วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05:40 น.
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
>> รถกระบะบรรทุกไข่ไก่ 3,000 ถาด ลืมปิดประตูท้ายตู้ทึบ ไข่ไก่ร่วงเสียหายกว่า 100 ถาด
07.45 น. ศูนย์วิทยุเมืองนายก รับแจ้งจากประชาชน ว่ามีรถตู้บรรทุกไข่ไก่ทำไข่ไก่ร่วงลงพื้นเกลื่อนถนน บริเวณแยกสัญญาณไฟบัวแก้ว จ.นครนายก ศูนย์วิทยุเมืองนายก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รถน้ำเทศบาลเมืองนครนายก และกู้ภัย ไปยังที่รับแจ้งเหตุ พบรถตู้ทึบฟาร์ม จอดรถอยู่ริมถนน ส่วนไข่ไก่ร่วงหล่นเกลื่อนถนนเป็นทางยาวทำให้การจราจรติดขัด พนักงานฟาร์มไข่ไก่ได้ช่วยกันเก็บเปลือกไข่มาวางไว้บนเกาะกลางถนน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองนครนายกและกู้ภัยได้ช่วยกันฉีดน้ำล้างทำความสะอาดล้างคราบไข่ไก่บนพื้นผิวจราจรและเปิดเส้นทางได้ตามปกติ
พนักงานส่งไข่ไก่ เล่าว่า พวกตน 3 คนได้นำไข่ไก่จากฟาร์มไข่ที่อำเภอบ้านนา ขึ้นรถตู้จำนวน 3,000 ถาด เพื่อจะไปส่งที่จังหวัดสระแก้ว ช่วงที่ขับรถมาจากบ้านนาพอมาถึงแยกสัญญาณไฟบัวแก้ว รถตนได้ติดสัญญาณไฟแดง พอไฟเขียวตนได้ขับเลี้ยวโค้งเพื่อจะไปส่งไข่ที่จังหวัดสระแก้วคาดว่าหน้าจะลืมปิดประตูท้ายตู้ทึบจึงทำให้ไข่ไก่ล่วงหล่นไปประมาณ 100 ถาดได้รับความเสียหายดังกล่าว
>> ผบช.น. แถลงผลกวาดล้างต่างด้าวเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในกรุง จับกุมผู้กระทําผิด 145 ราย กว่าครึ่งเป็นคนจีน
09.00 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตํารวจนครบาล และตํารวจชุดจับกุมร่วมกันแถลงผลระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 88 สถานีและกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1-9 รวมทั้งสืบนครบาล เข้าตรวจสอบในพื้นที่เสี่ยงเพื่อตรวจสอบผู้กระทำความผิดในห้วงวันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ กว่า 123 จุด จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 145 ราย เป็นคนไทย 9 ราย จีน 77 ราย เมียนมา 32 ราย ลาว 14 ราย และอื่นๆ 13 ราย จำแนกดําเนินคดีตาม พรบ.ยาเสพติด 1 ราย พรบ.การพนัน 67 ราย พรบ.คนเข้าเมือง 15 ราย พรก.การทำงานของคนต่างด้าว 68 ราย พรบ.ศุลกากร จำนวน 21 ราย พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ 33 ราย และความผิดอื่นๆ 9 ราย
โดยคดีที่น่าสนคือการปิดล้อมตรวจค้น 5 จุด ในพื้นที่กองบังคับการตํารวจนครบาล 2 จับกุมชาวต่างด้าวร่วมกับคนไทยลักลอบจําหน่ายยานําเข้าจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย ตรวจยึดของกลางกว่า 41,500 ชิ้น เงินสด 1.2 ล้านบาท รวมมูลค่าของกลางกว่า 140 ล้านบาท ส่วนอีกคดีคือการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่กองบังคับการตํารวจนครบาล 8 จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางยาเสพติด ไอซ์ 509 กิโลกรัม นอกจากนี้ตํารวจชุดสืบนครบาลได้ร่วมกับชุด PCT บุกจับกุม 2 บอสชาวจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตึก 25 ชั้น เมืองปอยเปต โดยจับได้คาบ้านพักหรูย่านรัชดาภิเษก ยึดทรัพย์สินกว่า 15 ล้านบาท
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สยาม ระบุว่า กองบัญชาการตํารวจจะไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ โดยได้สั่งการต่อเนื่องให้ตํารวจทุกสถานีทั้ง 88 สน. และ กองบังคับการสืบสวน 1-9 ดําเนินการสํารวจกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในพื้นที่ กทม. และมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการกระทําความผิด หากพบให้ดําเนินการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมดําเนินคดีทันที
>> เที่ยวบินแรก ส่งตัวชาวจีน 1,041 คนกลับประเทศ หลังช่วยเหลือจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา
09.30 น. บรรยากาศที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก ชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล็อตแรก 50 คน ถูกนำตัวออกจากเมียวดี ประเทศเมียนมา เดินทางถึงไทย แล้ว โดยได้ตรวจเอกสารคนเข้าเมือง ที่สะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 เมื่อตรวจสอบเอกสารเสร็จสิ้น ชาวจีน จะขึ้นรถบัส เพื่อมุ่งหน้าไปสนามบินแม่สอด เตรียมบินกลับจีนทันที
โดยในวันนี้ จะมีจำนวน 4 เที่ยวบิน เริ่มบินกลับจีนเที่ยวแรก เวลา 11.40 น. จนถึงเวลา 14.40 น. ซึ่งทั้งหมด เป็นเครื่องบินของสายการบิน Chaina Southern Airlines บินมารับที่ท่าอากาศยานแม่สอด ซึ่งในวันนี้จำนำชาวจีนกลับประเทศทั้งหมด 200 คน ซึ่งตัวเลขชาวจีนที่จะได้รับการกลับประเทศจำนวน 1,041 คน จากนั้นวันที่ 23 ก.พ.นี้ จึงจะเป็นสัญชาติอื่นๆ
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทางกองกำลัง BGF ได้ควบคุมตัว ชาวจีน 3 คนจาก 1,042 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของจีน ไว้ที่ศูนย์บัญชาการรักษาความปลอดภัยในเมืองเมียวดี เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมก่อนส่งตัวให้ทางการจีน และยังพบว่าติดเชื้อวัณโรค
>> รวบสาวไทยเปิดบัญชีคริปโต เอี่ยวกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติมาเลเซีย หลอกลงทุนในแอปฯปลอม
10.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม น.ส.บี (นามสมมุติ) ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ” สถานที่จับกุม ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่พบแพลตฟอร์มออนไลน์ปลอม หลอกเหยื่อกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท กลุ่มผู้ต้องหามีทั้งชาวมาเลเซียและไทย โดยกลุ่มชาวไทยส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ลักลอบทำงานในมาเลเซีย มีหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคารและเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อฟอกเงินและส่งต่อให้ผู้รับผลประโยชน์ชาวมาเลเซีย
ตำรวจสอบสวนกลางไทยร่วมมือกับตำรวจมาเลเซียติดตามเครือข่าย พบว่า น.ส.บี (นามสมมุติ) ใช้บัญชีฟอกเงินก่อนหนีไปกัวลาลัมเปอร์ ทางการมาเลเซียจึงประสานให้นำตัวกลับมามอบตัวในไทย ส่งดำเนินคดี กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> 2 เจ้าตูบนอนเฝ้าร่างเจ้าของไม่ห่าง พร้อมคราบน้ำที่ข้างแก้ม หลังอุบัติเหตุรถไถนาพ่วงท้ายคว่ำ ชายวัย 55 ปีดับ
10.00 น. ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน ตรวจสอบเหตุรถอีแต๊ก หรือ รถไถการเกษตร พ่วงท้ายบรรทุกไม้พลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณกลางทุ่งนาท้ายบ้านแม่น้ำสงคราม บ้านหาดกวน ในพื้นที่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ที่เกิดเหตุ ห่างหมู่บ้านร่วม 2 กิโลเมตร เป็นคันนาสูง 2.5 เมตร พบรถอีแต๊กคว่ำลงข้างทาง ที่ใต้รถพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 55 ปี สภาพร่างถูกพ่วงท้ายทับ
เบื้องต้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิต ขับรถอีแต๊กไปขนไม้ในนา จะนำไปเผาถ่านกับทำคอกวัว ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุ จึงเร่งเครื่องขึ้นเนินคันนาแต่ไม่พ้น ก่อนรถจะพลิกคว่ำ และไม้ที่บรรทุกมาเทกระจาดลงมาทับร่าง
ส่วนในที่เกิดเหตุ พบสุนัข 2 ตัวของผู้ตาย ที่เคยติดตามไปตลอดเพศผู้ชื่อ"เจ้าไมโล" และ"เจ้าโอวัลติน" นอนเฝ้าร่างเจ้าของ มีคราบน้ำตาไหล พร้อมเห่าหอนผู้ที่เจ้าใกล้จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางความเศร้าแก่ผู้พบเห็น
>> นายกฯ ไทย-ลาว หารือกระชับความร่วมมือทุกมิติ เพื่อให้ทั้งสองประเทศก้าวหน้าพร้อมกันอย่างยั่งยืน
10.15 น. นายกรัฐมนตรี และ นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดย นายกฯ สปป.ลาว ได้ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ก่อนเข้าร่วมหารือกลุ่มเล็กและหารือเต็มคณะ
นายกฯ ไทย เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งการเยือนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเริ่มต้นเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว หวังว่าทั้งสองประเทศจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนให้มีการประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน
>> ผบ.ตร. ยัน ผลสอบวินัย"บิ๊กโจ๊ก"ถึงมือกองวินัย รอพิจารณาก่อนส่งให้ ผบ.ตร. ภายใน 30 วัน หากผิดจริงมี 2 สถานะไล่ออกหรือปลดออก
11.43 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลการพิจารณาสอบสวนวินัยร้ายแรง ของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จากคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่ยืนยันว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด
ตามขั้นตอนหากการพิจารณาแล้วเสร็จ คณะกรรมการสอบสวนฯ ก็จะส่งผลให้กองวินัย เพื่อเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโทษ ที่มีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะเสนอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาในลำดับสุดท้าย ภายในกรอบเวลา 30 วัน หากผิดวินัยร้ายแรงก็จะมีอัตราโทษ 2 สถานะ คือไล่ออก โดยที่จะไม่ได้รับสวัสดิการและสิทธิต่างๆตามระเบียบข้าราชการ ส่วนการปลดออกยังได้รับสวัสดิการและสิทธิข้าราชการบางส่วน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ไม่มีการยื้อเวลา เพราะว่ามีกรอบเวลาในการพิจารณาไว้ชัดเจนอยู่แล้ว หากมีการยื้อเวลาออกไป ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบ กรณีเกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งตนเองเชื่อว่าผู้ที่ทำหน้าที่คณะกรรมการวินัยในแต่ละระดับ ก็มีความรับผิดชอบของตัวเองและต้องรู้กรอบเวลาที่กฎหมายและกฎ ก.ตร.กำหนด ผู้ใดจะไปยื้อหรือไม่ยื้อตนเองคิดว่าคงไม่ใช่ประเด็นนั้น เพราะทุกคนต้องไปพิจารณาตามกรอบเวลาที่กำหนด
>> มือปืนโหด บุกยิงเพื่อนบ้านดับคาที่ ย้อนกลับบ้านยิงตัวเองปางตาย เพียงแค่เรื่องเล็กน้อย
12.20 น. สภ.สามพราน รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม
ที่เกิดเหตุ พบร่างของ นายมนต์ตา อายุ 49 ปี ถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ศีรษะ แขน และลำตัว เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ขณะที่ผู้ก่อเหตุชื่อนายวิฑูรย์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน โดยนายวิฑูรย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองบริเวณใต้ราวนมซ้ายแล้วทะลุหลัง อาสามูลนิธิรีบนำส่งโรงพยาบาลสามพราน ด้านเจ้าหน้าที่ตรวจพบอาวุธปืนสั้นแบบไทยประดิษฐ์ ไม่ทราบขนาด ตกอยู่ที่บ้านของนายวิฑูรย์
จากการสอบถามภรรยา นายมนต์ตา ทราบว่า สามีกับนายวิฑูรย์มีปากเสียงกันเรื่องการทำงานของนายวิฑูรย์ ซึ่งนายวิฑูรย์มีอาชีพรับซื้อของเก่า เวลาได้ของมาก็จะมีการคัดแยกและแปรสภาพบริเวณหน้าบ้านยามค่ำคืน ส่งเสียงดังรบกวนตลอด มีการขอร้องพูดคุยกันแต่บานปลาย
มาจนวันนี้ นายวิฑูรย์ถือปืนเดินเข้ามาในบ้านแล้วจ่อยิงสามีต่อหน้า แล้วเดินออกไป แต่สัก 2-3 นาทีเดินกลับมายิงอีกนัด แล้วก็เดินออกไปอย่างเลือดเย็นกลับบ้านเขา จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนที่บ้านเขา จึงรู้ว่าหลังก่อเหตุยิงสามีแล้วเขากลับบ้านไปยิงตัวเอง
>> ครม. ทุ่มงบ 1.8 พันล้าน เคาะ 3 มาตรการช่วยชาวนา พยุงราคาข้าวไม่ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตัน
16.00 น. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โรงสี สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และกลุ่มชาวนา
โดย นายพิชัย กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบ 3 มาตรการเพื่อพยุงราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตัน ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรังตันละ 1,500 บาท ปริมาณ 1.5 ล้านตัน กรณีเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางจะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,500 กรณีฝากสถาบันเกษตรกร จะได้รับตันละ 1,000 บาท โดยสถาบันได้ค่าฝากเก็บ 500 ระยะเวลาฝากเก็บ 1-5 เดือน มาตรการชดเชยดอกเบี้ยให้กับโรงสีในการรับซื้อข้าวที่ร้อยละ 6 ปริมาณ 2 ล้านตัน ระยะเวลา 2-6 เดือน และมาตรการเปิดจุดรับซื้อข้าวในราคานำตลาดตันละ 300 บาท ปริมาณ 3 แสนตัน ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท โดยโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี จะใช้วงเงิน 1,893 ล้าน เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. สัปดาห์หน้า และเสนอต่อ ครม. ต่อไป
>> “นายภูมิธรรม และ นายหลิว จงอี” ติดตามขั้นตอนการส่งกลับคนจีน เน้นตรวจเข้มก่อนขึ้นเครื่อง
17.10 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ พลเอกอ่อง จอจอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แห่งสหภาพเมียนมา เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามดูการส่งคนจีนกลับประเทศ
โดยมีรถบัสนำตัวคนจีนเข้ามาในสนามบิน แล้วให้ทุกคนลงจากรถ และผ่านขั้นตอนการตรวจสิ่งของต้องห้าม วัตถุอันตรายต่างๆ ก่อนจะให้ขึ้นเครื่องบินของสายการบิน China southern airline โดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของจีนคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
>> ชายวัย 50 ปีขี่รถจักรยานยนต์ชนกำแพงรั้วข้างทาง เสียชีวิต
17.30 น. มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี (พ้งไล้36) ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับกำแพง บริเวณทางโค้งซอยสุสานบางตาล ม.1 ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ สีขาว ล้มคว่ำสภาพหน้ารถพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 50 ปี ภูมิลำเนาชาวบ้านโป่ง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง
>> เพลิงไหม้บ้านเรือน ย่านบางพลัด เสียหายวอดทั้งหลังและลุกลามบ้านข้างเคียง
17.46 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น ประกอบกิจการให้เช่าพักอาศัย เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลังลุกลามบ้านข้างเคียง เสียหายบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 200 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบวรมงคล
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยแก้วเงินทอง 41 ห้องครัวเสียหายวอด
18.30 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยแก้วเงินทอง 41 ถนนแก้วเงินทอง แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้ห้องครัวเสียหายหมดทั้งห้อง พื้นที่เพลิงไหม้เสียโดยประมาณ 16 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์
>> ชายวัย 37 กลับไม่ถึงบ้าน ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อกับข้าว เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนหลักกิโลเมตรเสียชีวิต
19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์พุ่งชนเสาปูนหลักกิโลเสียชีวิต เหตุเกิดละหาร-ลำโพ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 37 ปี คนงานร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีม่วง-ดำ ทะเบียน เพชรบูรณ์ ล้มคว่ำอยู่กลางถนนสภาพรถพังเสียหาย โดยมีกับข้าวซึ่งเป็นของสดและข้าวสารตกหล่นกระจัดกระจายเกลื่อนถนน
ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้โดยรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับขี่มาจากทิศทางถนน 345 มุ่งหน้าออกไปทางด้านถนนชัยพฤกษ์ตัดใหม่หลังจากผ่านโค้งมา รถมีลักษณะขี่ส่ายไป-มา ก่อนที่ตัวรถจะพุ่งชนเสาปูนหลักกิโลอย่างเต็มแรง
ทางด้าน ลูกชาย วัย 14 ปีให้ข้อมูลว่า พ่อได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปตลาดเพื่อซื้อกับข้าวและคาดว่ากำลังจะขี่รถกลับบ้าน แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียเสียก่อน ส่วนตัวแล้วพ่อจะเป็นคนดื่มสุราแต่ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุขึ้นเลย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับเก็บคลิปกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป
>> รถเสียหลักพุ่งลงคลองน้ำข้างทาง มีผู้เสียชีวิต
21.00 น. รับแจ้งจาก สมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี อุบัติเหตุรถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้า วิช สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักตกลงไปในคลองน้ำข้างทาง ก่อนถึง สนง.ประปาบ้านแหลม ในพื้นที่ ต.บานแหลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ลงค้นหาและพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 49 ปี พื้นที่ สภ.บางปลาม้า
>> เจ้าหน้าที่ลุยเข้าปิดวาล์ว หลังเกิดเหตุแอมโมเนียรั่วไหลในโรงน้ำแข็ง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
21.25 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พังงา ได้รับแจ้งว่าแอมโมเนียรั่วไหล ภายในโรงงานผลิตน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลหล่อยูง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
นายสงบ สะโตน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา จึงสั่งการให้ชุดเผชิญเหตุ นำรถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ออกทำการช่วยเหลือ
เบื้องต้นได้ประสานรถดับเพลิงจาก อบต.หล่อยูง อบต.โคกกลอย เทศบาลตำบลโคกกลอย ทำการฉีดน้ำเพื่อดักจับไอระเหย และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงไปยังที่ปลอดภัย จากนั้นได้ทำการปิดวาล์วเพื่อหยุดการรั่วไหล และตรวจสอบพื้นที่ภายในโรงผลิตน้ำแข็งว่ามีจุดรั่วไหลอื่นหรือไม่ พร้อมแนะนำวิธีการปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างปลอดภัยให้แก่พนักงานของโรงงาน จากเหตุการดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำหรับสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วทุ่ง
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ