เมื่อเวลา 05.55 น.วันที่ 10 มีนาคม 2568 ร.ต.ท.ธีรยุทธ พันผง รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับเหตุมีคนร้ายมีดจี้ชิงทรัพย์ ร้านค้าสะดวกซื้อ ปากซอยคลองหลวง 38 หมู่ 4 ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัญวิชญ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.กวินเวทย์ วิริยะสิริภักดี รองผกก.(ป) สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง

ในที่เกิดเหตุภายในร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพนักงานสองคน ชายหญิงอยู่ในอาการตื่นตกใจ สอบถามเบื้องต้น พนักงานอายุ 19 ปี เล่าว่า ได้คนร้ายเป็นชายสองคน คนแรกสวมเสื้อแขนยาวน้ำเงิน นุ่งกางเกงครีม หมวกกันน็อกสีขาว ไว้ผมยาว เป็นคนขับ ส่วนคนซ้อนสวมเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงสีดำ สวมหมวกกันน็อกดำ ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อรุ่นสี เข้ามาบังคับชิงเงินสดไป ก่อนคนร้ายหลบหนีเข้าไปในซอยคลองหลวง 38 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งศูนย์ให้วิทยุ ให้สายตรวจสกัดจับกุมคนร้าย แต่ไร้วี่แวว

จากการสอบสวน พนักงานร้านสะดวกซื้อ เล่าว่า เวลาประมาณ 05.45 น.มีคนร้ายเป็นชายสองคนเดินเข้ามาภายในร้านตอนนั้นตนเองยืนอยู่เคาน์เตอร์สอง เราได้ถามคนร้ายไปว่ารับอะไรดีครับ เพราะตอนแรกคิดว่าเป็นลูกค้าจะมาซื้อบุหรี่ แต่คนร้ายพูดว่า มาเอาเงินและพูดข่มขู่ว่าให้ หยิบเงินมา ถ้าไม่อยากโดนแทง กูไม่อยากทำร้ายมึง รีบเอาเงินมา ตนเองสังเกตุเห็นคนร้ายอีกคนหนึ่งเหน็บอะไรอยู่ที่กางเกง ตนเองกลัวคนร้ายทำร้าย จึงได้เปิดเคาน์เตอร์สองแล้วหยิบเงินสดให้ไปประมาณ 800 บาท จากนั้นจึงได้เดินมาหยิบถุงเหรียญประมาณ 300 บาทที่เคาน์เตอร์หนึ่งให้ไปอีก ก่อนที่จะมีพี่ผู้หญิงอีกคนที่อยู่หลังร้านเดินออกมาคนร้าย จึงได้หยิบเงินทั้งหมดไป คนร้ายเงินไปรวมเป็นเงิน 1,100 บาท จากนั้นได้ขับรถเลี้ยวเข้าไปภายในซอย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพบว่า  รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก 125 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  โดยคนร้ายขับมาด้วยกันสองคน เสื้อแขนยาวน้ำเงิน กางเกงครีม หมวกกันน็อกสีขาว ผมยาว  เป็นคนขับส่วนคนซ้อนสวมเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงสีดำ สวมหมวกกันน็อกดำ ได้ขับรถย้อนศรมาจากถนนพหลโยธิน(ขาเข้า)มาก่อเหตุก่อนหลบหนี เข้าไปในซอยคลองหลวง 38 แล้วหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามคนร้ายสองคนมาดำเนินคดีเพราะเป็นคดีอุกอาจ

ขอบคุณข้อมูลจาก : ปทุมธานีเล่าข่าว