24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568

>> ไฟไหม้กุฎิวัดเก่า อายุนับ 100 ปี เสียหายวอดทั้งหลัง หน่วยพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาสาเหตุ คาดไฟฟ้าลัดวงจร

06.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธาตุพนม รับแจ้งเหตุมีไฟไหม้กุฏิพระ ภายในวัดศรีบุญเรือง หมู่ 8 ต.นาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลตำบลนาหนาด รวมถึง เจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง ระดมรถน้ำ เข้าควบคุมเหตุ พร้อมรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังโหมลุกไหม้ กุฏิพระ หลังใหญ่ แบบยกสูง ครึ่งปูนครึ่งไม้ อายุเก่าแก่นับ 100 ปี ทำให้ไม้เก่า เป็นเชื้อเพลิงลุกไหม้จากชั้นบนรวดเร็ว ต้องระดมรถน้ำดับเพลิงนานนับชั่วโมง จึงควบคุมเหตุได้ แต่สภาพเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ เก็บหลักฐาน พร้อมประสาน กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ เก็บหลักฐานหาสาเหตุ โดยละเอียด

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า กุฏิพระ หลังดังกล่าว ชั้นบนเป็นที่นอนของพระภิกษุสงฆ์ ส่วนชั้นล่างใช้เป็นที่เก็บของ เครื่องครัวของวัด พบว่าไฟลุกไหม้จากชั้นบน ไม่ทราบสาเหตุ สันนิษฐานเบื้องต้น คาดว่าจะเกิดจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเป็นกุฏิพระ หลังเก่า ทั้งนี้จะได้เร่งตรวจสอบ หาสาเหตุประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> รถกระบะชนท้ายรถพ่วงจอดริมทาง มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และเด็กน้อย 2 รายเจ็บสาหัส

07.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ตรวจสอบหลังจากที่ได้รับแจ้งมีรถกระบะชนท้ายรถบรรทุกพ่วงที่จอดริมทาง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดบริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 345 ก่อนถึงต่างระดับ 345 ตัดถนนกาญจนาภิเษก ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบกระบะ 4 ประตูยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีทอง ทะเบียน นนทบุรี ที่กระบะท้ายบรรทุกผักสดจำนวนมาก ในรถพบผู้เสียชีวิตคือ ผู้ชาย อายุ 63 ปี เป็นคนขับ (พี่ชาย), ผู้หญิง อายุ 55 ปี (น้องสาว) นั่งที่เบาะด้านซ้ายร่างถูกอัดติดอยู่ในซากรถ และข้างรถยังพบร่างอีกราย เป็นผู้หญิง อายุ 33 ปี (หลานสาว) รวมทั้งหมด 3 รายเสียชีวิต ขณะเดียวกันยังมีผู้บาดเจ็บเป็นเด็ก 2 ราย เป็นเด็กชายวัย 1 ปีเศษ และเด็กหญิงวัย 6 ปี กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ใกล้กัน พบรถพ่วง 22 ล้อ บรรทุกท่อซีเม็นต์ ที่จอดอยู่ริมทาง

จากการสอบถามข้อมูลจากทางญาติทราบว่าผู้เสียชีวิต มีอาชีพขายข้าวแกง ก่อนเกิดเหตุได้ไปซื้อของประเภทผักสดที่ตลาดไท เพื่อนำมาทำเป็นข้าวแกงขายอยู่ในโรงงานย่านบางบัวทอง โดยครอบครัวผู้เสียชีวิตจะต้องเดินทางไปซื้อผักสดทุกวันอาทิตย์เป็นประจำ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำคนขับรถบรรทุกพ่วงไว้ ซึ่งเหตุการณ์นี้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ โดยสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดหลับใน ทำให้รถพุ่งไปชนท้ายรถบรรทุกพ่วงที่จอดอยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนที่จะมอบร่างให้ทางญาติรับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

>> ชาวบ้าน ออกหาขุดปูนา พบรถเก๋งหน้าชนเข้ากำแพงปูนร่องระบายน้ำ คนขับเสียชีวิตในซากรถ

10.00 น. ได้รับแจ้งจาก กู้ภัยประจิมบรบือ มีอุบัติเหตรถยนต์เสียหลักลงข้างทาง และมีผู้เสียชีวิตในรถ ที่ถนนช่วงบ้านหนองหญ้าปล้อง ในพื้นที่ ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม

ที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งโตโยต้า สีเขียว ป้ายทะเบียน กทม. จอดอยู่ปากทางร่องระบายน้ำต่ำกว่าถนนประมาณ 2 เมตร ด้านหน้ารถพังยับเยิน และห่างออกไป พบว่ามีร่องรอยการเฉี่ยวชนร้านขายมันแกวริมถนน และต้นไม้ริมทาง

ตรวจสอบภายในรถ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 56 ปี ตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน อ.นาเชือก เสียชีวิตอยู่ในรถ แพทย์เวรได้ชันสูตร คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ชม.

ชาวบ้าน เล่าว่า ได้ออกมาขุดหาปู ที่นาแถวนี้เลยหันมาเห็นรถตกถนน เพราะร่องถนนนี้ต่ำกว่าถนน 2 เมตร ถ้ามองจากถนนลงมาจะมองไม่เห็นรถคันดังกล่าว จึงได้โทรแจ้งให้กู้ภัยออกมาตรวจสอบ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรบือ

>> ตามรวบถึงหน้าบ้าน 2 อินฟลูฯ สายแร็ป โพสต์ขายยาทางออนไลน์

11.00 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาย 2ราย ผิดฐาน “โฆษณายาเสพติดให้โทษโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดของกลาง คือ ซองบรรจุผงคล้ายยาเสพติด, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และ สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในชุมชนข้างโรงปูน ถ.รามอินทรา 40 กรุงเทพ

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีบัญชี X (ทวิตเตอร์) โพสต์โฆษณาประกาศขายยาเสพติดผ่านทางออนไลน์ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนสามารถระบุตัวเจ้าของบัญชี X ที่โพสต์โฆษณาประกาศขายยาเสพติดผ่านทางออนไลน์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิด โดยพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในชุมชนข้างโรงปูน ถ.รามอินทรา 40 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญา ลงวันที่ 27 มกราคม 2568 เข้าค้นบ้านพักหลังดังกล่าว 
โดยขณะเข้าตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย พร้อมสามารถยึดโทรศัพท์มือถือ ยาเสพติด และบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวได้ จากนั้นจึงได้ทำการนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.โคกคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

>> รถพลิกคว่ำลงข้างทาง ริมถนนสายเอเชีย (ทล.41) พ่อ - แม่ - ลูกชายเสียชีวิต ส่วนลูกสาวเจ็บหนัก กู้ภัยเร่งนำส่ง รพ.

12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถยนต์พลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ริมถนนสายเอเชีย (ทล. 41) ขาขึ้น กทม. ในพื้นที่ ต.วิสัยใต้ (ควนขนุน) อ.สวี จ.ชุมพร

ที่เกิดเหตุ พบรถอเนกประสงค์ ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ข้างทาง สภาพรถเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิตติดค้างภายในรถ จำนวน 3 ราย เป็นชายไทย อายุ 40 - 45 ปี, หญิงไทย อายุประมาณ 30 - 40 ปี และ เด็กชาย อายุประมาณ 4 ปี และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นเด็กหญิง อายุ 8 ปี ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือและนำส่ง รพ.สวี ทราบว่า ทั้งหมดเป็นพ่อ แม่และลูกกัน ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริง ทางเจ้าหน้าที่ จะตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อให้แน่ชัดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

>> ไฟไหม้บนอาคาร พ่อตะโกนบอกลูกทั้ง 3 คนให้หนีขึ้นชั้นดาดฟ้า แต่ไม่ได้ตามออกมา ก่อน จนท.จะพบร่างเสียชีวิตในกองเพลิง

13.05 น. จนท.ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ริมถนนสายลำปาง - แม่ทะ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง

ในที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น 4 คูหา ด้านล่างให้เช่าเปิดเป็นร้านจำหน่ายสินค้า ส่วนด้านบน เป็นที่พักอาศัยของเจ้าของตึก โดยไฟลุกไหม้ขึ้นมาจากอาคารชั้น 2 ของตึกคูหาแรก เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงหลายคัน จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำดับเพลิงกันอย่างเร่งด่วน เพื่อควบคุมไม่ให้ลุกลามไปยังคูหาข้างเคียง

และบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร พบประชาชน 3 ราย เป็นชาย 2 คน หญิง 1คน ยืนร้องขอความช่วยเหลือ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าไปให้ความช่วยเหลือนำลงจากตึกอีกฝั่ง ปลอดภัยทั้ง 3 คน และทราบว่ายังมีผู้สูญหาย เป็นผู้ชาย 1ราย

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดับเพลิงภายในอาคาร และติดตามหาตัวผู้สูญหายต่อเนื่อง ผ่านไปกว่า 2 ชม. จนกระทั่งพบร่างของเสียชีวิต เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 52 ปี อยู่ในชั้น 2 เบื้องต้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิต เป็นคุณพ่อ โดยเด็กๆ เล่าว่า พ่อบอกให้วิ่งหนีขึ้นดาดฟ้าขอความช่วยเหลือ จากนั้นได้ยินเสียงพ่อร้องโอ๊ย และไม่ได้ตามออกมาอีกเลย 
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง อย่างละเอียดต่อไป

>> รวบตัวการใหญ่ จ้างวานคนไทยวางจุด SIM BOX เอื้อ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”

14.30 น. จากกรณีก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายในพื้นที่ ตรัง สมุทรปราการ และ อุบลราชธานี ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก นับ 10 คน ตำรวจสืบสวนขยายผลจนรู้ว่าเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ มีการกระจายสัญญาณมาจากย่านรามคำแหง จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพัก อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง พบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด หรือ SIM box 15 เครื่อง มีการลักลอบใช้เสาสัญญาณในไทย พร้อมจับกุมผู้ร่วมกระบวนคนไทย 4 ราย

ล่าสุดวันนี้ ตำรวจกองบังคับการสืบสวน ภาค 1 นำกำลังเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาชายต่างชาติ 1 ราย ตามหมายศาลจังหวัดพระประแดง ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน“ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และ เครื่องบันทึกวงจรปิด 2 เครื่อง ที่คอนโดหรูย่านห้วยขวาง

ภายหลังจากตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ คือผู้จ้างวานคนไทย ทั้ง 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ให้เปิดห้องพักเพื่อนำ SIM box เข้าไปติดตั้งสัญญาณ โดยจะได้เงินค่าจ้างการเปิดห้องครั้งละ 100,000 บาท โดยชาวต่างชาติรายนี้ ให้การอีกว่า รู้จักกับผู้ต้องหา 1 ใน 4 ในเรือนจำ เนื่องจากตัวเองเคยต้องโทษในประเทศไทย จากนั้นเมื่อพ้นโทษออกมาก็ติดต่อกันมาตลอด

สำหรับ ชาวต่างชาติรายนี้ ถือเป็นตัวการใหญ่ของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เคยทำงานเป็นผู้คุมพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายสัญชาติที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งไต้หวัน จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และ ไทย และมีประวัติคดีฉ้อโกง (บัญชีม้า, call center) และถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงทีไต้หวัน เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2568 และเคยถูกดำเนินคดี ร่วมกันฉ้อโกง ปลอมบัตรเครดิต ศาลพิพากษา จำคุก เรือนจำคลองเปรม 10 ปี พ้นโทษมาเมื่อปี 2563

>> กองทัพเรือ สั่งปิด "เกาะจวง" หลังพบร่องรอยนักท่องเที่ยวแอบลักลอบขึ้นเกาะ ทิ้งขยะจำนวนมาก

15.16 น. พลเรือโทวัชระ พัฒนรัฐ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้ปิดเกาะจวง ซึ่งเป็น 1 ใน 9 เกาะของหมู่เกาะแสมสาร ตั้งอยู่ในเขต ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อยู่ในการดูแลรับผิดชอบของกองทัพเรือ เป็นเขตหวงห้ามที่ไม่อนุญาตให้ประชาชนขึ้นไปใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นเกาะที่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ซึ่งหลังจากที่ทางด้านผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ พบหลักฐานร่องรอยนักท่องเที่ยวลักลอบขึ้นเกาะจำนวนมาก โดยขึ้นจากเรือมาพักผ่อนหย่อนใจบนพื้นที่ชายหาด เล่นน้ำ และดำน้ำ ส่งผลให้พื้นที่บริเวณชายหาดเต็มไปด้วยขยะมูลฝอยจำนวนมาก ตลอดจนบนเกาะไม่มีห้องน้ำ นักท่องเที่ยวยังได้ใช้พื้นที่ทางธรรมชาติขับถ่าย สร้างความเสียหาย พื้นที่เสื่อมโทรมเป็นวงกว้างต่อธรรมชาติทางทะเล

โดย พลเรือโทวัชระ กล่าวว่า หลังได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา และนักท่องเที่ยว ถึงภาพลักษณ์และทัศนียภาพบนพื้นที่เกาะจวง ที่ตรวจพบขยะ ขวดพลาสติก และสิ่งปฏิกูลจำนวนมาก สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ จึงได้สั่งการให้ นาวาเอกอธิคม เลาหะกุล ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ประสานการปฏิบัติไปยัง นาวาเอกไกรภพ ศรีรัตน์ ผู้บังคับการกรมก่อสร้างและพัฒนา ฐานทัพเรือสัตหีบ ให้แจ้งชมรมดำน้ำต่างๆ และประชาสัมพันธ์ไม่ให้ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว นำนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 68 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ได้มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ประกาศบนพื้นที่เกาะ ระบุว่า "เกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่สงวนห้ามของกองทัพเรือ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร พ.ศ. 2478 และเป็นสนามฝึกยิงอาวุธด้วยกระสุนจริง มีวัตถุอันตรายตกค้างในพื้นที่ ห้ามผู้ใดเข้ามาในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต หากได้รับอันตรายจากการฝ่าฝืน กองทัพเรือจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อผู้ที่ฝ่าฝืนระเบียบ"

>> รถตู้ ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล มีผู้บาดเจ็บ 10 กว่าราย อาสากู้ภัยเร่งนำส่ง รพ.

16.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ถนนภายในซอยวัดถั่วทอง ใกล้เคียงหมู่บ้านบัวแก้ว ในพื้นที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า วีออส สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับ รถตู้ โตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 13 ราย เป็นชาย 5 รายและเป็นหญิง 8 ราย ทางอาสากู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ปทุมธานี, รพ.สามโคก และ รพ.กรุงสยามฯ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

21.18 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.3 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 56 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

>> ไฟไหม้เพิงพัก ใกล้เคียงซอยบรมราชชนนี 119 เสียหาบยวอดทั้งหลัง

23.47 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือน สถานที่เกิดเหตุ เป็นโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ไม่มีเลขที่ ใกล้เคียงซอยบรมราชชนนี 119 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักโครงสร้างไม้หลังคาสังกะสี ประกอบกิจการที่พักอาศัยและเก็บวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ต้นเพลิงเกิดภายในเพิงพัก เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 40 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทวีวัฒนา

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา    

02.44 น. รับแจ้งจาก กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.0 ความลึก 8 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไป ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 206 กม. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย

>>  รถกระบะเสียหลักชนขอบทาง ใกล้เสาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ถนนเสมาฟ้าคราม มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บหลายราย จ.ปทุมธานี

03.26 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เบื้องต้นมีอุบัติเหตุ ถนนเสมาฟ้าคราม ใกล้เคียงหมู่บ้านบุศรินทร์ รถกระบะชนขอบทาง มีทั้งผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บอีกหลายราย อาสากู้ภัยกำลังช่วยเหลือ ในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุ เป็นรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนขอบทาง ใกล้เสาซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ของเทศบาลเมืองลำสามแก้ว เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 17 ปี และ อายุ 20 ปี และบาดเจ็บอีก 4 ราย (มีอาการสาหัส 3 ราย) ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต