หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2568

วันที่ 13 มีนาคม. 2568 เวลา 05:46 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2568


>> คุณลุงวัย 62 ปีขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก เสียชีวิต

08.50 น. รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนทางหลวงหมายเลข 3199 ถนนเส้นทางสายลาดหญ้า - เอราวัณ บริเวณใกล้เคียงกรมทหารพรานที่ 14 พื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ BMW สีดำ ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร เฉี่ยว ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อแขนสั้นคอกลมสีแดง สวมกางเกงขาสั้นสีดำ และมีบาดแลฉีกขาดบริเวณหัวเข่าด้านขวา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 62 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า


>> คนงานบ่อกุ้งเสียชีวิต หลังขึ้นจากบ่อแล้วพลาดมือจับสายไฟเครื่องสูบดินเลน จ.ระยอง

09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แกลง ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกไฟช็อตเสียชีวิต ภายในบ่อกุ้ง พื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง

ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายอุทัย อายุ 48 ปี สวมเสื้อสีเหลืองแขนยาว กางเกงวอร์มขายาวสีดำ อยู่ในลักษณะนอนคว่ำ มือซ้ายมีสายไฟฟ้าที่มีรอยต่อกันอยู่ มีเครื่องยนต์ดูดเลน 1 เครื่อง

จากการสอบถาม เพื่อนร่วมงาน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า นายอุทัย ได้เดินขึ้นมาจากบ่อเพื่อตรวจดูเครื่องยนต์ที่ใช้ดูดเลน แต่หายไปนาน ตนจึงเดินมาดูเห็นตัวแข็งอยู่ จึงตะโกนให้เพื่อนๆ มาช่วยเหลือแต่ไม่ทัน เพราะมือกำสายไฟอยู่แน่น จึงได้ให้คนงานไปตัดไฟ แล้วแจ้งเจ้าของบ่อทราบทันที

ทางด้านเจ้าของบ่อ กล่าวว่า สายไฟที่เดินมาใช้กับเครื่องสูบน้ำในบ่อกุ้ง ไม่ได้ตัดกระแสไฟฟ้าออก จึงทำให้กระแสไฟดูดคนงานสูบเลนเสียชีวิตดังกล่าว

ทางด้าน ร.ต.ท.ปองพล จันทรา รองสว.สอบสวน สภ.แกลง จ.ระยอง ได้ให้อาสากู้ภัยพุทธศาสตร์สงเคราะห์ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลแกลง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


>> ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง โชคดีชายพิการ นั่งอยู่หน้าบ้านรอด หวิดคากองเพลิง

09.30 น. พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ม.3 ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี

โดยที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านไม้ยกสูง และบ้านปูนชั้นเดียว เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระดมฉีดน้ำดับไฟ ใช้เวลา 30 นาที สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบพบเพลิงได้ไหม้วอดทั้งหลังได้รับความเสียหาย

จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนาวสาวมัรยัม ก่อนเกิดเหตุเจ้าตัวออกไปทำงาน เหลือเพียงน้องชายที่พิการอยู่ภายในบ้านเพียงลำพัง ก่อนเกิดเหตุนั้น เจ้าตัวนั่งอยู่หน้าบ้าน ก่อนได้กลิ่นควันไฟออกมาจากในบ้าน และเห็นไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ด้วยเจ้าตัวที่พิการทางขาทำให้การวิ่งหนีได้ลำบาก จึงพยายามแข็งใจรีบเดินออกมาจากบ้านสุดชีวิต จากนั้นจึงเรียกชาวบ้านให้เข้ามาช่วยเหลือ แล้วโทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาระงับเหตุดังกล่าว เคราะห์ดีนายอาฮามัด อยู่หน้าบ้าน ซึ่งหากนอนอยู่บนบ้านก็ไม่ทราบชะตากรรม

ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าไฟฟ้าลัดวงจร แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง


>> “อนุกูล” เผยยอดจองโรงแรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ “หาดใหญ่” พุ่งทะลุเป้าคาดสงกรานต์ ปีนี้เงินสะพัดกว่าพันล้าน

09.30 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าผลักดันให้การท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ และมุ่งยกระดับให้ปี 2568 เป็น ‘ปีทองแห่งการท่องเที่ยวไทย’ ที่เดินทางได้ตลอดปี ไม่มีโลว์ซีซั่น เพื่อกระจายรายได้สู่เมืองหลักและเมืองรอง สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายต่อคนให้มากขึ้น

นายอนุกูล กล่าวว่า หนึ่งในเทศกาลที่ดึงดูดนักเที่ยว คือ เทศกาลสงกรานต์ ที่นักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจำนวนมากเดินทางมาเล่นสงกรานต์ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อย่างเนืองแน่นทุกปี ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ยอดจองห้องพักโรงแรมในจังหวัดสงขลามีการจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งโรงแรมบางแห่งก็ปิดรับจองไปแล้ว โดยคาดว่าเมื่อใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ ห้องพักโรงแรมจะถูกจองเต็มทั้งหมดเกือบ 2 หมื่นห้อง คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินกว่าพันล้าน


>> รถนั่งส่วนบุคคลพุ่งตกคลอง ชาวบ้านช่วยสามีออกมาได้ทัน ส่วนภรรยาและลูกสาววัย 6 เดือนเสียชีวิตในรถ

11.11 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ามะกา รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลเสียหลักตกคลองน้ำ และมีคนติดภายใน เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบคันคลอง ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แจ็ส สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. จมอยู่ในคลองน้ำ โดยมี นายจิรายุ จำปาไทย กำนันตำบลท่ามะกา พร้อมกับพลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงได้พยายามลงไปช่วยทุบกระจก จนคนขับหลุดออกมาได้ ก่อนที่จะใช้เชือกโยนให้คนขับรถดังกล่าวจับ แล้วดึงขึ้นมาจากน้ำ ทราบชื่อต่อมา คือ นายนันทชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนภรรยา อายุ 33 ปี พร้อมด้วย ลูกสาววัย 6 เดือน ติดอยู่ภายในรถ ก่อนที่รถจะจมหายไปกับสายน้ำ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำ ลงค้นหาในน้ำ พบว่าด้านในรถ บริเวณเบาะหลัง พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย คือภรรยาและลูกสาวของ นายนันทชัย

ด้านกำนันตำบลท่ามะกา กล่าวว่า ขับรถมาเจอเหตุการณ์เข้าพอดี จึงได้ลงไปช่วยเหลือพร้อมกับพลเมืองดี แต่สามารถช่วยขึ้นมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น สำหรับถนนเส้นนี้ มักจะเกิดอุบัติเหตุรถตกคลองบ่อยๆ มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางลัดจาก จ.ราชบุรี ที่จะสามารถตัดเข้ามาที่ จ.กาญจนบุรี ได้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหาแนวทางแก้ไขให้ด้วย


>> รวบหนุ่มบัญชีม้า อ้างโดนสแกมเมอร์หลอกให้เปิดบัญชี หลังสมัครงานในกลุ่มเฟซบุ๊ก พบหมายจับเพียบ

12.31 น. กองปราบปราบ จับกุม นายสอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรีที่ 658/2565 ลงวันที่ 4 ส.ค. 2565 เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงฯ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” และหมายจับคดีลักษณะเดียวกันอีก 8 คดี ได้หน้าคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกขายสินค้าอาทิ กล่องสุ่ม โปรตีน อาหารเสริม สบู่ และ ชุดตรวจ ATK ตามเพจในเฟซบุ๊ก และในเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้กลับไม่ได้รับสินค้าแต่อย่างใด จึงกระจายเข้าแจ้งความตามท้องที่ต่าง ๆ จนศาลอออกหมายจับ นายสอ เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินไว้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ดังกล่าว 
จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนได้สมัครงานหารายได้ในกลุ่มเฟซบุ๊ก แต่ถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารมอบให้กลุ่มมิจฉาชีพโดยไม่ได้รับค่าจ้างแต่อย่างใด จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> พายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนราษฎร ในพื้นที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู เสียหาย 15 หลัง

13.00 น. นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู แจ้งว่า วันนี้ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนในเขตพื้นที่บ้านหนองแสง หมู่ที่ 8 และ บ้านดินทรายอ่อน หมู่ที่ 12 ตำบลหัวนา บ้านโคกน้ำเกลี้ยง หมู่ที่ 3 ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู จากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 15 หลังคาเรือน ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ทั้งนี้ ได้มอบหมายผู้ใหญ่บ้านสำรวจความต้องการเน้นผ้าใบ รวมถึงที่อยู่อาศัยชั่วคราว ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดหนองบัวลำภู จัดหาผ้าใบคลุมแทนหลังคา ประสานสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดฯ ในการนำถุงยังชีพออกเยี่ยมราษฎรในวันพรุ่งนี้ (13 มีนาคม 2558) นอกจากนี้ ได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ได้สำรวจความเสียหายเพื่อเร่งรัดในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและทันการ


>> ‘โรคพิษสุนัขบ้า’ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

13.16 น. นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-วันที่ 9 มี.ค.2568 ว่า ประเทศไทยมีรายงานการพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว 2 ราย ที่ จ.ชลบุรี และ จ.ศรีสะเกษ โดยทั้ง 2 ราย ถูกสุนัขกัดแล้วไม่ไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังสัมผัสโรค และมีการรับเลี้ยงสุนัขจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน

“ในปีนี้ มีการพบสัตว์เป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว จำนวน 54 ตัว จากการส่งตรวจทั้งหมด 835 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 6.47 พบสัตว์ติดเชื้อสูงสุด 3 อันดับ คือ บุรีรัมย์ ขอนแก่น และ มหาสารคาม โดยมีการพบเชื้อในสุนัขมากถึงร้อยละ 75.93 รองลงมา ได้แก่ โค กระบือ และแมว คิดเป็นร้อยละ 16.66 และ ร้อยละ 7.41 ตามลำดับ


>> เหตุคนร้ายยิงถล่ม-วางระเบิดคาร์บอมบ์ที่สุไหงโก-ลก พบกลุ่มผู้ก่อเหตุมี 17 คน สั่งเร่งขยายผลติดตามตัว

14.13 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี กรณีเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงถล่ม วางระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอสุไหงโก-ลก เสียชีวิต จำนวน 2 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 ราย

โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า คดีบุกยิงและระเบิด ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีความคืบหน้าไปมาก ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด และพบว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ หลายคนมีหมายจับในคดีความมั่นคง มีการรวมกลุ่มก่อเหตุในครั้งนี้ถึง 17 คน ซึ่งได้มีการสั่งการให้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนและติดตามตัวกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้

ภาพรวมของสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการก่อเหตุสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้มีการสั่งการให้บูรณาการกองกำลังให้มีการเตรียมความพร้อมในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่ ที่ตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุ


>> เด้ง "ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม" เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อกรณี “อดีตผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ

15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมได้มีคำสั่ง ลงวันที่ 12 มี.ค. มอบหมายให้นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม โดยมีหน้าที่และอำนาจเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบการปฏิบัติราชการของเรือนจำกลางคลองเปรมอีกหน้าที่หนึ่ง และให้นายเผด็จ หริ่งรอด ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม กลับไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง

กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ใช่เป็นการลงโทษ แต่เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรือนจำกลางคลองเปรมมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกรณีการเสียชีวิตของ ข.ช.ธิติสรรค์ อุทธนผล และข้อกล่าวหาที่ถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย เป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมต่อไป


>> รถจักรยายนต์เสียหลักชนขอบทาง ผู้เสียชีวิตเป็นหนุ่มน้อยวัย 16 ปี

16.54 น. รับแจ้งจาก สมาคมวีอาร์กู้ภัยกุดจับธรรมกุศล มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนสาย ตาลเลียน - คำบอน ช่วงบ้านตาลเลียน ในพื้นที่ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ลักษณะชนเข้ากับเหล็กกั้นขอบทาง ใกล้กันพบร่างผู้บาดเจ็บ เป็นผู้ชาย 2 ราย อายุ 16 ปี มีอาการสาหัส อาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.กุดจับ ได้รับแจ้งว่า ผู้บาดเจ็บ 1 รายที่อาการสาหัส ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุดจับ


>> หอสวดมนต์ถล่ม โชคดีทั้งพระ - ฆราวาส ไม่ได้รับบาดเจ็บ จ.ราชบุรี

17.20 น. นายสุวิทย์ชาติ นวมเพชร นายอำเภอดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบที่วัดอมรญาติสมาคม ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 3 ต.ท่านัด อ.ดำเนินสะดวก หลังได้รับแจ้งว่าหอฉัน หอสวดมนต์ ของวัดพังถล่มลงมา โดยได้พบกับ พระครูอมรวิสุทธาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอดำเนินสะดวก เจ้าอาวาสวัดอมรฯ และพระลูกวัดพร้อมกับชาวบ้านกำลังช่วยกันรื้อหลังคาหอฉัน เพื่อนำเศษกระเบื้องหลังคาออกไปทิ้ง และเก็บข้าวของที่อยู่ในหอฉันออกมากองด้านนอก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบาตรพระและของใช้ในครัวจำนวนมาก

จากการสอบถาม พระครูอมรวิสุทธาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอดำเนินสะดวก เจ้าอาวาสวัดอมรฯ ก็เล่าให้ฟังว่า หอดังกล่าวเป็นหอสองชั้นด้านล่างจะใช้สำหรับพระฉันอาหาร รวมทั้งไว้สำหรับสวดมนต์ทำวัตรเช้าและเย็นด้วย ส่วนชั้นบนจะเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ทั้งหมด ก่อนจะเกิดเหตุเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาสังเกตุเห็นว่าหลังคาด้านบนนั้นเริ่มแอ่นและตกท้องช้าง จึงได้ไปว่าจ้างช่างจะให้เข้ามาทำการรื้อถอนเพราะเกรงว่าจะถล่มลงมาเสียก่อน แต่ช่างที่ไปติดต่อนั้นจะเข้ามารื้อในวันพรุ่งนี้ 13 มี.ค.68 พอช่วงเย็นวันนี้ก็ถล่มมา โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น ส่วนหอฉันแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 อายุกว่า 55 ปี ซึ่งมีไม้ที่ปลวกเข้าไปกินทำให้พุกร่อน

เบื้องต้นต้องรีบรื้อลงมาก่อนเพราะกลัวว่าฝนจะตก ส่วนเรื่องสร้างใหม่ก็ค่อยว่า ตอนนี้ก็ได้ให้พระเณรที่มีกุฎิอยู่ใกล้กับหอฉันให้หลีกเลี่ยงบริเวณดังกล่าว โดยให้เดินด้านข้าง ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นน่าจะมากกว่า 7-8 ล้านบาท


>> สภ.บ่อวิน แถลงจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ของกลางอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า 3 พันกว่าชื้น

18.30 น. พ.ต.อ.กฤศ ธิติทัศนะ ผกก.สภ.บ่อวิน พร้อมชุดจับกุมได้แถลงข่าวการกวาดล้างจับกุมผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ ต.บ่อวิน จ.ขลบุรี โดยนำกำลังชุดสืบสวนออกสืบจนพบว่ามีอุปกรณ์ส่วนควบบุหรี่ไฟฟ้าซุกซ่อนอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา

จึงนำกำลังชุดจับกุมเดินทางไปที่หอพักดังกล่าว และเข้าตรวจค้นที่หอพัก ห้องที่ 6 พบหญิงไทย อายุ 22 ปี เป็นเจ้าของห้อง พบว่ามีเครื่องสูบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 20 เครื่อง, หัวใช้สำหรับสูบคละแบบ ยี่ห้อหนึ่ง 80 ชิ้น, หัวใช้สำหรับสูบ ยี่ห้อหนึ่ง คละแบบจำนวน 1250 ชิ้น, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขนาด 30 มิลลิลิตร จำนวน 979 ชิ้น, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขนาด 60 มิลลิลิตร จำนวน 317 ชิ้น, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขนาด 65 มิลลิลิตร จำนวน108 ชิ้น และ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขนาด 100 มิลลิลิตร จำนวน 57 ชิ้น รวมของกลางทั้งหมดที่จับกุมได้ 2,811 ชิ้น

ทางตำรวจจึงแจ้งข้อหา กับหญิงคนดังกล่าว ว่า “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อรับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษีอากร หรือของต้องจำกัดหรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร โดยยังมิได้ผ่านศุลกากร โดยถูกต้องก็ดี หรือเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวแก่ของนั้นก็ดี มีไว้เป็นความผิดตามประกาศกระทรวงพาณิชเรื่องกำหนดให้บารากุและบารากุไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร” ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ่อวินดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป  


>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถอเนกประสงค์ มีผู้เสียชีวิต  

02.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล และมีผู้เสียชีวิต ถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก (ทล.9) ใกล้เคียงแยกตัดถนนรามคำแหง ในพื้นที่เขตสะพานสูง กทม.

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียนตราโล่ ชนกับรถอเนกประสงค์ เอ็มจี สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. และใกล้กันพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 31 ปี สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน  

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ