำปาง ยังคงมีหมอกควันในตัวเมืองลำปาง
ซึ่งจากภาพมุมสูงก็จะมองเห็นได้ว่า มีหมอกควันปกคลุมในตัวเมืองลำปางแล้ว ส่วนคุณภาพอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ในเขตตัวลำปาง ขณะนี้วัดค่าได้ 44 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยค่าที่สูงสุดอยู่ที่ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง
>> พายุฝนถล่มกระบี่ บ้านเรือนราษฎรเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน
17.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ รับรายงานจากอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เกิดฝนตกหนักลมกระโชกแรง ในพื้นที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เกิดผลกระทบ และสร้างความเสียหาย กับบ้านเรือนราษฎร หมู่ที่ 5 ตำบลอ่าวลึกใต้ จำนวน 20 ครัวเรือน และได้รับความเสียหายบางส่วน ราษฎรเดือดร้อน 65 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
อำเภออ่าวลึก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าอบต.อ่าวลึกใต้ เข้าดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมทำการสำรวจความเสียหาย เตรียมให้ความความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
>> จับแม่ค้าขายลูกชิ้น เจ้าของบัญชีม้า หลอกให้โอนเงิน เกือบ 12 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ
17.14 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม หญิงรายหนึ่ง อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2537 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับได้ที่หน้าบ้าน ใน อ.สามพราน จ.นครปฐม
หลังจากที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ปากเกร็ด ว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.64 มีการรู้จักกับคนร้าย ที่อ้างว่าเป็นลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน และเป็นทหารชาวอเมริกัน จากนั้น ได้มีการพูดคุยกันเรื่อยมา และคนร้ายอ้างว่าได้รับความลำบากในสงครามโดยมีสัญญา 5 ปี อยากออกจากตรงนั้นแต่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เมื่อกลับออกมาจะคืนเงินให้พร้อมดอกเบี้ยและจะส่งของมีค่าให้อีกด้วย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคนร้าย รวมจำนวน 15 ครั้ง ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 11,811,030 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม สืบสวนกระทั่งทราบว่า หญิงคนดังกล่าว คือเจ้าของบัญชี
ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นผู้ต้องหา ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวข้างต้นจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับดังกล่าว และแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาจัดทำบันทึกการจับกุม ที่ กก.5 บก.ป. กรุงเทพฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
>> เพลิงไหม้บนห้องพัก ซอยลาดพร้าว 64 ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนจะลุกลาม
17.18 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยลาดพร้าว 64 แยก 8 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 4 ชั้น ประกอบกิจการให้เช่าพักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 ภายในห้องเลขที่ 11 เพลิงลุกไหม้เสียหายฝาผนัง ที่นอน เครื่องปรับอากาศ กองเสื้อผ้า พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 12 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางกะปิ
>> พบร่างชาย อายุ 29 ปีเสียชีวิต ลอยอยู่ในแม่น้ำโขง จ.นครพนม
19.30 น. ได้รับแจ้งจาก สมาคมวี.อาร์.กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิพ นครพนม ว่ามีคนพบร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในแม่น้ำโขง พิกัดหน้าหน้าวัดโพธิ์ศรี อ.เมือง จ.นครพนม
ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต ตรวจสอบ เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 29 ปี ทราบจากข้อมูลภายหลังว่าหายตัวออกจากบ้านพัก ตชด. ตั้งแต่เวลา 02.00 น.ของคืนวันที่ 12 มีนาคม จนมาพบร่างในวันเวลาดังกล่าว
ซึ่งเรือแม่น้ำโขงพาราไดซ์ พบเห็นร่างลอยมาใกล้จุดจอดเรือแถวลานพญานาค จึงนำเรือขับติดตามกลัวร่างผู้เสียชีวิตลอยหายไป ก่อนที่ร่างผู้เสียชีวิต จะลอยมาถึงหน้าวัดมหาธาตุ จึงได้มีคนหาปลาได้นำเรือออกติดตามและนำร่างผู้เสียชีวิตมาขึ้นที่หน้าวัดอินแปลง
ทาง สมาคม วี.อาร์.กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิพ นครพนม และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนมจุดเมือง จึงนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากน้ำ ทำการชันสูตรร่วมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนมร้อยเวรสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
>>แผ่นดินไหว ประเทศเมียนมา
00.56 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.9 ความลึก 10 กม. บริเวณนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ประมาณ 307 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> แผ่นดินไหว บริเวณอ่าวไทย
01.10 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 1 กม. บริเวณอ่าวไทย (10.55°N,99.61°E) ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ประมาณ 45 กม. ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน
>> รถทัวร์สาย กทม. - ระนอง ชนเสาไฟฟ้า ริมถนนเพชรเกษม มีผู้บาดเจ็บหลายราย จ.เพชรบุรี
03.45 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยสว่างสรรเพชญ มีอุบัติเหตุรถทัวร์เสียหลักชนเสาไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า ช่วงหลัก กม.ที่ 137 ในพื้นที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถทัวร์ สาย กทม. - ระนอง สีน้ำเงินขาว ป้ายทะเบียน ระนอง ลักษณะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง เบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.เขาย้อย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของ สภ.เขาย้อย
15 มีนาคม. 2568
15 มีนาคม. 2568