วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 23:47 น.
ในหลวง - พระราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิด อาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
เวลา 17.07 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
อาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ ก่อสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่และขยายการให้บริการผู้ป่วยนอก ให้ผู้ป่วยมีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้มากขึ้น มุ่งให้บริการที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และครบวงจร โดยตั้งอยู่ระหว่างอาคาร ภปร. และอาคาร สก. เป็นอาคารสูง 15 ชั้น และชั้นใต้ดิน 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 5 หมื่นตารางเมตร มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริการผู้ป่วย กำหนดพื้นที่ในการคัดกรองโรคติดต่ออย่างเป็นระบบ มีพื้นที่รอคอยที่สวยงาม สะดวกสบาย เป็นต้นแบบการบริบาลผู้ป่วยนอกของประเทศ และยกระดับการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขสู่สากล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามอาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ อันมีความหมายว่า “อาคารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นพระรามาธิบดินทรราชา รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์” พร้อมทั้งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. ประดิษฐานที่อาคารฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม 2566 และเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2567
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ซึ่งน้อมนำมาจากพระปฐมบรมราชโองการ โดยบริเวณทางเดินตึกวชิรุณหิศ (วะ-ชิ-รุน-นะ-หิด) โซน “สืบสาน” จัดแสดงเรื่องราวในอดีต ตั้งแต่การก่อตั้งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตั้งแต่ปี 2457 และพัฒนาการงานบริการผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ถึงปัจจุบัน ที่มีศักยภาพในการรองรับการบริการผู้ป่วยนอกได้สูงสุดวันละ 1 หมื่นคน หรือปีละมากกว่า 2 ล้านคน รวมทั้งพร้อมรับการส่งต่อผู้ป่วยโรคยากและซับซ้อนกว่า 2 แสนคนต่อปี
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงอาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ ชั้น 1 ทอดพระเนตรนิทรรศการฯ โซน “รักษา” ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวปัจจุบันที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ใช้เทคโน โลยีที่ล้ำสมัย พร้อมจัดแสดงความสำเร็จของโครงการ “แสงแห่งความหวัง” โครงการรักษาพยาบาลด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ซึ่งเป็นการรักษาที่ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน เข้าถึงได้ยาก และมีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบด้วยการรักษาโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน 72 คน, การผ่าตัดโรคเนื้องอกในช่องอกและช่องท้องด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด 72 คน, การผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง 36 คน และการรักษาโรคทางกระจกตาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง 36 คน ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาหายขาดจากโรค มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ส่วนที่ชั้น 2 นิทรรศการฯ โซน “ต่อยอด” จัดแสดงการก้าวไปสู่อนาคต ที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการบริการผู้ป่วย ประกอบด้วย หุ่นยนต์จ่ายยา, หุ่นยนต์ลงทะเบียนและคัดกรอง, หุ่นยนต์ช่วยรักษามะเร็งไทรอยด์ รวมทั้งการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หลากหลายรูปแบบในขั้นตอนการบริการต่าง ๆ และการปรับขั้นตอนบริการเพื่อให้ครบวงจรในจุดเดียว โดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
ทั้งนี้ อาคารจักรีทศมรามาธิบดินทร์ เป็นสัญลักษณ์ในการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ในการบำบัดโรคภัยให้การรักษาพยาบาลแก่ประชาชนถ้วนหน้าเสมอกัน ตลอดจนเชิดชูเกียรติแห่งกรุงสยามให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ และสอดคล้องกับหลักการดำเนินการของสภากาชาดไทย ที่ให้บริการแก่ประชาชนทุกระดับด้วยความเสมอภาคด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวไทย




10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568
ทต.หาดเล็ก ขอรับบริจาคอวนประมง ด่วน "เพื่อใช้ยุทธวิธีทางทหาร"
10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568
ทต.หาดเล็ก ขอรับบริจาคอวนประมง ด่วน "เพื่อใช้ยุทธวิธีทางทหาร"
10 ธันวาคม 2568