หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05:49 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567


>> บุกทลาย เครือข่ายลักลอบค้าหนังเสือโคร่งนครสวรรค์ สารภาพซื้อซากสัตว์มาจากกัมพูชา

07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.1 บก.ปทส.) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และ เจ้าหน้าที่กรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่าสหรัฐอเมริกา

ร่วมกันจับกุม นายชิต อายุ 35 ปี ในบ้านพักที่ ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ในข้อหา "ค้าผลิตภัณฑ์ซากสัตว์คุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" พร้อมตรวจยึดของกลาง หนังเสือโคร่งผืนใหญ่ จำนวน 3 ผืน (เสือโคร่ง 3 ตัว) , เศษหนังเสือโคร่ง (คละขนาด) จำนวน 44 ชิ้น, กระเป๋าสะพาย และกระเป๋าสตางค์หนังเสือโคร่ง จำนวน 18 ใบ, กระเป๋าสะพาย หนังงู จำนวน 4 ใบ, พวงกุญแจเล็บหมี จำนวน 22 ชิ้น, เข็มขัด หนังเสือโคร่ง 9 เส้น และจักรเย็บเครื่องหนัง

จากการสอบถามผู้ต้องหา รับสารภาพว่ารับซื้อซากสัตว์มาจากประเทศกัมพูชา โดยนำมาทำกระเป๋าและเข็มขัดจากซากหนังสัตว์ประมาณต้นปี 2567 จะขายออนไลน์ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบ กระเป๋าขายในราคาใบละ 2,000-5,000 บาท, เข็มขัดเส้นละ 1,900 บาท, พวงกุญแจเล็บหมี ราคา 250 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดี และส่งของกลางซากสัตว์ให้ กก.4 บก.ปทส. ดำเนินการส่งให้กับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจพิสูจน์ต่อไป


>> พนักงานเก็บขยะพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดสังหาร เจ้าหน้าที่ประสานหน่วย EOD รุดตรวจสอบ

09.27 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เก็บขยะเทศบาลว่า พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด มีสภาพเก่า อยู่บริเวณซอยเลขะกุลอุทิศ ถนนสุขยางค์ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา

หลังประสานหน่วยกำลังในพื้นที่เข้าปิดกั้นที่เกิดเหตุ และ ประสานชุด EOD เข้าตรวจสอบเพื่อทำการเก็บกู้ พบว่า วัตถุดังกล่าวเป็นไฟแช็ค ที่มีลักษณะเลียนแบบเหมือนลูกระเบิด จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบ


>> ทนายบอสพอล รับมอบอำนาจ ดำเนินคดี "เจ้พัช - ฟิล์ม รัฐภูมิ" พยายามกรรโชกทรัพย์

10.30 น. ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เผยว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช และ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หลังปรากฏคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท ซึ่งทางดิไอคอน ตัวบอสพอล หรือตัวบอสปัน ที่เป็นภรรยาบอสพอลได้รับความเสียหาย ถึงแม้ว่าความผิดยังไม่สำเร็จ แต่มีความพยายามในการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องมีการหารือกับพนักงานสอบสวน ว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ หรือ พยายามฉ้อโกง / แต่ส่วนตัวมองว่าเข้าข้อหาพยายามฉ่อโกงมากกว่า กรรโชกทรัพย์ เพราะมีเนื้อหาที่มีการพยายามข่มขู่จ่ายเงิน โดยอ้างอิงจากไฟล์เสียง 29 นาที ซึ่งพฤติกรรมในคลิปมีการพยายามช่วยและจะให้โอนเงินเพื่อไปออกรายการโหนกระแส แต่ในส่วนนี้ตำรวจมองว่าน่าจะเป็นพยายามกรรโชกทรัพย์

โดยวันนี้จะมีการคุยรายละเอียดกับบอสพอลและเหล่าบอสชาย 11 คน ในเรื่องดังกล่าวให้เรียบร้อย รวมถึงพูดคุย เรื่องวันพรุ่งนี้ ที่ DSI จะมาเป็นการสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่มีกำหนดการสอบสวนแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นประเด็นไหน ส่วนตัวคาดว่าน่าจะเป็นพฤติการณ์ของคดีโดยละเอียด ที่ก่อนหน้านี้ DSI ได้แจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ไปก่อนหน้านี้

ส่วนประเด็นที่ "หนุ่ม กรรชัย" ฟ้องร้อง เจ๊พัช และฟิล์ม รัฐภูมิ มองว่าไม่เกี่ยวกันเนื่องจากเป็นคนละคดีที่ หนุ่ม กรรชัย ไปดำเนินคดีในฐานความผิดหมิ่นประมาท ซึ่งพยานในคดีนี้สามารถใช้พยานชุดเดียวกันได้ รวมทั้งในคดีที่รัฐมนตรีน้ำ ที่ได้ไปยื่นฟ้องดำเนินคดี เจ๊พัช นั้นไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากเป็นคนละช่วงเวลา แต่ฝั่งดิไอคอนก็ต้องไปเป็นพยานให้กับรัฐมนตรีน้ำ ที่เป็นผู้กล่าวหาเช่นกัน

สำหรับพฤติกรรมของเจ๊พัช จะเข้าข่ายความผิด พยายามกรรโชกทรัพย์ ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งอาจจะไม่ต้องออกหมายจับ แต่ใช้เป็นหมายเรียกแทน ซึ่งกรณีดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจในการพิจารณาของตำรวจ ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่


>> รมต.ทวี ย้ำ หาก "ยิ่งลักษณ์" กลับไทย ก็ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย

10.42 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเดินทางกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ระบุจะกลับมาร่วมประเพณีวันสงกรานต์ปีหน้าว่า "เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานมา แต่ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เนื่องจากคนที่จะเข้าสู่กระบวนการของกรมราชทัณฑ์ ต้องเริ่มต้นที่กระบวนการศาลก่อน คือมีหมายขังที่ออกโดยศาล เมื่อรับหมายแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็ปฏิบัติตาม และ ตามกฏหมายของกรมราชทัณฑ์ปัจจุบัน มีการยกระดับมากขึ้น หากเป็นผู้หญิง ต้องอยู่ในทัณฑสถานกลาง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย"

เมื่อถามว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมา จะเข้าสู่กระบวนการแบบเดียวกับนายทักษิณ จนไปถึงขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า "สมัยที่นายทักษิณกลับมา ตนยังไม่ได้เป็น รมว.ยุติธรรม แต่การกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องปฏิบัติตามกฏหมายราชทัณฑ์"

ส่วนจะเป็นโมเดลเดียวกับนายทักษิณหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ได้เป็นโมเดลอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างปฏิบัติตามกฏหมาย


>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก มีผู้เสียชีวิตเป็นไทยวัย 30 ปี

10.55 น. รับแจ้งศูนย์รวมใจบางปะอิน 4 หน่วยกู้ภัยอยุธยา ตรวจสอบอุบัติ รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้เสียชีวิต บนถนนสายเอเชีย ในช่องทางคู่ขนาน ฝั่งขาขึ้น นครสวรรค์ ก่อนถึงทางเข้าวัดสุทธิรุจิราราม ในพื้นที่ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็กซ์แมกซ์ สีเขียว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถบรรทุก 10 ล้อ อีซูซุ สีส้ม ป้ายทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน


>> พบกระเป๋าต้องสงสัย ใต้สะพานลอยใกล้แยกแคราย จนท.ตรวจสอบ ที่แท้ก็ว่างเปล่า

12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบกระเป๋าต้องสงสัย มีเสียงคล้ายตัวหน่วงเวลา บริเวณใต้สะพานลอยคนข้าม แถวแยกแราย ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณริมถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้า สภ.รัตนาธิเบศร์ ใต้บันใดสะพานลอยพบกระเป๋าเอกสาร สีดำ ขนาดกว้างประมาณ 30 ซม. สูง 25 ซม. วางพิงอยู่กับรั้วสังกะสีเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำยางรถยนต์จำนวน 6 วง มาปิดกั้นโดยรอบกระเป๋าเพื่อป้องกันเหตุ จากนั้นได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเตรียมอุปกรณ์ระงับเหตุ

ต่อมาเวลา 13.00 น. สุนัขตำรวจ K-9 ลงดมกลิ่นแสดงพฤติกรรมนั่งเฝ้า ถึง 3 รอบหมายถึงวัตถุมีมูลต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้กันผู้สื่อข่าวและผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกรัศมีการยิง ประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดกั้นการจราจร 3 ช่องจราจร เจ้าหน้าที่ EOD นำเครื่องเอ็กซเรย์เข้าตรวจสอบ 2 รอบ พบเป็นกระเป๋าเอกสารเปล่า ใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 3 ชม.


>> นายกฯ นั่งหัวโต้ะ คกก.ศก. เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล๊อตใหญ่เน้น “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้หนี้ปชช กระตุ้นลงทุน”

13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตเต็มศักยภาพ และผลักดันนโยบายตามที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศต่อไปทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 
นายกฯ กล่าวถึงปัญหาภาระหนี้สินประชาชนที่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง จึงควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน สินเชื่อต่าง ๆ โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างพิจารณาออกแบบมาตรการแก้ปัญหาหนี้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนควบคู่กับการรักษาวินัยการเงินการคลังของประชาชน

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหลักการแนวทางและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุ” เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้สูงอายุ และกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยจะดำเนินการให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ ซึ่งต้องไม่เป็นกลุ่มเป็นเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน และจะเร่งจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนไม่เกิน เดือนมกราคม 2568


>> จับยาบ้า 3.5 ล้านเม็ด ข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เนียนใส่ซอง กลูต้า - คอลลาเจน

15.00 น. ที่กรมทหารพราน 21 ค่ายศรีสองรัก จ.เลย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานแถลงข่าวยึดยาบ้าจำนวน 3,560,000 เม็ด พร้อมจับผู้ต้องหา 2 คนคือ นายวัน อายุ 35 ปี และ น.ส.สุ อายุ 37 ปี

สืบเนื่องจากวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 ร.ท.อาคม คำจุลฬา ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2102 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ขับวนเวียนบนอยู่ในพื้นที่ ต.อาฮี อ.ท่าลี่ ทราบชื่อคนขับ คือ นายวัน และ น.ส.สุ ซึ่งจากการตรวจสอบทะเบียนรถเบื้องต้น ทั้ง 2 คนไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงตั้งข้อสงสัยว่า อาจนำรถมาพักเพื่อรอข้ามฝั่ง หรือไม่มารอรับของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามรถทั้ง 2 คัน ก่อนพบว่าได้ขับเข้าไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จึงได้ตรวจสอบวิเคราะห์เส้นทางของรถทั้ง 2 คัน พบว่าทั้ง 2 คันมาจากภาคกลาง มุ่งหน้ามาที่ชายแดน คาดว่าจะเป็นรถของขบวนค้ายาเสพติด จึงได้วางกำลังเฝ้าไว้

ต่อมาเวลา 19.45 น. รถยนต์ทั้ง 2 คัน เข้ามาในพื้นที่บ้านแก่งม่วง โดยรถกระบะที่ นายวันเฉลิม ขับมาได้มาจอดที่ริมตลิ่งแม่น้ำเหือง ส่วนรถเก๋งของ น.ส.สุภาพร จอดอยู่บริเวณริมถนน เส้นทาง บ้านวังเป่ง-แก่งม่วง ก่อนมีชาย 4-5 คนเข้ามาหา

อย่างไรตาม เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดได้วิ่งหนีลงแม่น้ำเหือง ว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมรถเก๋งและกระบะ ตรวจสอบในรถกระบะพบถุงกระสอบจำนวน 8 กระสอบ เมื่อเปิดมาพบยาบ้าจำนวน 3,560,000 เม็ด โดยมีบางส่วนบรรจุใส่ภายในซอง กลูต้า คอลลาเจน


>> สพฐ. สั่งเด้ง "ผอ.โรงเรียน เมืองคอน" ปม อมค่าอาหารกลางวันเด็ก พกพาอาวุธเข้ามาในโรงเรียน

15.47 น. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบของผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตกเป็นประเด็นเรื่องการทุจริตค่าอาหารกลางวันและมีพฤติกรรมพกพาอาวุธเข้ามาในโรงเรียน

"ในวันนี้สพฐ.มีการสอบข้อเท็จจริงโดยให้ผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวได้เข้ามาประจำที่ สพฐ.ชั่วคราว ระหว่างดำเนินการสอบข้อเท็จจริง"

“ส่วนกรณีผู้ปกครองมีความกังวลต่อสถานการณ์ของโรงเรียนธรรมภิรักษ์ เขตบางพลัด แขวงบางบำหรุ ที่ประกาศเปิดดำเนินการปีสุดท้าย โดยจะเปิดถึงสิ้นปีการศึกษา 2567 นั้น สพฐ.ได้ตรวจสอบโรงเรียนในสังกัดที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนดังกล่าว พร้อมที่จะรับนักเรียนเข้าเรียน ถ้าผู้ปกครองมีความประสงค์หากจะพานักเรียนมาเรียนในโรงเรียนของ สพฐ. เมื่อโรงเรียนดังกล่าวปิดลง”


>> ไฟไหม้รถตู้โดยสาร ผู้โดยสารหนีตายอลหม่านที่ จ.บุรีรัมย์

16.00 น. สภ.เมืองบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้รถตู้โดยสารประจำทางบนถนนสายบุรีรัมย์ - นางรอง ขาออกตัวเมืองบุรีรัมย์ บริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

ที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังลุกไหม้รถตู้โดยสารประจำทางสีขาว ขนาด 13 ที่นั่ง หมายเลขทะเบียน 8481 นครราชสีมา บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบผู้โดยสารเป็นชาย 1 หญิง 5 ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนรวมอยู่ด้วย 1 คน อยู่ในอาการตกใจ ส่วนรถดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำดับไฟใช้เวลา 20 นาที จึงระงับเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นพบว่ารถตู้เสียหายหมดทั้งคัน

จากการสอบถาม นายบุญทัน อายุ 62 ปี คนขับรถตู้ เล่าว่า ปกติตนไม่ได้ขับรถคันนี้ แต่คนขับประจำไม่อยู่ไปธุระ ผู้จัดการจึงให้ตนขับแทน เท่าที่ทราบรถคันนี้เพิ่งขับมาจอดยังไม่ได้ตรวจเช็กเครื่องยนต์ ระหว่างทางที่รับผู้โดยสารออกจาก จ.นครราชสีมา มาส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.บุรีรัมย์ ก็ไม่มีสิ่งผิดปกติจากนั้นตนเองได้รับผู้โดยสารจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.บุรีรัมย์ ปลายทาง จ.นครราชสีมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นควันดันออกมาจากห้องเครื่องยนต์เป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจจอดรถเพื่อจะตรวจสอบแต่ไม่ทัน ไฟเกิดลุกไหม้ขึ้นทันที จึงรีบเปิดประตูให้ผู้โดยสารออกจากรถได้ทัน โชคดีเที่ยวนี้มีผู้โดยสารไม่เต็มรถ ประกอบกับประตูเปิดง่าย พอผู้โดยสารลงจากรถหมดก็ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้ง ทั้งนี้รถตู้คันดังกล่าวใช้เชื้อเพลิงเป็นแก๊ส NGV

ด้าน นางสาวอัมพร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็น 1 ในผู้โดยสาร เล่าว่า ก่อนที่ตนเองจะขึ้นรถตู้ได้ยินคนขับรถ 2 คนคุยกันบอกว่าอะไหล่บางอย่างจะต้องเปลี่ยน แต่ตนไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คนขับก็ขับมาเหมือนเดิม จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น


>> รถนั่งส่วนบุคคล 2 คันชนกัน ร่างคนขับกระเด็นออกมาเสียชีวิตนอกรถ

17.35 น. รับแจ้งศูนย์รวมใจบางปะอิน ตรวจสอบอุบัติ รถนั่งส่วนบุคคลชนกัน และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 9 (กาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันตก) มุ่งหน้าบางปะอิน ช่วงจุดกลับรถบ่อซ่า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ บริเวณร่องกลางถนน พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ป้ายทะเบียน 1670 กทม. สภาพมีร่องรอยการถูกชนที่ประตูข้างฝั่งขวา ใกล้กันพบรถนั่งส่วนบุคคล เบนซ์ สีทอง ป้ายทะเบียน 6744 กทม. สภาพหน้ารถพังเสียหาย

ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย โดยรายแรก ผู้บาดเจ็บเป็นผู้ชาย 1 ราย อายุประมาณ 20 - 30 ปีกระเด็นออกมาจากตัวรถ มีอาการสาหัส ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยพยายามให้การช่วยเหลือ แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุประมาณ 42 ปี ทีมกู้ชีพให้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลบางปะอิน ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างใหญ่


>> ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก 30 ปี ”บังลุคไม้ใหญ่” และพวก ร่วมชดใช้เกือบ 3 ล้านบาท คดีตัดไม้ใหญ่ลงโซเชียล บนภูเขาบ้านสองแพรก

17.41 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 1 (พังงา) เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ศาลจังหวัดพังงา ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ, คดีหมายเลขแดง ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดพังงายื่นฟ้องจำเลยชื่อ “บังลุค ไม้ใหญ่” หรือ นายลุกมาน ติ๊กต๊อกเกอร์ชื่อดัง ที่ชอบเผยแพร่คลิปตัดต้นไม้ใหญ่ ในสื่อโซเชียล TikTok พร้อมพวกรวม 4 คน ในความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ความผิดต่อพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความผิดต่อพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ และความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากร

โดยพิพากษาจำคุก “บังลุค ไม้ใหญ่” 30 ปี 9 เดือน “บังฟี ไม้ใหญ่” 30 ปี 6 เดือน “บังสอน ไม้ใหญ่” 30 ปี 9 เดือน และนางจรินทร์ ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของไม้ป่า 30 ปี และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้รัฐรวม 2,774,041 บาท

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ว่าที่ร้อยเอกพงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอเมืองพังงา นำกำลังฝ่ายปกครองอำเภอเมืองพังงา พร้อมด้วย พ.ต.ต.นิพนธ์ พลอยขาว ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 425, ตำรวจ สภ.ทุ่งคาโงก เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสองแพรก เจ้าหน้าที่กองบังคับการ ปทส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการบุกรุกป่าตัดไม้ในเขตพื้นที่ ม.2 ต.สองแพรก อ.เมือง จ.พังงา ตามคลิปวิดีโอในแอป Tiktok ชื่อผู้ใช้ “บังลุค ไม้ใหญ่” โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดชื่อ “บังลุค ไม้ใหญ่” พร้อมพวกและของกลาง 1.เลื่อยยนต์ จำนวน 3 เครื่อง 2.รถแบ็กโฮ จำนวน 1 คัน 3.โซ่ สายสลิงพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ และยึดไม้ป่าของกลางรวม61ต้น ส่งพนักงานสอบสวนสภ.ทุ่งคาโงกดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นการตัดสินของศาลชั้นต้นเท่านั้น จำเลยทั้งหมดยังมีสิทธิ์ต่อสู้ในศาลลำดับสูงขึ้นต่อไป


>> ชายวัย 41 ปีเสียชีวิตบนเครนสูง 20 เมตร กู้ภัยต้องทำรอก เพื่อนำร่างโรยตัวลงมา ก่อนส่งแพทย์ชันสูตร

18.00 น สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่บนเครนสำหรับก่อสร้างในโกดังของบริษัทแห่งหนึ่งใน ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ในที่เกิดเหตุพบเป็นเครนขนาดใหญ่ มีความสูง 20 เมตร มีห้องบังคับเครนอยู่ด้านบน ตรวจสอบ ภายในห้องบังคับเครน พบร่างของ นาย สุริยา อายุ 41 ปี พนักงานบังคับเครน เป็นชาวจังหวัด ขอนแก่น ทีมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ขึ้นไปติดตั้งรอก แล้วนำร่างผู้เสียชีวิตใสเปล ก่อนโรยตัวลงมาด้านล่าง จากการชันสูตรในเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย

สอบถาม เพื่อนร่วมงาน ได้ให้ข้อมูลว่า นายสุริยา ขึ้นไปทำงานบนเครนตั้งแต่ตอนเช้า จนตอนบ่ายงานเสร็จก็ยังไม่ลงมา จนถึงช่วงเย็นก็ยังไม่ลงมาเพื่อนๆ จึงปีนขึ้นไปตาม พบว่า นอนเสียชีวิตแล้ว จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ด้าน นภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีได้ขับรถจักรยานยนต์จากที่พักย่านพระราม 9 กรุงเทพมหานคร มาทำงานที่นี่ สามีไม่มีโรคประจำตัวใดๆ แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สามีประสบอุบัติเหตุรถล้มเนื่องจากถนนลื่น ทำให้หน้าอกและศีรษะกระแทกแต่สามีสวมหมวกกันน็อก พอมีคนโทรไปแจ้งว่าสามีเสียชีวิตตนตกใจมากแล้วมายังที่เกิดเหตุทันที

เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำผู้เสียชีวิต ส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จ. ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต อย่างละเอียด ก่อนให้ญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


>> หัวรถจักรถไฟ ชนกับรถอเนกประสงค์กลางทางข้ามทางรถไฟ สภาพรถพังยับ ส่วนคนบาดเจ็บหัวแตก

19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนกับรถนั่งส่วนบุคคล บริเวณทางข้ามทางรถไฟ ภายในซอยเขาตาโล หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถอเนกประสงค์ ยี่ห้อ ซูซูกิ เออร์ติก้า สีแดง ป้ายทะเบีบน กรุงเทพฯ อยู่ในสภาพพังเสียหายทั้งคัน คาอยู่บนรางรถไฟ ห่างออกไป พบหัวจักรรถไฟ เครื่องดีเซล หมายเลข 5110 จอดอยู่ในสภาพด้านหน้ามีร่องรอยการถูกชนได้รับความเสียหายเล็กน้อย

นอกจากนี้ทีมกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นคนขับรถอเนกประสงค์ คือ นายไกรวิทย์ อายุ 36 ปี อาชีพโค้ชฟุตบอลอิสระ ปัจจุบันเป็นโค้ชสอนฟุตบอล ให้กับเยาวชนอะคาเดมี่ แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา โดยได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก มีแผลถลอกตามร่างกาย และยังอยู่ในอาการตกใจกลัว ทีมกู้ภัยจึงได้ทำการปฐมพยาบาล ก่อนจะนำตัวส่ง รพ.บางละมุง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวน


>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ซอยเทียนทะเล 20 ประชาชนช่วยกันดับทัน ก่อนจะลุกลาม

23.12 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยเทียนทะเล 20 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวคอนกรีต 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้พัดลมเพดาน ลุกลามโซฟา และตู้แช่ จำนวน 2 ตู้ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 10 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่พัดลมเพดาน ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนเทียน


>> กระบะขนต่างด้าว ขับฝ่าด่านตรวจ รถเสียหลักฟาดเสาไฟก่อนคว่ำลงคูน้ำ ดับยกคัน 7 ศพ

23.30 น. ศูนย์นเรนทร (สพฉ.) รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดนครปฐม มีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับเสาไฟฟ้า และมีผู้เสียชีวิตหลายราย ริมถนนทางหลวงหมายเลข 3296 ช่วงโค้งวัดเกาะแรต ตำบลบางปลา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน 2488 กรุงเทพฯ ลักษณะเสียหลักชนกับเสาไฟฟ้า ก่อนพลิกคว่ำลงคูน้ำข้างทาง จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทั้งหมด 7 ราย เป็นชาย 2 รายและหญิง 5 ราย

เบื้องต้นทราบว่า รถกระบะ คันดังกล่าว บรรทุกแรงงานต่างด้าวจำนวน 6 คน พร้อมคนไทยเป็นคนขับ 1 คน ได้หลบหนีด่านของ สภ.บางเลน บริเวณโค้งเกาะแรต ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นตรปฐม ก่อนจะมาเสียหลักชนเสาไฟฟ้า แล้วตกลงไปในน้ำ จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน  


>> เพลิงไหม้โกดังเก็บของเก่า ย่านประชาอุทิศ 72 ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่ใช้น้ำดับทันก่อนจะลุกลาม

01.25 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยประชาอุทิศ 72 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นโครงสร้างเหล็ก หลังคาเมทัลชีท ผนังสังกะสี ประกอบกิจการรับซื้อของเก่าต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในร้าน เพลิงลุกไหม้ของเก่าประเภทขวดแก้ว และผนังสังกะสีบางส่วน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 20 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการลอบวางเพลิง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งครุ

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ