หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05:35 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568


>> รถกระบะชนเสาไฟก่อนอัดเข้าราวสะพาน กู้ภัยเร่งงัดรถช่วยเหลือคนเจ็บ ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนราวสะพาน ริมถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ใกล้เคียงร้านสหสินเฟอร์นิเจอร์ ในพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทา ป้ายทะเบียน สุพรรณบุรี สภาพชนอยู่กับราวสะพานกลางถนน ด้านหน้ารถพังยับเยิน น้ำมันรั่ว ใกล้กันพบเสาไฟฟ้าส่องสว่างล้มขวางถนนอยู่ 1 ต้น ภายในรถพบคนขับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 42 ปี สภาพสาหัส หมดสติ ติดอยู่บริเวณหลังพวงมาลัยฝั่งคนขับ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือนำตัวออกมาด้านนอกตัวรถ ก่อนที่จะเร่งทำการเคลื่อนย้ายนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลท่ายาง และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุทีแท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน


>> ตำรวจไซเบอร์ รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจมุกดาหาร วิดีโอคอลตุ๋นเหยื่อโอนเงิน

09.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผบช.สอท.) ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจมุกดาหาร

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ติดต่อมาหาผู้เสียหายหลายราย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศร้อยตำรวจโท สังกัด สภ.เมืองมุกดาหาร ใช้อุบายสอบถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคาร ที่ จ.มุกดาหาร ไว้หรือไม่ เนื่องจากมีผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้การซัดทอดว่า ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โดยให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการแจ้งยอดเงินในบัญชีที่มีทั้งหมดทุกบัญชี และให้โอนเงินมาตรวจสอบ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 สืบทราบว่าบว่านายออ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงได้ประสานงานกับทหารต้นสังกัดเข้าจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายออ ให้การยอมรับว่าตนเป็นผู้หลอกลวงผู้เสียหายจริงโดยให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณปิ 2566 ผู้ต้องหาได้รับการชักชวนให้ไปทำงานที่ปอยเปต กัมพูชา โดยทราบว่าเป็นงานเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับมอบหมายให้ทำงานในขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในขบวนการนี้มีทั้งคนไทยและคนจีนเป็นผู้ควบคุม จะได้รับค่าตอบแทนในการทำงานเป็นเงินเดือน เดือนละประมาณ 50,000 บาท และยังได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมอีกประมาณ ร้อยละ 3 - 5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนเงินที่สามารถหลอกลวงได้ในแต่ละครั้ง ทำให้มีรายได้นับแสนบาทต่อเดือน

นอกจากนี้จากการขยายผลพบความเชื่อโยงที่นายออ ก่อเหตุหลอกเหยื่อมากกว่า 100 ราย ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 ดำเนินคดีต่อไป


>> หนุ่มก่อสร้างลงข่ายดักปลาริมคลองหน้าวัด ก่อนพบเสียชีวิตใต้โคนเสาไฟในน้ำ พบคีมปากนกแก้วติดคาสายไฟ

09.00 น. สภ.ไทรน้อย รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตลักษณะถูกไฟฟ้าช็อต บริเวณ คลองตาคลาย หน้าวัดคลองตาคล้ายเกิด ม.2 ต.ไทรนัอย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ บริเวณเสาไฟภายในคลองหน้าวัด พบร่างของผู้เสียชีวิต ลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่ภายในคลอง ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงในตัวเดียว ที่สายไฟบริเวณโคนเสาไฟพบคีมปากนกแก้วหนีบคาที่สายไฟ โดยมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง ต้องมาตัดไฟในที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำร่างขึ้นมาแล้วตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อต่อมา คือ นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ทำงานก่อสร้างภายในวัดคลองตาคล้าย และพบว่ามือยังถือขายดักปลาไว้แน่น

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เบื้องต้นได้ถ่ายรูปเก็บภาพบันทึกไว้ในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องรอแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนคีมที่เห็นอยู่ที่สายไฟนั้นก็ต้องเข้าตรวจสอบว่า มาเกี่ยวข้องกับการ เสียชชีวิตหรือไม่ โดยมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง


>> นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะ "สี จิ้นผิง" ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

10.32 น. นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าว สวัสดีปีใหม่จีน ยินดีที่ได้มาเยือนจีนในปี 2568 ปีพิเศษครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจนปัจจุบัน จีนถือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย เป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 และเป็นนักลงทุนอันดับต้นของไทยมูลค่ากว่า แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ

ด้าน นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า จีนมองไทยเป็นเป้าหมายหลักในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนและพร้อมสนับสนุนรัฐบาลใหม่ในการพัฒนาประเทศ


>> "วราวุธ" ส่งทีม พม.นครฯ ช่วย ด.ญ.ขวบเศษ ถูกแม่แท้ๆ ทำร้ายร่างกาย ฟกช้ำ ถลอกทั่วตัว รับเข้าคุ้มครองชั่วคราว

10.38 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. รายงานกรณีพลเมืองดีขอความช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 1 ปี 7 เดือน ถูกแม่ทำร้ายร่างกาย โดยมีคลิปวิดีโอที่แอบถ่ายจากโทรศัพท์มือถือเป็นหลักฐาน ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดนครศรีธรรมราช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช และหัวหน้าบ้านพักและครอบครัวจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเด็กหญิงอายุ 1 ปี 7 เดือน มีรอยฟกช้ำ รอยถลอกบริเวณหน้าผากและลำตัวหลายจุด ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่อายุ 23 ปี มีอาชีพรับจ้างในร้านข้าวต้ม และพ่อเลี้ยง อายุ 23 ปี มีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัวชน

ทางหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแม่ของเด็ก และรับตัวเด็กหญิงอายุ 1 ปี 7 เดือน เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพเป็นการชั่วคราวที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครศรีธรรมราช ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 พร้อมให้ความช่วยเหลือตามกระบวนการสังคมสงเคราะห์และจะได้วางแผนลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อประเมินทางสังคมเกี่ยวกับความพร้อมในการเลี้ยงดูเด็กที่เหมาะสมในโอกาสต่อไป


>> ระดมทีมมือปราบ ลุยล้างบางอิทธิพลเถื่อนทั่วประเทศ

11.27 น. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้จัดมีการประชุม พร้อมด้วยคณะทำงานฯ จำนวน 50 ท่าน เดินทางมาประชุมจากทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อน และรับมอบนโยบาย พร้อมกำชับแผนปฏิบัติกวดขัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ให้มีพฤติกรรมเป็นไม้ค้ำยันให้กับผู้มีอิทธิพลและให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส และเป็นผู้ช่วยในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมือกับอาชญากรรมที่เปลี่ยนไป เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงในทุกวินาที เพื่อเป็นหน่วยงานมืออาชีพที่ต้องล้ำหน้าอาชญากรรมและเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้อย่างแท้จริง แม้ในบางครั้งจะพบอุปสรรคทำให้ยากลำบากต้องต่อสู้กับความเหน็ดเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เราไม่เคยท้อถอยหรือหยุดพัก เพราะเรารู้ว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนั้นรอไม่ได้ทุกวินาทีไม่เคยท้อถอยหรือหยุดพัก เพราะเรารู้ว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนั้นรอไม่ได้ทุกวินาที


>> รถนั่งส่วนบุคคลเสียหลักพุ่งลงสระน้ำข้างทาง พบพระภิกษุมรณภาพ

12.30 น. พ.ต.อ.ศิวัชณัฏฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ อุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคล หลักลงบ่อน้ำข้างทาง บริเวณเส้นทางบ้านหนองอนามัย - บ้านหนองดุม ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

ที่เกิดเหตุ ภายในสระน้ำริมถนน มีรถนั่งส่วนบุคคล นิสสัน สีฟ้า ทะเบียน ปราจีนบุรี ลักษณะพุ่งลงในน้ำสภาพรถจมมิดคัน ภายในพบคนขับมีอาการหมดสติ ทางอาสาสมัครช่วยกันนำร่างออกจากตัวรถขึ้นฝั่งเพื่อทำการ CPR แต่ไม่เป็นผล จากการตรวจสอบเอกสาร พบว่า เป็นพระภิกษุ อายุ 56 ปี จำพรรษาอยู่วัดดงบัง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหนักงานสอบสวน


>> "ราชตฤณมัย" ยืนยันไม่รู้เห็น กับกลุ่มบุคคลอ้างชื่อสมาคมระดมทุนที่ฮ่องกง

13.30 น. พล.อ.จำลอง บุญกระพือ ในฐานะประธานอำนวยการราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งโต๊ะชี้แจงกรณีมีบุคคลแอบอ้างชื่อ "สมาคมฯ" บุคคล และตราสัญลักษณ์ ไปหาประโยชน์ โดยการจดทะเบียนในนามบริษัทที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางราชตฤณมัยสมาคมแต่อย่างใด และอาจจะส่งผลกระทบต่อสมาคมในหลายๆ ด้าน

โดย พล.อ.จำลอง ยืนยันว่า ไม่ได้รู้เห็นในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนไประดมทุนที่ฮ่องกง อ้างนำไปทำเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โดยใช้ชื่อและโลโก้ของสมาคม และคงไม่ได้ตรวจสอบ เพราะตนไม่สนใจ ส่วนที่มาให้ข่าวตรงนี้ก็เพื่อเตรียมการและเป็นเกราะป้องกันตัว และไม่ฟ้องร้องใคร ขอย้ำว่า "ไม่มีแนวคิด ที่จะร่วมลงทุนอะไรแบบนี้ มีอยู่อย่างเดียว คือทำสนามม้า"


>> ไฟไหม้ห้องพัก ในโรงงานผลิตท่อพลาสติกและอุปกรณ์ ย่านกระทุ่มแบน จนท.พร้อมรถดับเพลิง ระดมใช้หัวฉีดน้ำสกัดเพลิง

14.00 น. อาสาบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงาน ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลแคราย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุ ลักษณะซึ่งเป็นโรงงานผลิตท่อพลาสติกและอุปกรณ์สำหรับระบบประปา และร้อยสายไฟ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลแคราย พร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียง มูลนิธิ และอาสาสมัคร จึงได้นำรถดับเพลิง และรถบรรทุกน้ำ จำนวนกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ โดยเพลิงได้ลุกไหม้กองเศษพลาสติกขนาดใหญ่ภายนอกโรงงาน และที่พักคนงานทำให้เกิดความเสียหายทั้งหมดซึ่งใช้เวลาประมาณ 50 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าเห็นไฟได้ลุกไหม้บริเวณห้องพักของคนงานต่างด้าวแล้วก็ลุกลามไปยังห้องอื่น ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป


>> ตร.ทางหลวง ยึดรถยนต์ตู้ทึบขนรถจักรยานยนต์ไม่ทราบแหล่งที่มา เชื่ออาจโดยขโมย

14.43 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ตรวจยึดสิ่งของจากชาย อายุ 20 ปี หลังพบเป็นรถยนต์ที่ต้องสงสัยว่า รถจักรยานยนต์ที่บรรทุกอาจได้มาหรือมีไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยตรวจยึดที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 359 หลักกิโลเมตรที่ 24-25 ถ.สระแก้ว-เขาหินซ้อน ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

หลังตำรวจทางหลวงตั้งด่านตรวจ บริเวณถนนทางหลวง หลักกิโลเมตรที่ 24-25 ถ.สระแก้ว-เขาหินซ้อน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว พบรถยนต์ มีตู้ด้านหลัง มีลักษณะบรรทุกสิ่งของหนักผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเรียกสอบถาม พบคนขับต้องสงสัยจึงขอตรวจสอบภายในรถยนต์ และตู้ทึบหลังกระบะ ซึ่งจากการตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ บรรทุกมาจำนวน 7 คัน

จากการสอบสวนคนขับให้การว่า กำลังจะนำรถจักรยานยนต์ไปส่งที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังไม่ทราบสถานที่ส่งอย่างแน่ชัด เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด จึงได้นำรถยนต์ฯ และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาตรวจสอบ 
และจากการสอบถามคำให้การ ผู้ต้องหา รับสารภาพเพิ่มเติมว่า มาจากหอพักย่านมีนบุรี จะไปส่งแถวอรัญประเทศจะมีคนบอกจุดส่งอีกทีทางโทรศัพท์ โดยตนเป็นเพียงคนรับจ้างขนส่งเท่านั้น


>> "กัน จอมพลัง" พร้อมตำรวจบุกบ้าน "เม้ง โอริโอ้" ตัวการด่า-ดูถูกคนอีสาน

15.30 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด นำกำลังไปที่บ้านของ นายเผือก หรือ เม้ง หรือ เจมส์ ภายในซอยพุทธบูชา 39 เขตจอมทอง กรุงเทพฯ

จากการตรวจสอบ ที่พักมีลักษณะเป็นห้องเช่าหลังตลาดนัด แต่ไม่พบตัว นายเม้ง ทาง "กัน จอมพลัง" จึงติดต่อโทรศัพท์ไปหาแม่ของ นายเม้ง โดยแม่ของนายเม้งบอกว่า เม้งหายออกไปจากบ้านตั้งแต่เกิดเรื่องและไม่กลับมาที่บ้านเป็นอาทิตย์แล้ว ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าลูกมีพฤติกรรมนิสัยแบบนี้ มาทราบอีกทีก็คือที่เป็นข่าว ว่าลูกชายตัวเองมีการไปด่าดูถูกเหยียดหยามคนอีสานด่า กัน จอมพลัง และด่า พี่หนุ่ม กรรชัย ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย เป้าหมายภารกิจแรกคืออยากมาเยี่ยมบ้าน นายเม้ง ที่ด่าดูถูกชาวอีสาน พร้อมด่าตนและพี่หนุ่ม กรรชัย ด้วย ซึ่งพอเดินทางมาถึงตนได้คุยกับแม่ ก็รู้สึกสงสารแม่ของเม้งมาก เพราะต้องทำงานหาเงิน เพียงลำพังโดยที่ นายเม้ง ลูกชายไม่เคยช่วยเหลือเลย

ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึงแก๊งโอริโอ้ ว่าสิ่งที่พวกคุณทำกับคนอื่น ค้นทะเบียนราษฎร์ ตามไปยันบ้าน ไม่ใช่แค่พวกคุณที่ทำได้ ผมก็ทำได้ แต่ผมแยกแยะออก ผมรู้แม้กระทั่งว่า พ่อของบางคนมีคดีร้ายแรงอยู่ด้วย แต่ผมไม่อยากยุ่งเพราะผมแยกแยะออก ระหว่างการกระทำของตัวเด็กกับผู้ปกครอง โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปบ้านแก๊งโอริโอ้รายอื่นๆ ต่อไป


>> ตำรวจท่องเที่ยว จับไกด์เถื่อน ชาวจีน พานักท่องเที่ยวทัวร์รอบวัดพระแก้ว-ท่าช้าง

18.07 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน กองกำกับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดปฏิบัติการ สืบสวนหาข่าว แกะรอย เฝ้าติดตามพฤติกรรม ของชาวต่างชาติแอบลักลอบทำงาน โดยทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยวให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาติเดียวกัน แย่งอาชีพคนไทย ตามเรื่องร้องเรียนของกลุ่มมัคคุเทศก์คนไทย โดยที่อาชีพมัคคุเทศก์เป็นอาชีพสงวนให้กับคนไทยเท่านั้น โดยถือเป็นมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่างชาติลักลอบทำงานผิดกฎหมาย และเตรียมความพร้อมดำเนินการป้องกันเหตุและดูแลความปลอดภัยเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ในช่วง High season

กระทั่ง ตำรวจท่องเที่ยว สืบสวนหาข่าว เฝ้าติดตามเพื่อดูพฤติกรรมชาวต่างชาติ ลักลอบทำงาน และกระทำความผิดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยพบชายชาวต่างชาติ แอบลักลอบทำหน้าที่มัคคุเทศก์ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว บริเวณวัดพระแก้วและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ และจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์จากนายทะเบียนฯ ตามมาตรา 86 ประกอบ มาตรา 49” แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวฯ , เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” (ทำงานมัคคุเทศก์) ตาม พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> รถกระบะ 2 คันชนกัน ถนนสายเอเชีย (ทล.41) ใกล้แยกสำราญรมย์ ผู้บาดเจ็บหลายราย อาสากู้ชีพ-กู้ภัยช่วยเหลือนำส่ง รพ.

22.40 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยสายชลชุมพร มีเหตุรถกระบะ 2 คันชนกันและมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนสายเอเชีย (ทล.41) บริเวณใกล้เคียงแยกสำราญรมย์ ในพื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร

ที่เกิดเหตุ พบกระบะ โตโยต้า สีทอง ป้ายทะเบียน ชุมพร ลักษณะตกอยู่ร่องกลางถนน สภาพรถพังเสียหาย และห่างออกไป พบรถกระบะ โตโยต้า สีขาว ลักษณะตกข้างทาง จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นผู้หญิงรวม 7 ราย ทางอาสาสมัครและรถกู้ชีพในระบบการแพทย์ฉุกเฉินช่วยการลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ แพทย์รับดำเนินการดูแลรักษา ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ต่อไป


>> รถจักรยานยนต์คว่ำลงข้างทาง มีผู้เสียชีวิตใต้ต้นไม้

00.20 น. รับแจ้งจากอาสากู้ภัยกกไทร มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนบ้านห้วยด่านเหนือ ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ป้ายทะเบียน เพชรบูรณ์ ลักษณะล้มคว่ำ ใกล้กันใต้ต้นไม้ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 20 - 25 ปี และบาดเจ็บ 1 รายอาการไม่สาหัส กู้ภัยช่วยเหลือปฐมพยาบาล ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก


>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถตู้มีผู้เสียชีวิต

02.37 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถตู้ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 2 ราย อาสากู้ภัยกำลังช่วยเหลือและประสานรถกู้ชีพมาร่วมดำเนินการ บนถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ใกล้เคียงทางเข้าคลังสินค้า WHA รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ พื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 1580 ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุประมาณ 20 - 25 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บมอบให้รถกู้ชีพดำเนินการ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี  


>>  รถจักรยานยนต์เสียหลักชนขอบทางแล้วพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต

05.25 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตี๊ง มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตชาย 1 คน ถนนราชพฤกษ์ ขาออกมุ่งหน้าถนนเพชรเกษม ใกล้เคียงสถานีบีทีเอสบางหว้า ขวางเลนขวา  

อาสา ม.ป่อเต็กตึ๊ง จุดบางขุนเทียน ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอนแม็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน 4638 กทม. ลักษณะชนขอบทางแล้วพลิกคว่ำ เบื้องต้น เป็นชาย อายุ ประมาณ 20 ปี มีแผลที่ศีรษะ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ