วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05:30 น.
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568
>> รถตู้ ชนท้าย จยย. ก่อนเสียหลักพลิกคว่ำ บาดเจ็บนับ 10 ราย เด็กวัย 6 เดือนเสียชีวิต
05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ตรวจสอบเหตุบริเวณหน้าตู้ยามท่านางพรหม บนถนนสายเพชรเกษมหาดใหญ่-พัทลุง ฝั่งขาขึ้น ท้องที่หมู่ที่ 6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง รถตู้โดยสารพุ่งชนรถจักรยานยนต์ทำให้รถตู้โดยสารเสียหลักพลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บหลายราย
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ตู้โดยสารโตโยต้าสีขาว ทะเบียน ยะลา พลิกคว่ำอยู่ริมถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บส่งรักษาโรงพยาบาลพัทลุง ส่วนเด็กชายอายุ 6 เดือนเศษ เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.พัทลุง นอกจากนั้นยังมีคนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้บาดเจ็บ ได้เช่าเหมารถตู้คันดังกล่าวมาจาก จ.ยะลา มุ่งหน้าไปยัง จ.ภูเก็ต เพื่อไปเยี่ยมลูกและพาครอบครัวและญาติๆ ไปเที่ยว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถตู้ได้ขับชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ขับออกจากบ้าน จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงกันต่อไป
>> ชัยภูมิระทึก! รถบรรทุกน้ำมัน 43,000 ลิตร พลิกคว่ำ คนขับเสียชีวิตคาซากรถ
06.30 น. หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรม จ.ชัยภูมิ รับแจ้งเกิดเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ บรรทุกน้ำมันได้เสียหลักหลุดโค้งตกถนน ที่เส้นทางสาย 201 ช่วงชัยภูมิ-แก้งคร้อ ขาออกเมืองชัยภูมิไป อ.แก้งคร้อ ใกล้กับหลัก กม.16 ซึ่งเป็นทางลงเนินโค้งใกล้กับบ้านซับทรวงไทร ต.นาเสียว อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงรุดเข้าช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุได้พบกับบรรทุกพ่วง 22 ล้อ เป็นรถบรรทุกน้ำมันคาดว่าจะบรรทุกน้ำมันดีเซลมาเต็มคันขนาด 43,000 ลิตร ตัวรถตกถนนพลิกคว่ำงายท้องล้อรถชี้ขึ้นฟ้า มีกลิ่นน้ำมันดีเซลโชยออกมากจากรถคว่ำ ด้านหน้ารถพวงบรรทุกน้ำมันพังเสียหายยับเยิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มุดมองเข้าไปหาคนขับรถ ที่บริเวณตัวเก๋งหน้ารถพ่วงบรรทุกน้ำมัน พบร่างชายวัยกลางคน คาดว่าจะเป็นคนขับเสียชีวิตคาด้านหน้ารถ
ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปนำร่างชายคนขับรถออกจากตัวรถ แต่ด้านหน้ารถถูกอัดก๊อปปี้กับพื้นถนน ทำให้ไม่สามารถนำร่างคนขับรถเสียชีวิต ออกจากตัวรถได้ ต้องรออุปกรณ์ตัดถ่าง เพื่อที่จะตัดถ่างตัวรถนำร่างคนขับรถออกจากตัวรถ ก่อนที่จะนำร่างและติดต่อญาติ เพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป ซึ่งเช้านี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอยู่ระหว่างเก็บกู้ซากรถ
>> รัฐบาลชวนคนไทยร่วมฉลอง ยูเนสโกยกย่อง "ภูพระบาท" มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของไทย ที่อุดรธานี 28 ก.พ. นี้
11.00 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในชื่อ “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี” โดยเป็นแหล่งมรดกโลกลำดับที่ 8 และแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 2 ของจังหวัดอุดรธานีต่อจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อพุทธศักราช 2535
สำหรับการประกาศดังกล่าวได้ลงนาม รับรองโดยผู้อำนวยการใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่ง สหประชาชาติ (UNESCO) เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองและติดตั้งตราสัญลักษณ์มรดกโลกอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ณ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี โดยภายในงานมีกิจกรรมและการแสดงมากมาย อาทิ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน จากชุมชนไทพวน อำเภอบ้านผือ พิธีปลูกต้นรวงผึ้ง เฉลิมพระเกียรติ พิธีติดตั้งตราสัญลักษณ์มรดกโลก และป้ายส่งเสริมการท่องเที่ยว พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ โบราณสถานหอนางอุสา การแสดงละครตำนานภูพระบาท เรื่อง "อุสา - บารส" โขนรามเกียรติ์ ตอน "สุครีพถอนต้นรัง
>> ดส. รวบสาววัย 32 ลอบขายเจลลี่-พอตกัญชา-ช็อกโกแลตเห็ดเมา สารภาพทำมา 4 ปี กำไรเดือนละ 1 ล้านบาท
12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ชุดปฏิบัติการที่ 2 นำหมายค้นของศาลอาญา ลงวันที่ 20 ก.พ.2568 ร่วมกันตรวจค้น บ้าน ซ.ลาดพร้าว 87 แยก 19 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ต่อเนื่องร้านขายกัญชาแห่งหนึ่งบน ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตจตุจักร กทม. พร้อมจับกุมตัวหญิง อายุ 32 ปี พร้อมด้วยของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าพอตกัญชา, เจลลี่กัญชา, ช็อกโกแลตเห็ดเมา และอาวุธปืนลูกซองยาว สีดำ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวนหนึ่ง รวมของกลางทั้งหมด 59 รายการ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.ดส.ตรวจสอบพบว่า มีผู้ลักลอบจำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมาย บนเว็บไซต์ จึงทำการสืบสวนขยายผล จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้พบและตรวจยึดของกลางทั้งหมด จากนั้นจึงไปตรวจค้นร้านกัญชาของผู้ต้องหา บนถนนรัชดาภิเษก พบของกลางอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการนำเจลลี่กัญชาของการไปตรวจหาสารเสพติด เบื้องต้น พบมีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นส่วนผสมของสารเสพติดชนิดยาบ้าและยาไอซ์ปนอยู่ด้วย สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยทำร่วมกับแฟนหนุ่ม สินค้าส่วนใหญ่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อขายให้ลูกค้าผ่านทางเว็บไซต์, เฟซบุ๊ก และไอจี รวมถึงหน้าร้านย่านรัชดา ทำมาประมาณ 4 ปี ได้กำไรเดือนละ 1 ล้านบาท
>> ตำรวจภูธรภาค 2 เอาจริง!! เชือดโรงแรมเถื่อน ให้ที่พักบัญชีม้า - แก๊งคอลเซนเตอร์ เอื้อขบวนการพาข้ามแดน เตือนอย่าทำ "โทษหนัก"
14.10 น. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 2 เดินหน้ายุทธการ “อรัญ 68 Seal Border” อย่างต่อเนื่อง ตาม 7 มาตรการเข้มปราบปรามต่างด้าวทำผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซนเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมีปฏิบัติการกวาดล้างกดดันขบวนการพาคนข้ามแดนเพื่อไปเป็นบัญชีม้า ทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านฝั่งชายแดน จ.สระแก้ว จันทบุรี และตราด อย่างเข้มข้น ช่วยเหลือเหยื่อ จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก
และขอเตือนผู้ประกอบการโรงแรม ที่พักทุกรูปแบบ โดยเฉพาะโรงแรมเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ห้ามให้ที่พักพิงแก่บุคคลที่ครอบครองและใช้บัญชีฝากของบุคคลอื่น (บัญชีม้า) แก๊งอาชญากรคอลเซนเตอร์ รวมทั้งผู้ขับขี่รถรับจ้าง ห้ามรับงานนำพาบัญชีม้า - แก๊งคอลเซนเตอร์ไปส่งยังชายแดน เพราะเท่ากับให้การสนับสนุน ช่วยเหลือขบวนการคอลเซนเตอร์ เข้าข่ายผิดกฎหมายหลายข้อ โดยคดีตัวอย่าง เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลจังหวัดสระแก้ว ตัดสินลงโทษ เจ้าของโรงแรมเถื่อนใน อ.อรัญประเทศ ที่ให้ที่พักพิง ศาลพิพากษาลงโทษ นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาในคดีโรงแรมเถื่อน ดังนี้ จำคุก 3 เดือน (รอลงอาญา 2 ปี) ปรับ 5,000 บาท และปรับเพิ่มวันละ 1,000 บาท ตั้งแต่วันฝ่าฝืน จนถึงวันฟ้อง (5,528 วัน) เป็นเงินรวม 5,528,000 บาท ยังต้องปรับอีกวันละ 1,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
>> กทม.เดินหน้าปรับภูมิทัศน์คืนทางเท้าสัญจร หลังยกเลิกแผงค้าหน้าป่อเต็กตึ๊ง-วัดคณิกาผล
15.50 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัด กทม. นายอนุชิต พิพิธกุล ผอ.สำนักเทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการปรับปรุงด้านกายภาพ ภายหลังการยกเลิกพื้นที่ทำการค้าหน้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน้าวัดคณิกาผล ถนนพลับพลาไชย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งมีขนาดเล็กและคับแคบ มีการตั้งวางแผงค้าจำหน่ายสินค้าบนทางเท้ามาเป็นระยะเวลายาวนาน ส่วนใหญ่จำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้ ธูป เทียน กระดาษเงิน กระดาษทอง พวงมาลัย ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue โดยมีการสั่งการให้บริเวณดังกล่าว หยุดทำการค้าตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 68 เป็นต้นไป
คืบหน้าในการปรับปรุงด้านกายภาพ ภายหลังการยกเลิกพื้นที่ทำการค้า ณ จุดนี้นั้น จากการสำรวจพบว่าพื้นทางเท้าชำรุดเสียหายหลายจุด เบื้องต้นเขตฯ ได้ซ่อมแซมพื้นทางเท้าชั่วคราว พร้อมทั้งรื้อย้ายสิ่งกีดขวางบนทางเท้าออกไป เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ใช้ทางเท้าในการสัญจร ทั้งนี้ สำนักการโยธาจะปรับปรุงภูมิทัศน์ทางเท้าบริเวณถนนพลับพลาไชยทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่ถนนเจริญกรุงจนถึงถนนบำรุงเมือง ระยะเวลาดำเนินการ 200 วัน แบ่งพื้นที่การทำงานออกเป็น 3 ช่วง เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 68 เป็นต้นไป
>> ตำรวจทางหลวง จับกุมขบวนการขนแรงงานต่างชาติ พบยาเสพติด ระเบิด และยาเคซ่อนในตุ๊กตา
18.30 น. ตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สตม. ให้เฝ้าติดตามรถยนต์ต้องสงสัย ที่อาจมีการขนแรงงานต่างด้าวจากจังหวัดตาก มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยขับขี่ผ่านมาด้วยความเร็วและมีพฤติกรรมเปลี่ยนช่องทางการเดินรถกะทันหัน จึงได้ขับติดตามและส่งสัญญาณให้หยุด แต่คนขับกลับเร่งเครื่องพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงใช้สัญญาณไฟกระพริบสีแดงและสัญญาณเสียง พร้อมออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนให้หยุดรถ จนสามารถสกัดจับได้สำเร็จ
จากการตรวจสอบพบว่า คนขับคือ นายกอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ภายในรถมีชายชาวไต้หวัน 2 คน ไม่มีหนังสือเดินทาง นอกจากนี้ ยังพบหญิงสัญชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายกอ ไม่มีหนังสือเดินทางเช่นกัน ขณะที่ชายชาวจีนและหญิงชาวฟิลิปปินส์อีก 2 คนมีหนังสือเดินทางถูกต้อง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดพบระเบิด ยาบ้า 22 เม็ด ยาเคน้ำหนักรวมเกือบ 4 กรัม ซ่อนอยู่ในตุ๊กตา จากการสอบสวนเบื้องต้น นายกอ ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนแรงงานต่างด้าวจากจังหวัดตากไปส่งที่กรุงเทพ ได้รับค่าจ้างคนละ 5,000 บาท แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเจ้าของยาเสพติดและวัตถุระเบิด
ขณะเดียวกัน หนึ่งในกลุ่มแรงงานเปิดเผยว่า เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าประเทศไทยให้กับนายทุนชาวจีน (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ทุกคนให้การปฏิเสธว่ายาเสพติดและวัตถุระเบิดไม่ใช่ของตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> หนุ่มเผาไร่อ้อย แต่ลมเปลี่ยนทิศ ไฟลามเป็นลมข้างไร่อ้อย หวิดดับคากองเพลิง โชคดีที่เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือทัน
19.35 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ภูกระดึง จ.เลย ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าอ้อย บริเวณ ม.6 ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง จึงได้ประสานรถดับเพลิงของ อบต.ภูกระดึง เดินทางไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกลามอย่างหนัก ประมาณ 3-4 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นป่าอ้อยของ นางสำเนียง โชติชารี เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมไฟได้
จากการสอบสวนเหตุเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุชายผู้ก่อเหตุเดินทางผ่านมาบริเวณจุดเกิดเหตุที่มีไฟไหม้ป่าอ้อย จึงทำการจอดรถพัก ก่อนไปเห็นรังผึ้งในไร่อ้อย จึงทำการจุดไฟเพื่อเอารังผึ้ง แต่ในช่วงที่จุดอยู่นั้นมีกระแสลมที่แรงและเปลี่ยนทิศ ทำให้ไม่สามารถควบคุมไฟอยู่จนเริ่มลุกลามเป็นวงกว้าง และลุกโชนขึ้นอย่างรุนแรง
และเมื่อไฟโหมแรง ผู้ก่อเหตุมีอาการหอบขึ้น เนื่องจากวิ่งหิ้วถังน้ำที่อยู่บริเวณนั้นนำไปดับเพลิงแต่เอาไม่อยู่ จนเป็นลมพับอยู่ห่างจากกองไฟไม่ไกล ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัยเดินทางเพื่อดับไฟพอดี จึงช่วยไว้ได้ทัน ก่อนประสานรถโรงพยาบาลภูกระดึงมารับตัวไปส่งโรงพยาบาลต่อไป
27 กรกฎาคม 2568
27 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ