หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2567

วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 05:43 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2567


>> พบร่างหนุ่มเพชรบุรี เสียชีวิตในรถเก๋ง ตร.เร่งสอบหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ

06.38 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหญ้าปล้อง รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตในรถ พื้นที่ ม.1 บ้านอ่างศิลา ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุพบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า อัลติส สีเทา ทะเบียนเพชรบุรี จอดอยู่ในโรงรถ ภายในพบร่าง นายพุฒิพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะฝั่งคนขับ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด โดยหลังจากนี้จะเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


>> รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถเทรลเลอร์แล้วโดนทับซ้ำ เสียชีวิตกลางถนน

07.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนกิ่งแก้ว ช่วงฝั่งตรงข้ามซอยกิ่งแก้ว 11 ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 23 ปี และห่างออกไปพบรถเทรลเลอร์ ฮีโน่ สีเทา ป้ายทะเบียน ฉะเชิงเทรา พบคราบเลือดที่ล้อหลัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จะดำเนินการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


>> ศาลพิพากษาจำคุก "ครูปรีชา พร้อม 2 เจ๊" คนละ 2 ปีไม่รอลงอาญา เบิกความเท็จ คดีหวยอลเวง 30 ล้าน

10.00 น. ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อ่านคำพิพากษา ในคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา หรือ ครูปรีชา พร้อมด้วย นางรัตนาภรณ์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา หรือ เจ๊พัช สองแม่ค้าลอตเตอรี่ ในความผิดฐานร่วมกันเบิกความเท็จในการพิจารณาคดี โดยศาลมีคำพิพากษา ตัดสินจำคุกครูปรีชา พร้อมด้วย 2 เจ๊ คนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ สารจึงลดโทษจำคุกเหลือคนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา ทำให้ครูปรีชาและ 2 เจ๊ ต้องทำเรื่องยื่นขอประกันตัว เพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

หลังฟังคำพิพากษาเสร็จเรียบร้อย ร.ต.ท.จรูญ พร้อมด้วยภรรยา เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดีโดยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ ตนเองไม่ได้เข้าไปฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณาคดี เนื่องจากไม่อยากเจอหน้าครูปรีชา และไม่อยากจะเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีทั้งสามคนอีก จึงมอบหมายให้ทนายความเข้าฟังคำพิพากษาแทน โดยศาลมีคำพิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสามคน คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 3 คน มีลักษณะทำเป็นขบวนการ ตั้งใจให้การเท็จต่อศาลในการพิจารณาคดี แต่เนื่องจากจำเลยทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ สารจึงลดโทษให้เหลือจำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ด้านทนายความของครูปรีชา และ 2 เจ๊ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้จำเลยทั้ง 3 คนอยู่ในระหว่างการยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป


>> แม่ค้าสาวโร่แจ้งความ ถูกเพื่อนข้างห้องย่องลักทรัพย์

10.36 น. น.ส.กุสุมา อายุ 32 ปี อาชีพแม่ค้าขายอาหาร เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อมรเทพ เพชรทิม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังถูกคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในห้องพักไม่มีชื่อ ภายในซอยกรมที่ดิน 8 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก พร้อมนำกล้องวงจรปิด มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

โดย น.ส.กุสุมา อายุ 32 ปี ให้ข้อมูลตำรวจว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนเองตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายพบว่า เงินจำนวน 40,000 บาท ที่เตรียมไว้สำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือนได้สูญหายไป ตนเองเชื่อว่า เป็นฝีมือของคนใกล้ตัว จึงได้นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งซ่อนไว้ หวังจะสามารถบันทึกภาพคนร้าย พร้อมทั้งนำเงินจำนวน 200 บาทใส่ไว้ภายในเป๋าใบเดียวกัน

ต่อมาเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ 12 ธ.ค. ตนเองตรวจสอบพบว่า เงินที่ใส่ไว้ภายในกระเป๋าได้สูญหายจริงๆ จึงนำกล้องวงจรปิด ที่แอบติดซ่อนไว้มาตรวจสอบ ก็พบว่า สามารถบันทึกภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้จริงๆ เป็นผู้ชายซึ่งตนเองจำได้อย่างแม่นยำ ว่าเป็นเพื่อนข้างห้อง คนใกล้ชิดเคยเข้านอกออกในภายในห้องของตนเองได้ จึงได้นำกล้องวงจรปิดมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยาไว้เป็นหลักฐาน


>> ผบ.ตร. คาดปมเหตุยิง “สจ.โต้ง” เอี่ยวการเมืองท้องถิ่น ยันหากพบผู้ใดเกี่ยวข้อง เชือดหมดไม่ละเว้น

11.25 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยในความคืบหน้ากรณีที่ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อคานิค จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก เสียชีวิตภายในบ้านพักที่อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี โดยพบว่ามีบุคคลในที่เกิดเหตุทั้งหมดรวม 7 คน ว่า

หลังจากที่ตนได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว และทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นอดีต สจ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีข้อมูลที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของ จ.ปราจีนบุรีหลายคดี และเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกิดขึ้นภายในบ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งขณะนี้พักการปฏิบัติหน้าที่อยู่และมีลูกน้องที่ก่อเหตุอยู่ในนั้น ตนถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายต่อกฎหมายบ้านเมือง และกระทำโดยอุกอาจ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ลงพื้นที่เพื่อทำการสนับสนุนการปฎิบัติการสืบสวนพิสูจน์ทราบ ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ดำเนินการเกือบครบถ้วนแล้วตั้งแต่หลังเกิดเหตุ อีกทั้งยังได้จับกุมผู้กระทำผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างน้อย 7 ราย ที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุด้วย ในทุกข้อหาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งเรื่องร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพ.ร บ.อาวุธปืน

พร้อมกันนี้ยังสั่งการให้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่โดยด่วนในการตรวจเก็บพยานหลักฐานและวัตถุพยานต่างๆทั้งหมด อีกทั้งยังได้กำชับในเรื่องของการสอบสวนดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่มีประวัติทำผิด ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าในการสืบสวนไปมากพอสมควร และหากพบผู้ใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ก็เป็นโอกาสให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจัดการเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลในหลายๆท้องที่ เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดในด้านการสืบสวน เช่น ใครเป็นผู้ก่อเหตุยิง ใครเป็นผู้สั่งการ รวมถึงมูลเหตุแรงจูงใจ และพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามขอเวลาให้ทางพนักงานสืบสวนและสอบสวนทำงานก่อน เพื่อที่จะหาข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน เบื้องต้นเชื่อว่ามูลเหตุเกี่ยวข้องกับการเมืองท้องถิ่น ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้


>> หนุ่มเมียนมา ถูกมีดปักคาอกดับคาห้องพัก ตำรวจคุมตัวเพื่อนร่วมห้องสอบเครียดไขปมปริศนา

13.30 น. สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งมีเหตุชาวต่างชาติถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต เหตุเกิดขึ้นในห้องแถวแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิทพัทยา 29 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ บริเวณในห้องพักหนึ่ง ตรวจสอบด้านหลังห้องพักพบศพ นาย ซอล์ วิน ชิต อายุ 26 ปี ชาวเมียนมา นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพ ถูกอาวุธมีดทำครัวแทงปักกลางอก นอนจมกองเลือด โดยสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตสีดำส้ม กางเกงขายาวสีดำ นอกจากนี้ภายในห้องยังพบ เพื่อนอีก 2 คนเป็นชายชาวเมียนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวสอบปากคำเพิ่มเติม

นายมูลเซะ อายุ 31 ปี หนึ่งในเพื่อนร่วมห้องให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายคุยโทรศัพท์เหมือนมีปากเสียงกับภรรยา จากนั้นก็เหมือนคล้ายคนอารมณ์เสีย ไม่นานก็ชวนเพื่อนคนเสื้อดำออกไปตลาดซื้อมีดกลับมาที่ห้อง จากนั้นผู้ตายก็เดินไปซื้อเบียร์มานั่งดื่ม พร้อมกับบ่นว่าอยากจะตาย ซึ่งด้วยความกลัวตนเองกับเพื่อนอีกคนเดินจึงออกมาด้านนอก จากนั้นก็ใช้อาวุธมีดแทงตัวเองบริเวณหลังบ้าน ด้วยความตกใจจึงรีบไปแจ้งเพื่อนให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บหลักฐานต่างๆ ปรากฏว่าภรรยาของผู้ตายได้ติดต่อมาทางโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่จึงให้ล่ามแปลภาษาพูดคุย โดยภรรยาของผู้ตายผ่านโทรศัพท์มือถือไม่ได้มีการทะเลาะกันก่อนหน้านี้แต่อย่างได

เบื้องต้น จึงสั่งการให้ชุดพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เก็บดีเอ็นเอ ก่อนจะควบคุมตัวเพื่อนสองคนไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาข้อสรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป


>> เตรียมออกหมายจับ ย่าแท้ๆ "น้องแป้ง" ด.ญ.วัย 1 เดือน ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา

14.30 น. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี พร้อมสามี เดินทางมาจาก จ.ลพบุรี เข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางปวีณา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาสองสามีภรรยาเดินทางไปที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.อนุเชษฐ์ ภาคสมบูรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ซึ่งเดินทางมาสอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรศพ ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ

โดยผลชันสูตรพบว่า มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นหนาบริเวณส่วนบนสุดของสมองทั้งสองซีก ปริมาณ 10 ลบ.ซม. ร่วมกับพบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นบางบริเวณส่วนบนสุดของสมองทั้งสองซีก มีรอยฟกช้ำที่ขา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับย่าแท้ๆ ในเร็วๆ นี้

โดย น.ส.เอ แม่เด็ก กล่าวว่า ขอให้แม่รีบมามอบตัวโดยเร็ว ที่ผ่านมายังค้างคาใจที่ย่าหนีไป หนูให้เวลาย่ามาพูดความจริงว่าทำอะไรกับหลาน แต่ย่าก็ไม่มา กลับหนีหายไป หนูคิดถึงลูกหนูใจจะขาด แต่ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนพ่อน้องแป้ง กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของตน ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนแม่ของตนซึ่งเป็นย่าแท้ๆ ก็หนีไป ตนอยากให้ความจริงปรากฏว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก อยากให้แม่มามอบตัว ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก

ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนี้ด้วยที่ต้องสูญเสียลูกน้อยใจ ขอขอบคุณ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ ที่ติดตามคดี เรื่องนี้ขอฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทุกคน หากมีลูกขอให้มีความพร้อม มิฉะนั้นถ้าเราไม่ได้เลี้ยงดูลูกเองเด็กอาจจะเป็นเหยื่อของความรุนแรง และเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดได้ และขอให้ย่ารีบมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพูดความจริงโดยเร็ว


>> เชียงใหม่ บูรณาการตรวจเข้มกระเช้าของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ย้ำผู้ประกอบการแสดงฉลากและระบุราคาให้ชัดเจน

14.59 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจกระเช้าของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ ณ ห้างเทสโกโลตัส สาขาคำเที่ยง และห้างท้อปซุปเปอร์มาร์เก็ต สาขาโชตนามอลล์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัย

โดยอ้างอิงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารจัดรวมในภาชนะ โดยกำหนดให้อาหารที่จัดรวม ในภาชนะจะต้องมีข้อความภาษาไทยที่เห็นได้ชัดเจน อ่านง่าย และต้องมีข้อความระบุชื่อ ประเภท หรือชนิดของอาหารแต่ละรายการบรรจุ และวันเดือนปีที่หมดอายุ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.๒๕๒๒ ระวางโทษปรับไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาท และหากไม่แสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษตาม พรบ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท

ซึ่งผลการตรวจไม่พบการกระทำความผิดดังกล่าว อีกทั้งผู้ประกอบการยังให้ความร่วมมือ และมีความเข้าใจในการเลือกสินค้ามาจัดกระเช้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้จะได้ขยายผลการตรวจในพื้นที่อำเภออื่นๆ ต่อไป


>> กรมอุทยานฯ สั่งปิดขึ้น "ภูกระดึง" ไม่มีกำหนด หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต

15.19 น. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หลังจากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวหญิงถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างทางเดินจากองค์พระพุทธเมตตาไปน้ำตกเพ็ญพบใหม่

ขณะนี้ยังพบว่าช้างป่าตัวดังกล่าว ซึ่งมีอาการตกมัน ยังกลับมาวนเวียนบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยวจุดเดิม ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงสั่งให้ปิดการเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงชั่วคราวทั้งหมด และให้เจ้าหน้าที่ และนักวิจัยสัตว์ป่าเข้าผลักดันและควบคุมช้างจนกว่าพื้นที่ทั้งหมดจนกว่าปลอดภัย โดยไม่มีกำหนดจนกว่าทีมจะประเมินความปลอดภัยและควบคุมสถานการณ์ได้

อธิบดีกรมอุทยาน กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่ช้างป่าภูกระดึง มีพฤติกรรมทำร้ายนักท่องเที่ยว และยังวนเวียนอยู่ในจุดเดิม อาจจะเสี่ยงเกิดเหตุซ้ำได้ จึงต้องควบคุมสถานการณ์ให้ปลอดภัยก่อน เบื้องต้นพบว่ามีช้าง 1 ตัวจาก 10 ตัวที่พบเข้ามาจุดโซนบริการท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังและผลักดันไม่ให้ใกล้พื้นที่

เมื่อถามว่าหากผลักดันช้างไม่สำเร็จ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายอรรถพล กล่าวว่า หากช้าง ยังมีพฤติกรรมเกเร คงไม่สามารถผลักดันลงจากภูกระดึงได้ แต่อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการทำคอกบริบาลช้างในจุดอื่นที่ห่างไกล และไม่ใกล้กับการท่องเที่ยว โดยวันที่ 16 ธ.ค.นี้จะลงพื้นที่ไปดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเอง


>> ผู้การฯ ชลบุรี บุกทลายแก๊งคอลเซนเตอร์ ทุนจีน- เกาหลี สีเทา หลอกขายของ, แพ็คเกจทัวร์

15.45 น. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้นำกำชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี สภ.เมืองพัทยา เอาหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา เข้าตรวจสอบบ้านพักพูลวิลล่าหรูจำนวน 2 หลัง ภายในหมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านชัยพฤกษ์จอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่ามีชาวต่างชาติลักลอบตั้งฐานเปิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเงินทางออนไลน์

จากการตรวจค้นบ้านพักพูลวิลล่าทั้งสองหลัง ตำรวจสามารถจับกุมผู้ชายและผู้หญิง เป็นชาวจีนและเกาหลี ได้ทั้งหมดจำนวน 13 คน ยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์จำนวน 30 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 30 เครื่อง และโทรศัพท์บ้านอีก 30 เครื่อง ตรวจสอบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ พบหลักฐานเป็นแชทคุยหลอกลวงเหยื่อเป็นภาษาจีนและเกาหลีเป็นจำนวนมาก ฝ่ายไอทีจึงเก็บข้อมูลนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมหาความเชื่อมโยงเครือข่ายเหล่านี้ 
พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เผยว่า การจับกุมตำรวจได้สืบทราบว่ามีชาวต่างชาติจำนวนมาก เข้ามาเช่าบ้านพักพูลวิลล่ามีพฤติกรรมอยู่กันเป็นกลุ่มไม่ออกจากบ้าน เมื่อลงพื้นที่สืบสวนพบบิลค่าไฟสูงถึงหลักหมื่น ก่อนจะทราบว่าแก๊งต่างชาติตั้งฐานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกหลวงขายสินค้า รวมถึงในการหลอกขายแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยว สร้างความเสียหายกันเป็นจำนวนมาก ส่วนการหมุนเวียนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าความเสียหายเป็นหลักสิบล้านบาท ซึ่งพบว่ายอดเงินที่โกงมาได้จากเหยื่อถูกแปลงเปลี่ยนไปเป็นเงินเหรียญสกุลดิจิทัล (คริปโต) ซึ่งส่วนนี้จะเร่งขยายผล โดยจากการตรวจสอบพบว่าไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เดียวกับที่โดนจับไปก่อนหน้านี้ ซึ่งพบว่าเป็นกลุ่มแก๊งใหม่ที่มาเช่าบ้านหลังเดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะเร่งสืบสวนขยายเครือข่ายดังกล่าวต่อไป


>> 4 โจรอ้างตัวเป็นตำรวจ บุกจับเจ้าของร้านและลูกน้องมัดมือ-เท้า ผ้าคลุมหัว ก่อนปล้นทรัพย์สินหลายแสนบาท

16.09 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก นายไทด์ อายุ 26 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ว่าถูกกลุ่มคนร้าย 4 คน ถือเหล็กแหลมมา 2 อัน บุกเข้ามาที่ร้าน ก่อนจับตนพร้อมลูกน้องมัดมือมัดเท้า เอาถุงกระสอบคลุมหัว แล้วปล้นเอาทรัพย์สิน เป็นเงินในบัญชี 300,000 บาท ไอโฟน 16 โปรแม็ก ไอแพด 2 เครื่อง รถจยย. 4 คัน พระเครื่อง และอื่นๆ อีกหลายรายการ

นายไทด์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนเวลา 03.00 น. ตนเปิดร้านขายกัญชาสมุนไพร อยู่ที่บริเวณซอยสันติสุข ย่านสันติธรรม อ.เมือง ขณะกำลังจะปิดร้าน ก็มีกลุ่มคนชุดดำ บุกเข้ามาที่ร้าน ก่อนเข้ามาล็อกตนและลูกน้อง แล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้า เอาถุงคลุมศีรษะ 
โดยกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจ มาตรวจความผิด ก่อนจะบังคับเอารหัสโทรศัพท์ต่างๆ แล้วโอนเงินออกไปกว่า 3 แสนบาท รวมทั้งกวาดเอาทรัพย์สินอื่นๆ ภายในร้าน รวมถึงรถจยย. 4 คัน ก่อนคนร้ายแยกย้ายหนีไป

ด้าน พ.ต.อ.วินิจฉัย เปิดเผยว่า ได้ระดมชุดสืบสวนมาเก็บพยานหลักฐาน รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> เจ้าของห้องเช่าพกปืน ออกไปเตือนหนุ่มเช่าห้อง เรื่องว่าส่งเสียงดัง แล้วเปิดฉากฉะกัน ก่อนปืนลั่น กระสุนเข้าขาบาดเจ็บ

17.30 น. สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากประชาชนว่าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันและมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซอยพัฒนาซอย 2 ถ.พัฒนา ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

ที่เกิดเหตุ เป็นห้องเช่าชั้นเดียวสร้างเรียงรายอยู่ในซอย หน้าห้องเช่าหน่วยกู้ชีพกำลังให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 2 ราย ประกอบด้วย นายโสฬส อายุ 36 ปี เป็นอาสาสมัครรักษาดินแดนสังกัดอำเภอเมืองภูเก็ต (อส.) และเป็นเจ้าของห้องเช่าดังกล่าวได้รับบาดเจ็บที่ตาด้านขวาบวม มีรอยเขียวซ้ำ ศีรษะแตก และนายภานุพงษ์ อายุ 36 ปีถูกยิงที่ขาซ้าย ซึ่งเป็นคนเช่าห้องดังกล่าว จากนั้นได้นำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อซิกชาวเวอร์ 365 จำนวน 1 กระบอก โดยพบปลอกกระสุนที่หน้าห้องเช่าหมายเลข 5 จำนวน 1 ปลอก กระสุนปืนอีก 3 นัดตกอยู่หน้าห้อง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับนำตัวพยานที่เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองภูเก็ต

พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ นายโสฬส ซึ่งเป็น อส.อำเภอเมืองภูเก็ตและเป็นเจ้าของห้องเช่าที่นายภานุพงษ์เช่าอยู่นั้น ได้มาเตือนกรณีมีเพื่อนบ้านแจ้งว่าส่งเสียงดัง โดยได้พกอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวติดตัวมาด้วย ทำให้นายโสฬสและนายภานุพงษ์มีปากเสียงโต้เถียงกัน จากนั้นนายภานุพงษ์ได้โทรตามแม่และน้องมาที่เกิดเหตุ ทำให้มีการฉุดกระชากและกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ปืนที่นายโสฬสพกอยู่ที่เอวจึงลั่นใส่ขานายภานุพงษ์บาดเจ็บ อย่างไรก็ดีอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนที่จะมีการแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว


>> หนุ่มเมียนมาเพลิน เดินเล่นบนรางรถไฟ ถูกชนบาดเจ็บ

19.00 น. ศูนย์วิทยุสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยารับแจ้งเหตุรถไฟชนคนเดินเท้าบริเวณรางรถไฟหน้าร้านเล็กอาหารป่า ใกล้สี่แยกซอยหนองเกตุใหญ่ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย คือ นายอ๊ะ อาว อายุ 45 ปี ชาวเมียนมา มีบาดแผลถลอกตามร่างกายและปวดบริเวณหัวไหล่ขวา เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางละมุง

จากการสอบถาม นายอ๊ะ อาว เล่าว่า ขณะเดินเล่นอยู่บนรางรถไฟ ได้ยินเสียงหวูดรถไฟดังขึ้น แต่ไม่สามารถหลบได้ทัน ส่งผลให้หัวไหล่กระแทกกับตัวรถไฟจนได้รับบาดเจ็บ ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือ เปิดเผยว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถหัวจักรรถไฟหยุดจอดอยู่บริเวณดังกล่าว และพบผู้บาดเจ็บนอนอยู่ข้างรางรถไฟ จึงรีบดำเนินการช่วยเหลือ


>> รถจักรยานยนต์ ชนเข้าท้ายรถกระบะ และมีผู้เสียชีวิต

21.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถชนกัน และมีผู้เสียชีวิต บนถนนสายเอเซีย เส้นทางพัทลุง – หาดใหญ่ ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

ในที่เกิดเหตุ พบรถ จยย. ยามาฮ่า ฟีโน่ ป้ายทะเบียน พัทลุง ล้มคว่ำในสภาพพังเสียหาย ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ห่างออกไปพบรถกระบะโตโยต้า บรรทุกไม้ยาง ป้ายทะเบียน 7398 กระบี่ สภาพล้อยางด้านหลังฝั่งขวาแตก บริเวณกลางถนนพบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นายวัชรบูลย์ อายุ 46 ปี สภาพศีรษะมีแผลฉีกขาดลึก 
คนขับกระบะ เล่าว่า ระหว่างทางรถมีอาการกระตุก เหมือนเครื่องจะดับเลยนำเข้าจอดข้างทาง พอเปิดประตูจะลงจากรถ มีรถจักรยานยนต์คันกล่าวขับพุ่งชนที่ท้ายรถอย่างจัง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป  


>> รถนั่งส่วนบุคคลชนท้ายรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตช่วงแยกนาคู จ.พระนครศรีอยุธยา

22.14 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.พระนครศรีอยุธยา มีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บริเวณแยกนาคู ในพื้นที่ อ.ผักไผ่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า อัลติส สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนท้ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดป้ายทะเบียน ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อต่อมา นายไตรภพ อายุ 30 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดชะโด  

 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ