หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05:47 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568


>> ชายวัย 51 ปี นั่งเสียชีวิตบนรถทัวร์ สายนครพนม-ระยอง โชว์เฟอร์ไปปลุกนึกว่าหลับ

07.40 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองสกลนคร ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถทัวร์สาย นครพนม-ระยอง ว่า มีผู้โดยสารผู้เสียชีวิตอยู่บนรถ ซึ่งอยู่ระหว่างวิ่งมุ่งหน้าเข้า สี่แยกบ้านธาตุ เมืองสกลนคร จึงประสานให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์สกลนคร เมตตาธรรมมูลนิธิ และสมาคมกู้ภัยชุดอุทิศ และสมาคมกู้ภัยวณารามฯ ร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุ พบชายไทย อายุ 51 ปี เป็นชาว ม.4 ต.บ้านถ่อน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นั่งเสียชีวิตอยู่บนเบาะโดยสารแถวหน้า จากการสอบถามพนักงานเดินรถทราบว่า ก่อนเข้าเมืองสกลนคร ได้มีการสอบถามผู้โดยสารว่า มีใครจะลงสกลนครไหม แต่พอมาถึงที่นั่งของผู้โดยสารรายดังกล่าวกลับว่านั่งแน่นิ่งไม่ตอบ พอสะกิดดูปรากฎว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทรแจ้ง 191 เข้าตรวจสอบ

เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัว โดย จนท.ตร.สภ.เมืองสกลนคร จะทำการติดต่อประสานไปยังญาติเพื่อรับทราบต่อไป


>> ไฟไหม้กองขยะและลุกลามรถยนต์ เจ้าหน้าที่ใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนจะเสียหายวอดทั้งคัน

08.56 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้งเหตุ เพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ถนนอยู่วิทยา แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพลิงลุกไหม้กองขยะ แล้วลุกลามรถยนต์เสียหายจำนวน 2 คัน เป็นรถกระบะ สีดำ ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เสียหายเฉพาะไฟท้าย และ รถกระบะ สีฟ้า ไม่มีหมายเลขทะเบียน รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เสียหายเฉพาะห้องเครื่องยนต์ รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากเพลิงลุกไหม้กองขยะลุกลามเข้าอู่ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองจอก


>> “วราวุธ” กำชับ จนท.พม.ทั่วประเทศ สำรวจผู้สูงอายุไม่มีสมาร์ทโฟน เตรียมเข้าโครงการเงินหมื่นของรัฐ

10.32 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า รัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ขับเคลื่อน “โครงการเงินหมื่นฟื้นฟูเศรษฐกิจ” เฟสที่ 1 และ 2 สำหรับประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" บนสมาร์ทโฟน หากยังมีกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการเงินหมื่นฯ เนื่องจากไม่มีสมาร์ทโฟนสำหรับการลงทะเบียน เห็นได้จาก เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับผู้สูงอายุและครอบครัวอุปถัมภ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ผ่านระบบปฏิบัติการออนไลน์ (Online Operation System - OOS) หรือ วิดีโอคอล เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและติดตามการให้ความช่วยเหลือต่างๆ พบว่า ยังมีผู้สูงอายุตกหล่นที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการเงินหมื่นฯ เนื่องจากไม่มีสมาร์ทโฟน และกำลังรอเข้าร่วมโครงการเงินหมื่นฯ ในเฟสต่อไปสำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน

ทั้งนี้ ตนได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และ เจ้าหน้าที่ทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมประสานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่เดินเคาะประตูบ้านผู้สูงอายุ เพื่อสำรวจผู้สูงอายุที่ตกหล่นยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการเงินหมื่นฯ และให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำปรึกษา ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเงินหมื่นฯ ในเฟสต่อไป สำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน นับเป็นโครงการที่ดีของรัฐบาลสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากการได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายเดือน ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตและช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย


>> ปภ.เผยสถานการณ์น้ำท่วม 3 จังหวัด สั่งการพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน

11.00 น. ปภ.เผยมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส รวม 7 อำเภอ 9 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 302 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่ง SMS แจ้งเตือนน้ำล้นตลิ่งคลองตันหยงมัส จังหวัดนราธิวาส ขอให้ประชาชนที่ได้รับข้อความ SMS แจ้งเตือนปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยระหว่างวันที่ 23 - 25 ก.พ. 68 ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส รวม 7 อำเภอ 9 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 302 ครัวเรือน


>> คนร้ายลอบวางระเบิดระหว่างทหารพราน เดินทางกลับฐาน มีผู้บาดเจ็บ 2 นายโชคดีอาการไม่สาหัส จ.ปัตตานี

13.10 น. มีผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง บริเวณถนนในพื้นที่ ม.5 บ.ม่วงหมัง ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

ทำให้ เจ้าหน้าที่ ทหารพราน ร้อย ทพ.2204 ขณะขับรถยนต์หุ้มเกราะลาดตระเวน ซึ่งกำลังเดินทางกลับเข้าฐานปฏิบัติการ เมื่อมาถึงในพื้นที่เกิดเหตุได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ สิบโทร ปารเมศ จันทร์มา โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณท้ายทอยและต้นคอ และ อส.ทพ.สุเทพ สุภาพ แน่นหน้าอกหูอื้อ ได้รับการรักษาปลอดภัย ส่วนรถยนต์ทางราชการถูกสะเก็ดระเบิด บริเวณตัวถังด้านซ้ายได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะรัง จะดำเนินการสอบสวนต่อไป


>> ฝ่ายปกครองเมืองเชียงราย ลุยตรวจเด็กมั่วสุม ร้านอาหารริมน้ำตก พบกัญชาและอุปการณ์การเสพ

14.00 น. คณะทำงานจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการจังหวัดเชียงราย ออกตรวจสถานประกอบการร้านค้า และสถานที่ที่เป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและเยาวชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวน 11 แห่ง

สถานประกอบการร้านค้าบริเวณน้ำตก ในพื้นที่ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จำนวน 10 แห่ง จากการตรวจสอบพบเด็กและเยาวชนนั่งดื่มสุรา จำนวน 10 ราย เป็นเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 1 ราย และ เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 9 ราย บริเวณดังกล่าว พบกัญชา จำนวน 1 ซอง และตรวจค้นรถจักรยานยนต์ของเด็กและเยาวชนดังกล่าว พบอุปกรณ์เสพกัญชา และกาว จำนวน 1 ชุด และบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 อัน จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ผลการตรวจฯ พบสารเสพติด(กัญชา) จำนวน 10 ราย

ทางเจ้าหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย จึงได้ทำการบันทึกประวัติและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป


>> การไฟฟ้าฯ ปทุมธานี บุกอาคารเก่า ลักต่อไฟตรงขุดบิตคอยน์ เสียหายกว่า 50 ล้าน

15.30 น. นายกึกก้อง ฮั้นประเสริฐ ผู้จัดการไฟฟ้าสาขาเมืองปทุมธานี พร้อมด้วย นางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเมืองปทุมธานี พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศววิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เข้าตรวจสอบอาคารในพื้นที่ ม.6 ต.บางหลวง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังพบว่ามีการทำสายไฟฟ้าใต้ดินเข้าหม้อแปลง ขนาด 2,000 กิโลวัตต์ โดยไม่ผ่านมิเตอร์ พบหลักฐานคาดว่ากระทำความผิด ประกอบด้วย หม้อแปลงขนาด 2,000 กิโลวัตต์ และร่องรอยชุดขุดบิตคอยน์ประมาณ 792 ช่อง และร่องรอยการทำลายการตัดสายไฟแรงสูง เพื่อจะขนย้าย ร่องรอยรื้ออุปกรณ์ชุดบิตคอยน์ 792 เครื่อง พัดลมระบายความร้อน 792 ตัว หม้อแปลง 2500 kva 1 ลูก พัดลมระบายความร้อนโดยใช้มอเตอร์ 3 เฟสบังคับใบพัด 14 ตัว และสายไฟอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกจำนวนมาก

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่พบการละเมิดต่อไฟตรงเพื่อขุดบิตคอยน์ พบมีการละเมิด 3 จุด ผู้ขอไฟฟ้าเป็นชื่อเดียวกัน จากการเช็กประวัติการใช้ไฟ ทำให้รู้ว่ามีการลักลอบขโมยใช้ไฟเพื่อทำการขุดบิตคอยน์ โดยจุดนี้ถือเป็นรายใหญ่ เพราะเป็นการรับไฟแรงสูง เป็นคนที่มีการชำนาญการมากซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่มากประเมินค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน ถ้าเริ่มทำตั้งแต่เดือน พ.ย. 2567 ถึงเดือน ก.พ. 2568 จะมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้เข้าตรวจสอบของกลางทั้งหมด ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ จากนั้นได้นำของกลางไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี ต่อไป


>> กฟน. ลุยรื้อถอนตัวล็อกกุญแจห้อยเสาไฟ ย่านสุขุมวิท เร่งหาตัวเจ้าของ

16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการพบตัวล็อกกุญแจแบบใส่รหัสคล้องอยู่ที่เสาไฟฟ้า บริเวณย่านสุขุมวิท นั้น การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. ขอเรียนชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพบว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน มาตรา 36 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 ซึ่งกำหนดให้ ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง แขวน หรือกระทำการใดๆ กับเสาไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและประชาชน

เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย กฟน. จึงได้ดำเนินการประสานงานเพื่อตรวจสอบหาเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าว แต่ไม่พบผู้แสดงตนเป็นเจ้าของ จึงจำเป็นต้องดำเนินการ รื้อถอนพวงกุญแจดังกล่าวออก พร้อมทั้งแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป


>> กรมอุตุฯ ประกาศฉบับสุดท้าย "อากาศแปรปรวน" ฝนตกฟ้าคะนอง อุณภูมิลด 1-2 องศา

17.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568) ฉบับที่ 12 (43/2568)

บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่มีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน

สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว


>> เจ้าหน้าที่ทหาร กดดันผู้ลักลอบขนยาบ้าหนัก ยึดยาบ้าได้อีก 4 แสนเม็ด

18.02 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 2 หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ยังคงเดินหน้าปราบยาเสพติดอย่างต่อเนื่องเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (นบ.ยส.24 ) อำนวยการให้ กองกำลัง สุรศักดิ์มนตรี ส่วนสกัดกั้นฯตอนบน กรมบังคับการควบคุม 1 (ร.3) หมวดปืนเล็ก ที่ 2 ร้อย.ร.กกล.สุรศักดิ์มนตรี (หน่วยหลัก) รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีวัตถุต้องสงสัยบริเวณ ริมแม่น้ำโขง บ.ดอนนางหงส์ ม.7 ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนมจึงประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ประกอบไปด้วย สส.ภ.จ. นครพนม สภ.หลัศิลา สภ.ธาตุพนม ฝ่ายปกครอง อ.ธาตุพนม ตชด.235 และ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมเข้าตรวจสอบวัตถุดังกล่าว

จากการตรวจสอบ พบเป็นกระสอบจำนวน 2 กระสอบวางอยู่ในโพรงหญ้าบริเวณมูลดิน (ชาวบ้านกำลังไถปรับหน้าดินตรงที่หญ้ารกทึบ) เมื่อแกะพิสูจน์ทราบพบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 แอมเฟตามีน (ยาบ้า) บรรจุภายในทั้ง 2 กระสอบ ประมาณ 400,000 เม็ด (กระสอบที่ 1 ยี่ห้อ 999 จำนวน 200,000 เม็ด และกระสอบที่ 2 ยี่ห้อ Y 1 จำนวน 200,000 เม็ด)

โดยสืบทราบว่ากลุ่มคนร้าย ได้ลักลอบยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านก่อนมาไว้ที่จุดดังกล่าวซึ่งเป็นจุดนัดหมายให้คนมารับ กับประชาชนละแวกดังกล่าว จึงเกิดอาการกลัวรีบหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำของกลาง ทำการตรวจยึด และบันทึกถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน และนำของกลางทั้งหมด มาเก็บรักษาไว้ที่ฐานปฏิบัติการ ร้อย.ร.กกล.สุรศักดิ์มนตรี เพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> แจ้งข้อหา 4 คนงาน ใช้เตรียมระเบิดบ่อหินทำสวนทุเรียน เปิดพื้นที่ทำสระเก็บน้ำ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

18.45 น. นาวาเอก นพโรจน์ สิริปริญพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี แจ้งข้อกล่าวหา 4 คนงานที่กำลังขุดเจาะหินและใช้ระเบิดชนิดไดนาไมต์ผสมแอมโมเนียมไนเตรท พร้อมชนวนจุดระเบิด 68 ชุด และฝังในบ่อน้ำอีก 20 ชุด ทำการระเบิดบ่อหินที่กำลังจะทำเป็นบ่อน้ำในสวนทุเรียน ม.6 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี คือ ร่วมกัน ทำ ซื้อ มีใช้ สั่ง นำเข้าหรือ จำหน่าย ด้วยประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบว่า พื้นที่ดังกล่าวราว 10 ไร่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าตรวจสอบ พบว่า เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ และเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ อีก 1 ข้อหา

นาวาเอกนพโรจน์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 17-18 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจเขาเกลือ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังมาจากบริเวณด่านเขาเกลือ ซึ่งห่างจากด่านตรวจเขาเกลือ ประมาณ 100 เมตร จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และ ตชด. ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหา 4 คน กำลังใช้ระเบิดชนิดไดนาไมต์ ความยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวนหลายอัน หย่อนเข้าไปในรูริมบ่อน้ำ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นหินแข็ง เพื่อระเบิดสร้างบ่อน้ำขนาดประมาณ 3 งาน ลึกประมาณ 6 เมตร เพื่อขุดเจาะทำสระน้ำใช้รดต้นทุเรียน เนื้อที่ประมาณ10 ไร่

เมื่อไปพบจึงสั่งให้หยุดการกระทำ และแจ้งเจ้าหน้าที่ EOD ของ ตชด.11 มาทำการตรวจสอบ พบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดประกอบเอง ประกอบด้วยแอมโมเนียมไนเตรต และเชื้อปะทุระเบิด ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน รับว่า ร่วมกันรับจ้างมาทำการขุดบ่อน้ำ โดยใช้ระเบิดเจาะหินดาน ไม่ได้ขออนุญาตและไม่มีใบอนุอนุญาตมีวัตถุระเบิดไว้ในการครอบครอง และพื้นที่ดังกล่าว ทราบว่า เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ


>> เพลิงไหม้โกดัง 'พันจิตแลนด์' กม.44 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนท.อยู่ระหว่างควบคุมเพลิง

19.20 น. ได้รับแจ้งจากสายด่วนนิรภัย 1784 ว่ามีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บของ บริษัทพันจิตแลนด์ กม.44 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

ลักษณะโกดังให้เช่า ปลูกติดกันจำนวน 12 โกดัง เป็นโกดังเก็บวัสดุจำพวกกระดาษ, พลาสติก ไฟเริ่มไหม้ที่โกดังที 2 และลามไปยังโกดังข้างเคียง รถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองท่าโขลง จำนวน 2 คัน ,เทศบาลเมืองลำสามแก้ว ,เทศบาลเมืองคลองหลวง,เทศบาลเมืองคูคต พร้อมด้วย อปท.ข้างเคียง เข้าระงับเหตุ ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้อยู่ในโกดัง  


>> ไฟไหม้ร้านขายเสื้อผ้า - รองเท้ามือสอง โซนหน้าตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ


00.11 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณตลาดโรงเกลือ ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัย หน่วยดับเพลิงในพื้นที่และใกล้เคียง เร่งนำกำลังเข้าตรวจสอบและควบคุมเพลิง

ที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันและเปลวเพลิงจำนวนมาก บริเวณโซนหน้าตลาด ใกล้ประตู 2 หน้าล็อก เอ - บี ทางเจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาสาธารณภัยและรถดับเพลิง เร่งระดมใช้หัวฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม

ร.ต.อ.มานัส ยอดปรางค์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองลึก คืบหน้ากับทีมงาน ว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมและเพลิงได้สงบในเวลา 01.30 น. แต่อาสาบรรเทาสาธารณภัย ยังคงใช้น้ำฉีดหล่อเลี้ยงเพื่อป้องกันการปะทุ เบื้องต้น จุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เป็นร้านสื้อผ้า, รองเท้ามือสอง บริเวณโซนกด้านหน้าของตลาด เสียหายเกือบ 10 ร้านค้า ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น ต้องรอทางหน่วย พฐ.ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติม ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต


>> แผ่นดินไหว ที่ สปป.ลาว

02.58 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.1 ความลึก 3 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศลาว ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 24 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 


>> รถบัสเสียหลักพลิกลงข้างทาง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

03.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนาดี รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารพลิกตะแคงลงข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 304 ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้ากบินทร์บุรี ช่วง กม.210+500 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  

พ.ต.ท.ศิวภัสร์ ภูริพัศชัยบุญชู สารวัตรสอบสวน สภ.วังขอนแดง เพิ่มเติมกับทีมงาน สวพ.91 ว่า ที่เกิดเหตุ ถนนทางหลวงหมายเลข 304 ฝั่งมุ่งหน้ากบินทร์บุรี ช่วงหลัก กม.ที่ 213 จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบรถบัส สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน บึงกาฬ ลักษณะพลิกตะแคงลงข้างทาง ทราบว่ามีผู้โดยสารมากับรถ 49 ราย ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพ - กู้ภัยเข้าตรวจสอบ พบว่า มีผู้เสียชีวิต ที่สามารถนำร่างออกจากตัวรถแล้ว ประมาณ 10 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอีกกว่า 30 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลนาดี

เบื้องต้น ทราบว่า เป็นรถบัสของคณะที่มาร่วมกัน 3 คัน เดินทางจากเทศบาลพรเจริญ จ.บึงกาฬ กำลังจะไปสัมมนาดูงานที่ จ.ระยอง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถบัสคันที่ 3 เกิดอาการล้มเบรกห้ามล้อหมด ไ้ม่สามารถชะลอรถได้ ในขณะที่รถกำลังลงเขา เมื่อมาถึงช่วงเป็นทางโค้งทำให้รถเสียหลักพลิกตะแคงลงข้างทาง จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น ต้องดำเนินการสอบสวนอีกครั้ง


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดตาก  

03.28 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.8 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ