24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 3 มกราคม 2568

>> นายกฯ เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระสังฆราชฯ เนื่องในวันปีใหม่ 2568

09.30 น. ณ พระตำหนักอรุณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ 2568

นายกรัฐมนตรีและคู่สมรส ได้วางพวงมาลัยถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณข้างอุโบสถ จากนั้น เดินทางไปยังอาคารสัมฤทธิ์วิทยากร เพื่อกราบสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยนายกรัฐมนตรีและคู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ภายหลังเข้าเฝ้าฯ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2568 ให้มีสุขภาพแข็งแรง และขอให้ทำงานรักษาความสงบสุขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ตรงกับความตั้งใจของตนเองที่อยากให้ประเทศชาติสงบสุข ซึ่งหลังจากทรงประพรมน้ำมนต์ให้ก็รู้สึกสบายใจ และอยากให้สื่อมวลชนไปรับด้วย เพราะปีนี้จะต้องทำงานหนักไปด้วยกัน

>> รถนั่งส่วนบุคคลชนคนข้ามถนน ผู้เสียชีวิตเป็นคุณยายวัย 70 กว่าปี

10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคาน รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนคนข้ามถนน และมีผู้เสียชีวิต กลางถนนเส้นทาง เลย - เชียงคาน บริเวณใกล้เคียงโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ในพื้นที่ ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า ซีวิค สีทอง ลักษณะชนคนข้ามถนน และใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นผู้หญิง อายุ 76 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

>> คนร้ายลอบวางระเบิด ซุกป้ายหยุดตรวจ ตำรวจสายบุรี ตั้งด่านเจ็บ 6 นาย จ.ปัตตานี

10.30 น. เจ้าหน้าที่เฉพาะกิจทหารพรานที่ 44 ได้รับแจ้งเหตุ ระเบิดบริเวณถนนทางหลวงสาย42 ปัตตานี-สายบุรี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.สายบุรี ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด่านตรวจ บนเส้นทางหลวง 42 หน้าโรงเรียนบ้านกะลาพอ ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นาย เบื้องต้นถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี

จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้นำระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ไปซุกซ่อนไว้บริเวณที่เก็บแบตเตอรรี่ป้ายหยุดตรวจ ในขณะที่ตำรวจจารจรตั้งด่านตรวจจราจรบริเวนดังกล่าว จนกระทั่งได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น จนทำให้ จนท.ตำรวจได้รับบาดเจ็บ รายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป

>> หญิงเมียนมาใช้มีดแทงลูกชายดับ ซอยอ่อนนุช 86 พยานเผยมีอาการจิตเวช ทะเลาแฟนบ่อยครั้ง

11.25 น พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เข้าตรวจสอบเหตุแม่ชาวเมียนมาใช้อาวุธมีดแทงลูกชายเสียชีวิต แล้วทำร้ายตัวเองบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณพักคนงาน ซอยอ่อนนุช 86 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช. อายุ 4 เดือน ข้างกันพบผู้ก่อเหตุหญิงอายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา มีบาดแผลตามร่างกาย 3 แห่ง สอบถามพยานเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิต ทะเลาะกันกับแฟนอยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้ามีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายลูกและตนเองมา 1 ครััง และเมื่อสอบถามจากลูกสาวที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติมว่าแม่มีอาการน้อยใจพ่อ ขณะที่นายจ้างให้การว่าสามีเมาสุราอยู่บ่อยครั้งและทะเลาะกับเมีย แต่จากการสอบปากคำสามีของผู้ก่อเหตุยืนยันว่าไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นทำร้ายร่างกายแค่มีปากเสียงกันบ้างเท่านั้น อาจจะเพราะเมียป่วยมีอาการทางจิตจากความเครียดจึงก่อเหตุดังกล่าว

ด้านพ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสิรินธร ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสน.ประเวศ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนจะเร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียด และนำร่างเด็กส่งให้แพทย์นิติเวชรพ.ตร.ชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง

>> 7 วัน ช่วงเฝ้าระวังปีใหม่ กทม. เชียงใหม่ ยอดเมาขับแรงไม่แผ่ว ขับซิ่งโดนด้วย ศาลสั่งคุมประพฤติ ยอดติด EM สะสม 39 ราย

11.36 น. พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีคุมประพฤติต้อนรับปีใหม่ 2568 โดยวันที่ 2 มกราคม 2568 มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติรวมทั้งสิ้น 969 คดี โดยเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 891 คดี และคดีขับเสพ 76 คดี ขับซื่ง 2 คดี

สรุปยอดสะสม 7 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 มีคดีคุมประพฤติรวม 6,556 คดี ยอดติด EM สะสม 39 ราย คดีขับรถขณะเมาสุรา 6,317 คดี ติด EM 37 ราย, คดีขับเสพ 233 คดี ติด EM 2 ราย, คดีขับรถประมาท 4 คดี, คดีขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 คดี, จังหวัดที่มียอดสะสมคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (468 คดี) เชียงใหม่ (424 คดี) และนนทบุรี (341 คดี)

พันตำรวจตรี สุริยา เปิดเผยว่า สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสกลนคร และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการตามคำสั่งศาลติดอุปกรณ์ EM ให้กับผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับและขับเสพ จำนวน 6 ราย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งในบางรายมีการกระทำผิดซ้ำ ศาลจึงเพิ่มเงื่อนไขโดยให้พักใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 6 เดือน นอกจากนี้ ศาลได้สั่งคุมความประพฤติกรณีขับซิ่ง จำนวน 2 ราย (ขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น) โดยผู้ถูกคุมความประพฤติต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด

>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ บาดเจ็บหญิง 2 รายอาการสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.ด้วยกันทั้งคู่

11.44 น. รับแจ้งจากอาสากู้ภัย ฮุก 31 จุดห้วยแถลง มีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนทางข้ามทางรถไฟ ต.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 8644 ลักษณะชนกับรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบีนย 8435 บุรีรัมย์ ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายมีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ห้วยแถลง ก่อนจะได้รับแจ้งว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 50 ปี และอายุ 62 ปี  ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยแถลง

>> “จิรายุ ” ย้ำอีกรอบ เงินหมื่น เฟสสอง มาแน่ตรุษจีนนี้

12.45 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ให้ผู้ใช้แรงงานมีรายได้อย่างเพียงพอต่อการดำรงชีพและสามารถดูแลครอบครัวได้ โดยเฉพาะเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำต้องสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และค่าครองชีพในปัจจุบันอย่างเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ จะทำให้ลูกจ้างมีกำลังใจในการทำงานซึ่งจะส่งผลต่อเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการที่จะมีการเติบโตในธุรกิจมากขึ้นจากพละกำลังของลูกจ้าง ทำให้มีพละกำลังในการดำรงชีวิตมากขึ้น

“รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำที่เหมาะสมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่ม ขึ้นวันละ 7 บาท ถึง 55 บาท เป็นอัตราวันละ 337 ถึง 400 บาท และกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดนำร่อง ส่วนจังหวัดอื่น ๆ จะทยอยปรับตามต่อไป ทั้งนี้ การปรับค่าแรงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นโดยการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐที่มีสัญชาติไทย อายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งจะจ่ายเงินแก่กลุ่มเป้าหมายจำนวน 10,000 บาทต่อคน โดยรัฐบาลกำหนดจ่ายเงินครั้งแรกภายในเดือนมกราคมนี้ ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่เคยลงทะเบียนไว้แล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันในโครงการนี้ว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนมกราคมนี้อย่างแน่นอน

>> รถแท็กซี่ ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ เสียชีวิตกลางถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ

15.30 น. สภ.บางพลี ได้รับแจ้งเหตุ รถแท็กซี่ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ถนนคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าถนนสุขุมวิท ช่วงคลอง 1 หมู่ที่ 14 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ ที่เลนขวา พบรถแท็กซี่ระบบไฟฟ้า สีขาว ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพหน้ารถแท็กซี่พังยับเยิน ที่กระจะหน้าแตกเป็นวงกลม ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีขาว - แดง ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพ ด้านหน้าถูกชนพังยับ จนตัวถังงอเข้ามา ชิ้นส่วนแตกกระจายเต็มถนน และยังพบอุปกรณ์ตกปลา และถุงปลา นิล ตกกระจายเต็มถนน และพบว่าผู้ขับขี่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นายไผ่ทิพย์ อายุ 34 ปี สภาพนอนหงาย แขน ขา หัก

คนขับรถแท็กซี่ เล่าว่าตนเองขับรถแท็กซี่มาตามทางปกติ ในเลนขวา จะออกไปทางถนนสุขุมวิทเพื่อมุ่งหน้าไปที่ สถานีรถไฟฟ้า ที่ตนเองจอดอยู่ พอถึงที่เกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ ของผู้เสียชีวิต ขับขี่ออกมาจากเลนซ้ายออกมาเลนขวาพุ่งตนมาหาตน ตนเองหลบไม่ทัน ชนประสานงาเข้าอย่างแรงจนรถจักรกระยานยนต์และคนขับขี่กระเด็นไปคนละทาง ตนจึงจอดรถและลงมาดูและโทรแจ้งรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ร.ต.ท.ธนกิจ แก่นอินทร์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บางพลี หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้มอบผู้เสียชีวิตให้มูลนิธิป่อเต็กตึ้งส่งชันสูตร ที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ พร้อมทั้งเชิญตัวผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก เสียชีวิตเป็นหญิงชาวเมียนมา 2 ราย

16.30 น. รับแจ้งจากสมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้อุตรดิตถ์ มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ภายในซอยเข้าหมู่บ้าน ซอย 8 ม.11 ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ป้ายทะเบียน 523 อุตรดิตถ์ ลักษณะเสียหลักชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน 3675 อุตรดิตถ์ ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงชาวเมียนมา อายุ 30 - 40 ปี และ อายุ 18 - 20 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตรอน

>> ไฟไหม้บ้านพักครู ข้างวิทยาลัยเทคนิคชุมแพ เจ้าหน้าที่พร้อมรถน้ำเข้าควบคุมเพลิงได้ทัน

17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพักครู ข้างวิทยาลัยเทคนิคชุมแพ ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัย และรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชุมแพ จำนวน 4 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักครู ลักษณะบ้านแฝด 2 ชั้นทำจากปูนมีสภาพเก่า ปลูกติดกัน 10 กว่าหลัง ที่ห้องต้นเพลิง พบว่าไฟกำลังลุกไหม้จากชั้นบนลุกลามติดห้องข้างเคียง เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำดับเพลิงสกัดใช้เวลากว่า 30 นาที สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบตัวอาคารหลังคาถูกเพลิงไหม้ ข้าวของเครื่องใช้ห้องต้นเพลิงถูกไฟไหม้เสียหาย รวมถึงห้องข้างเคียง

จากการสอบถามครูที่พักอาศัยห้องข้างเคียงที่เกิดเหตุ ระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังจากชั้น 2 ก่อนพบว่ามีควันไฟและเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้โทรแจ้งตำรวจและดับเพลิง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

>> ตร.สายไหม เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาท ถูกช่างซ่อมรถ จยย. รัวยิงเสียชีวิต ตะโกนถาม “มึงใหญ่หรอ”

20.00 น. สน.สายไหมรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านตัดผม ใกล้เคียง รพ.สายไหม เชิงสะพานเฉลิมพงศ์ ถนนเฉลิมพงศ์ แขวงและเขตสายไหม กทม.

ที่เกิดเหตุอยู่บรเวณหน้าร้านตัดผมชายแห่งหนึ่ง บริเวณหน้าร้าน พบร่าง ร.ต.ท. บรรรัง เกษาพร อายุ 55 ปี รอง สวป.สน.สายไหม ถูกอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงเข้าที่ท้ายทอย และบริเวณร่างกาย รวม 7 นัด หายใจรวยริน เจ้าหน้ากู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งรพ.สายไหมและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายอรรณณพ หรือช่างสันต์ ออเงิน อายุ 41 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถ จยย.

จาก การสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าขณะเกิดเหตุ ร.ต.ท.บรรรัง ซึ่งออกเวรแล้วได้มานั่งดื่มสุราที่บริเวณดังกล่าว ในลักษณะแต่งกายครึ่งท่อน จากนั้นได้มีชายต่างด้าวกับนาย อรรณพ ช่างซ่อมมอเตอร์ไซ มีการทะเลาะวิวาทกัน โดยชายต่างด้าวได้วิ่งมาขอความช่วยเหลือกับ ร.ต.ท.บรรรัง จากนั้น ร.ต.ท.บรรรัง จึงแสดงตัวว่าเป็นตำรวจเข้าระงับเหตุ จึงเป็นเหตุให้นาย อรรณพ ไม่พอใจ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน นายอรรณพ จึงกลับไปเอาอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่อยู่ในร้านซ่อม แล้วได้ขี่ จยย. มากระหน่ำยิงผู้ตาย จนหมดแม็ก 15 นัด พร้อมตะโกนด่าว่า “มึงใหญ่เหรอ” จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.สายไหม สามารถคุมตัวนายอรรณพ ผู้ก่อเหตุไว้ได้และได้นำตัวผู้ก่อเหตุ ไปสอบปากคำที่ สน.สายไหม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศ สปป.ลาว

21.37 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศลาว ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ บ้านน้ำช้าง ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ประมาณ 24 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย