เวลา 09.00 น.วันที่ 26 ธ.ค.67 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี มีการนัดสืบพยานจำเลย คดี น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวพลัดตกเรือสปีดโบ๊ท เสียชีวิต ซึ่งวันนี้เป็นการนัดสืบพยานของน.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก โดยมีทนายความของฝ่ายจำเลยเดินทางมา และน.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ส่วน จ๊อบ แซน และภีม ไม่ได้เดินทางมา

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม กล่าวว่า วันนี้เป็นการนัดสืบพยานของ กระติก และจะเหลืออีกนัดวันที่ 29 มกราคม 68 หลังจากนั้นก็จะฟังคำพิพากษา วันนี้จะเป็นการซักถาม กระติก ว่ามีส่วนร่วมให้การประมาททำให้แตงโม ตกเรือจนถึงแก่ความตายหรือไม่ ถ้ามีส่วนก็จะถูกลงโทษ ถ้าไม่มีส่วนร่วมศาลก็ยกฟ้อง เพราะกระติกมีบทบาทหลายเรื่องเพราะตอนเกิดเหตุกระติกก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวของแตงโมด้วย ประเด็นที่ 2 หลังเกิดเหตุกระติก ก็กลับมารอแตงโมที่บ้านคิดว่าแตงโม จะว่ายน้ำกลับมา ทำไม่ไม่รู้ว่าแตงโมตกน้ำลงไปในตำแหน่งไหน ทนายจำเลยในคดีนี้มีทั้งหมด 7 คน วันนี้น่าจะใช้เวลาสืบพยานจำเลยทั้งวัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีคนรื้อคดีใหม่ ทนายเดชา กล่าวว่า ได้สอบถามไปทางตำรวจ อัยการนนทบุรี ได้บอกว่าไม่สามารถรื้อคดีใหม่ได้ในแย่กฎหมาย ทางพนักงานอัยการสัางฟ้องทุกฐานความผิดก็ไม่สามารถรื้อคดีใหม่ได้ จะรื้อคดีได้ในกรณีที่สั่งไม่ฟ้อง และจำเลยในคดีนี้ขอรื้อ แต่ทางจำเลยคงไม่ขอรื้อหรอกเพราะเขาได้ประโยชน์ เมื่อวานนี่อาจารย์ ปรเมศ ได้ออกมาพูดแล้วว่าไม่มีช่องทางในการรื้อคดี และหมดที่อยู่คณะรื้อคดีของคุณอัจฉริยะ คือหมอพรทิพย์ วันนี้ตนได้เแาคำเบิกความของหมดพรทิพย์ มา ซึ่งเบิกความที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 67 คุณหมอเบิกเกี่ยวกับเรื่องการตายแตงโม ในคดีนี้ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ใครเป็นผู้กระทำ และสาเหตุของการตายข้าไม่สามารถให้ความเห็นได้ ข้าดูเพียงบาดแผล และข้าไม่สามารถให้ความเห็นได้เป็นเพียงผู้รวมชันสูตรพลิกศพ และหมอให้ความเห็นเชื่อว่าพลัดตกที่หัวเรือไม่ใช่บริเวณส่วนท้ายของเรือ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสำนวน ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้ความเห็นต่างกันได้ ซึ่งความเห็นของข้าอาจจะไม่ได้นับการยอมรับก็ได้ ตามที่เป็นข่าวมีหมอที่มีความเห็นว่าไม่ได้ตกท้ายเรือไม่ได้โดนใบพัดบาดไม่มีในสำนวน เท่าที่ดูจากคำเบิกความของหมอพรทิพย์ ครบถ้วน ซึ่งคุณหมอ มีความเห็นแตกต่างของแพทย์นิติเวช ร.พ.ตำรวจ และพนักงานสอบสวน หมายถึงคุณหมอมีความ้ห็นแตกต่าง จากหมอของตำรวจ

ทนายเดชา กล่าวว่า ผมได้คุยกับคุณอัจฉริยะแล้วว่า ถ้าทำได้หรือมีช่องทางใดก็ทำไป เท่าที่ทราบ อัยการสูงสุดก็ไม่มีอำนาจในการไปรื้อหรือแก้ฟ้อง เพราะถ้าแก้ฟ้องไป ตามที่อาจารย์ ปรเมศ กล่าว ก็จะทำให้จำเลยหลงต่อสู้และเสียเปรียบ จากเดินประมาณแก้ฟ้องเป็นเจตนา คดีนี้ก็แพ้เลย เท่ากับว่าไม่มีใครติดคุกเลย เท่าที่อาจารย์ ปรเมศ พูดถูกต้องที่สุด ส่วนตำรวจและอัยการ ไม่ประสงค์ที่จะแถลงข่าวเขาก็พูดให้ฟังว่าไม่มีช่องทางรื้อคดีมันจบแล้ว เท่าที่ทราบคุณอัจฉริยะ พึ่งชนะคดีหมิ่นประมาท พอเขาชนะก็ไปเอาคำพิพากษามาเป็นสารตั้งต้นในการรื้อคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า การรื้อคดีเป็นการเแาคืนตำรวจหรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า ตำรวจเขามองอย่างนั้นนะ แต่คุณอัจฉริยะ จะมองอย่สงนั้นหรือเปล่าไม่รู้ แต่ตำรวจก็มองอย่สงนั้นว่าจะเอาคืนเขา เพราะตำรวจไปดำเนินคดีกับคุณอัจฉริยะ 5-6 คดี ก็เลยเหมือนเป็นปฎิบัติการเอาคืนกันหรือเปล่า ผมอยู่ฝ่สยเดียวกับตำรวจก็ต้องมองเหมือนกันเพราะทำงานกับตำรงจมาตั้วแต่เริ่มต้น ผมอยู่ฝ่ายเดียวกับตำรวจกับอัยการ ก็มองเหมือนกัน ส่วนคุณแม่ ไม่ได้มีความกังวนหรือใครจะรื้อคดี คุณแม่ บอกเต็มทีเลย คุณแม่บอกกับผมว่าคุณอัจฉริยะ คุณแม่เคยใช้บริการแล้ว พยานหลักฐานที่คุณอัจฉริยะมี คุณแม่เคยเห็นแล้ว ก็เป็นชุดเดียวกัน ตั้งแต่ 25 กุมภาพันธ์ 65 ก็เป็นชุดเดียวกัน เพียงแต่คุณอัจฉริยะ ถูกตำรวจ 21 นาย ฟ้องที่ศาลอาญา แล้วคุณอัจฉริยะ ชนะคดี ก็เลยเอาหลักฐานเดิมมา คุณหมอศัลยกรรม ก็คนเดิมรู้จักกับผมดี ก็ขอให้รื้อสำเร็จ เป็นกำลังใจไม่ได้ขัดขวาง แต่ผมเชื่อมั่นในศาลจังหวัดนนทบุรี ท่านจะตัดสินอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของท่าน เพราะเหลือแค่นัดนี้และอีกนัดก็ตัดสินจบแล้ว

ทนาย พรศักดิ์ ทนายความของแซน กล่าวว่า วันนี้พยานเบิกความเป็นกระติก ในส่วนนี้จำเลยในคดีมี แซน จ๊อบ กระติก และภีม ในส่วนของแซน จ๊อบ เบิกความไปแล้ว แนวทางคดี ทนายจำเลยมีหน้าที่หักล้างพยานของโจทย์ ที่นำสืบมามีน้ำหนักไม่หน้าเชื่อถืออย่างไร ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลในการพิสูจน์พยานหลักฐาน ส่วนแซน มารับฟัง เพียงแต่ในทางคดี ได้ขอศาลพิจารณาคดีลับหลังซึ่ง แซนไม่ต้องมาก็ได้ จะมาในวันที่ศาลอ่านคำพิพากษา วันนี้จะมีกระติก กับ ภีม ที่จะมา ในทางคดีไม่มีอะไรน่ากังวนเพราะคดีมาถึงขนาดนี้แล้ว เพราะ 1 ปีกว่าที่ขึ้นศาลมาพร้อมกับทนายจำเลยท่านอื่น จนเหลือแค่ 2 นักสุดท้าย ไม่มีอะไรน่ากังวน เพราะพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนทำมาก็สอดคล้องตรงตามข้อเท็จจริงทุกอย่างตามที่พนักงานอัยการสัางฟ้อง 
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคนจะรื้อคดีใหม่ มีความคิดเห็นอย่สงไรบ้าง ทนายพรศักดิ์ กล่าวว่า ให้เป็นหน้าที่ของสือที่เขามีพยานหลักฐาน ที่เขาจะนำเสนอหรือที่คืดว่าม่อยู่ในสำนวน กฎหมายมีขั้นตอน ที่ทำได้ ถ้าจะทำเพื่อพิสูจน์ให้น้องแตงโม ก็ทำได้ ในส่วนคดีก็ทำในส่วนที่สั่งฟ้องมา ไม่ได้กังวน ถ้าทำแล้วพิสูจน์ได้ก็เป็นเรื่องดี

ต่อมาเวลา 10.00 น.นางภนิดา ศิริประยุทธโยธิน อายุ แม่แตงโม เดินทางมาศาลเพื่อร่วมรับฟังการสืบพยานจำเลย ไม่ได้ให้สัมภาษณ์

เวลา 11.30 น. แซน เดินทางมาศาลนนทบุรี กล่าวว่า ตนดูจากเจตนาที่ออกมา พยายามกล่าวหาพวกเราทุกคนบนเรือ รู้สึกยินดีจะได้กระจ่างสิ้นข้อสงสัย ถ้ามีหลักฐานช่วยนำมาให้พิจารณา ถ้าผิดเขาไม่เอาไว้ยุคนี้

แซน กล่าวว่า ที่เขาตัดคุณหมอออกจากการเป็นพยานในคดี ไม่ทราบว่าคุณหมอทำอะไรหรือมีหน้าที่เกี่ยวกับคดีนี้ตั้งแต่แรกคุณหมอถึงใช้คำว่าถูกตัด ไม่รู้สึกกังวนใจอะไร เพราะขบวนการมาถึงตรงนี้แล้ว ไม่อยากให้ล่าช้า เพราะกังวนไม่อยากให้ล่าช้าไปกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจบคดีแล้วจะฟ้องร้องใครหรือไม่ แซน กล่าวว่า ถ้าจบคดีแล้วก็ไม่อยากไปฟ้องร้องใคร แซนลงภาพกับสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีเจตนาอะไร

แซน กล่าวว่า มีเหตุผลอะไรไม่เชื่อนอกจากจะมาอ้างเรื่องแผล เพราะว่าแผล พวกเราบนเรือก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจาก แตงโม ตกลงไปในน้ำแล้วเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่สระที่มันไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้น เกิดอะไรหลังตกจากเรือ แต่แซน ทราบในส่วนที่ได้เล่าไปแล้วรองรับฟังและเปิดใจเชื่อดูบ้าง แย่ากล่าวหาแบบลอบๆ

แซน กว่าว่า ตนไม่ทราบเรื่องหลักฐานใหม่ ขอให้มีมาก่อนเปิดมาเลย ขนาดมากล่าวหาว่าตนพูดเท็จ ตอนแรกไม่คิดจะฟ้องพยายามมองว่าเขาออกมาวิจารณ์โดยสุจริต แต่อยู่มาฟ้องแซน ข้อหาหมื่นประมาท

อัยการ และศาลนนทบุรี ไม่ให้เลื่อนสืบพยานจำเลย คดีใกล้สิ้นสุดแล้ว

เวลา 12.00 น. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม กล่าวว่า วันนี้ ตนในฐานะทนายความของแม่แตงโม ก็ได้มาแถลงศาลขอเลื่อนคดี เพื่อที่จะรอว่าอัยการสูงสุด จะมีคำสั่งเรื่องรื้อฟื้นคดี เรื่องแก้ฟ้องอะไร ตามที่นายอัจฉริยะไปยื่นเรื่อง อัยการก็ช่วยพูดด้วยแล้วมีทางทนายจำเลยก็ช่วยพูด ศาลบอกว่าคดีนี้มันช้าผ่านมานานปีกว่าแล้ว ก็อยากจะดำเนินการสืบพยานให้เสร็จสิ้น และคราวหน้าก็นัดวันที่ 29 มกราคม 68 แล้วยังมีเวลาอีก 2 เดือนครึ่งจนถึงเดือนเมษายน โดยเขียนคำพิพากษา 1 เดือน ส่งให้อธิบดีอีก 1 เดือน สมมุติว่าอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งอะไร จะแก้ฟ้องก็มายื่นที่ศาลได้ ซึ่งเรื่องนี้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเป็นคนบอก

ส่วนวันนี้ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ก็ให้สืบพยานกระติกไป ซึ่งตนได้ขอเลื่อนให้แล้วทำแล้วแต่ศาลไม่อนุญาต ก็ฝากถึงนายอัจฉริยะว่าพี่เดทำให้แล้ว เดี๋ยวจะหาว่าขัดขวางอะไรต่างๆ ตนพยายามช่วยแล้ว และอัยการเจ้าของสำนวนก็ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีอัยการภาค 1 แล้ว  ก็ไม่ขัดข้องถ้าอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งให้แก้ฟ้องหรืออะไร เพื่อหาสาเหตุการตายเพิ่มเติม ตนดำเนินการให้แล้ว และคุณแม่ก็อยากจะรู้เหมือนกันสาเหตุการตายที่แท้จริงคืออะไร ก็ไม่ได้ขัดขวาง

นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม กล่าวว่า ไม่รื้อคดีหรอกอย่าไปรื้อเลยมันเรื่องมาก หลักฐานใหม่ก็ไม่มี มีแค่หลักฐานเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเหมือนเดิม ไม่อยากให้รื้อคดีใหม่เพราะไม่มีหลักฐานจะไปเอาหลักฐานที่ไหนมาแสดง ตนไม่เคยคุยกับเขา คือถ้าจะรื้อคุณมีหลักฐานใหม่ไหม เอามาให้ตนดูสักอย่างก็ได้ ถ้ามีหลักฐานเขาต้องเอามาให้ตนดูสิตนไม่เคยเห็น เชื่อว่าไม่มีหลักฐานใหม่ นี่จะ 3 ปีแล้วถ้ามีเขาต้องเอามาโชว์แล้ว แล้วจะให้ไปเชื่อตรงไหน

เอาอย่างนี้ดีกว่าคนในเรือไม่มีใครพูดสักคน แล้วตนจะไปถามใคร เขาก็ปิดปากเงียบทุกคน ก็แล้วแต่เวรกรรม อาจจะเป็นเวรกรรมของน้องแตงโม หรือเวรกรรมของ 5 คนนี้ ที่จะโดนต่อไป ส่วนที่จะรื้อฟื้นคดีตนขอดูหลักฐานก่อนดีกว่า ที่ว่าเขามีหลักฐานเด็ดจะเอามา ตนก็รอดูแต่เขาไม่มา