24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 26 กันยายน 2567
>> รถประจำทางชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
08.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถประจำทาง ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้า ใกล้เคียงซอยรัชดาภิเษก 62 ในพื้นที่เขตบางซื่อ กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถประจำทางปรับอากาศ สาย 49 อีซูซุ สีส้ม ป้ายทะเบียน กทม. จอดอยู่เลนขวาของถนน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีดำ-ส้ม ป้ายทะเบียน กทม. ล้มคว่ำ และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 20 - 25 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน
>> ภรรยา ผบ.ตร. หอบหลักฐานชี้แจง ก.ร.ตร. ปมเชื่อมโยงเส้นเงินเว็บพนัน
09.45 น. น.ส.นิภาพรรณ สุขวิมล “มาดามกุ๊กไก่” ภรรยา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดเผยหลังจากให้ข้อมูลกับคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) นานกว่า 3 ชั่วโมง ระบุว่า ขณะนี้ได้ให้ข้อมูลกับคณะกรรมการไปหมดแล้ว ซึ่งมั่นใจในพยานหลักฐานที่เตรียมมา 100% ส่วนประเด็นเรื่องบ้านในประเทศอังกฤษ ที่เคยมีข่าวว่าปกปิดบัญชีทรัพย์สินก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าได้ให้ข้อมูลเรื่องนี้กับ ป.ป.ช. ไปหมดแล้ว ไม่เคยปกปิดข้อมูลใดๆ ส่วนเรื่องของเส้นเงินที่ "ทนายตั้ม" ผู้กล่าวหากล่าวอ้างว่า มีเงินจากเว็บพนันโอนเข้าบัญชีหลักแสนบาททุกเดือนนั้น ก็ได้ชี้แจงกับคณะกรรมการ ก.ร.ตร. ไปแล้ว โดยขอให้ข้อมูลเรื่องนี้กับสื่อมวลชนภายหลัง
ด้าน พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานคณะกรรมการ ก.ร.ตร. ยอมรับว่า มาดามกุ๊กไก่ มีการชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงินและบ้านพักในประเทศอังกฤษ รวมถึงประเด็นข้อสงสัยอื่นๆ ที่คณะกรรมการตั้งปมไว้หมดแล้ว ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการก็จะต้องตรวจสอบควบคู่ไปกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นเส้นเงินจากธนาคารเพิ่มเติม โดยคาดผลการพิจารณาจะแล้วเสร็จทันกรอบระยะเวลา 240 วัน หากพบว่ามีความผิดทางอาญา คณะกรรมการจะส่งเรื่องไป ป.ป.ช. แต่หากพบเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรงก็สามารถดำเนินการพิจารณาเองได้เลย
ขณะที่ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร คณะกรรมการ ก.ร.ตร. เผยว่า นอกจากข้าราชการตำรวจ 3 คน ที่ผู้ร้องเรียนส่งมาให้คณะกรรมการตรวจสอบ ล่าสุดคณะกรรมการสอบสวนพบข้อมูลว่า มีเส้นเงินของข้าราชการตำรวจอีกกว่า 10 นาย เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันและส่วย 18 ธุรกิจ รวมถึงเครือญาติของ ผบ.ตร. ซึ่งส่วนนี้ก็จะต้องเรียกผู้ที่พบเชื่อมโยงเรื่องเส้นเงินทั้งหมดมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเป็นวงที่ 2 ด้วย
>> ปภ.ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง และ กทม.เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น
11.45 น. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 10 จังหวัด ภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน
>> เพลิงไหม้ห้องพักคนงานย่านบางบอน ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับทัน ก่อนจะลุกลาม
14.15 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยเอกชัย 109 ถนนเอกชัย แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นห้องพักคนงานโครงสร้างเหล็กชั้นเดียวหลังคาเมทัลชีท ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในห้อง เพลิงลุกไหม้ฝ้าเพดาน ฝาผนัง ลุกลามกองเสื้อผ้า พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่สายไฟฟ้าใต้ฝ้าเพดาน ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนเทียน
>> สุวรรณภูมิวุ่น สาวโปแลนด์ขู่มีระเบิด ไทยเวียตเจ็ทกลางอากาศ จนท.คุมตัวสอบข้อเท็จจริง
14.18 น. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งผ่านศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศว่า มีการข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานของสายการบินไทย เวียตเจ็ท เที่ยวบิน VZ961 จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีผู้โดยสาร 121 คน เป็นทารก 1 คน มีนักบินและลูกเรือ รวม 6 คน
โดย ทสภ. ได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับสายการบินและได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน บทที่ 3 เรื่องการขู่วางระเบิด และได้ประสานหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ทีมแพทย์และพยาบาล ทสภ. เข้าปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการตามแผนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยทันที เบื้องต้นได้นำอากาศยานดังกล่าวเข้าหลุมจอด ฝั่งทางทิศตะวันออกของอากาศยาน และได้ลำเลียงผู้โดยสารพร้อมลูกเรือออกจากอากาศยานโดยทันที หลังจากนั้นนำผู้โดยสารไปพักรอที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย ทสภ. ฝั่งตะวันออก โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ดำเนินการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด เข้าดำเนินการตรวจสอบกระเป๋าทุกชิ้นที่บรรจุใต้ท้องเครื่องและตรวจสอบอากาศยานอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีวัตถุต้องสงสัยเป็นวัตถุระเบิดแต่อย่างใด ทสภ. จึงได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนเผชิญเหตุในเวลา 16.31 น. โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้นำผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดไปส่งยังขั้นตอนผู้โดยสารขาเข้าปกติต่อไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการให้บริการของสนามบินแต่อย่างใด
นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากผู้โดยสาร เพศหญิง สัญชาติโปรแลนด์ ข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานขณะทำการบิน แต่อย่างไรก็ตาม ทสภ. ได้นำตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> "อัจฉริยะ" ยื่นสรรพากรตรวจสอบภาษี "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์"
15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบการเสียภาษีของ "แม่ตั๊ก กรกนก" กับพวกคาดใช้เอกสารอันเป็นเท็จในการยื่นสำแดงการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีรายได้บุคคลธรรมดา
โดย นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนในฐานะประชาชนทนไม่ได้ที่แม่ตั๊กกับพวกมีการโฆษณาโอ้อวดเกินความเป็นจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานมายื่นให้กรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบ โดยข้อมูลพบว่าแม่ตั๊กเปิดบริษัท 3 แห่ง ส่วนป๋าเบียร์ สามีนั้น เปิดบริษัท 7 แห่ง รวมกันแล้วมีบริษัท 10 แห่ง ซึ่งมีการก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2562 มีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท แต่มีการเสียภาษีเพียงแค่ 16.6 ล้านบาท ตนมองว่าไม่สมเหตุสมผลกับการใช้ชีวิตที่หรูหราของแม่ตั๊กและสามี จึงนําหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่แม่ตั๊กโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์เกี่ยวกับทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์หรู กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา บ้าน ที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าแต่ละชิ้นหลักหลายร้อยล้านบาท จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีเจตนาในการยื่นสำแดงภาษีอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบบริษัทที่ทําการตรวจสอบบัญชีรวมถึงเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรด้วย เพราะคาดว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นในการสร้างหลักฐานประกอบการยื่นภาษีอันเป็นเท็จ
ส่วนจะมีการฟอกเงินด้วยหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล คาดว่าทรัพย์สินทั้งหมดอาจมีการรับฟอกเงินให้กับธุรกิจผิดกฎหมายและมีนายตํารวจชั้นผู้ใหญ่หรือนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงลูกค้าที่คิดจะนําทองไปขายคืนว่า อย่าไปขายแลกกับเงินไม่กี่บาท แต่ให้มาแจ้งความที่ตํารวจ ปคบ. ซึ่งมีคณะกรรมการคอยตรวจสอบเรื่องนี้แล้วและท่านจะได้ค่าเสียโอกาสและค่าเสียหายมากกว่านําทองไปขายคืนหลายสิบเท่า คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าแม่ตั๊กกับพวกจะถูกออกหมายจับอย่างแน่นอน ทางเดียวที่จะรอดคือ "ช่องทางธรรมชาติ"
>> นายกฯ เตรียมลงพื้นที่เชียงราย-เชียงใหม่ ติดตามการช่วยเหลือเยียวยา-ฟื้นฟู ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
16.01 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการที่จะลงพื้นที่ จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27-28 ก.ย.นี้ โดยวันพรุ่งนี้ช่วงเช้า เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดงาน“ 30 บาทรักษาทุกที่เพื่อคนไทยสุขภาพดีทั่วหน้ากรุงเทพมหานคร” ที่ลานเอนกประสงค์ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติอาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกเดินทางจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จะเป็นประธานการประชุมบูรณาการแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ
ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางลงพื้นที่ติดตามการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัยและให้กำลังใจผู้ประสบภัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะพักค้างคืนที่จังหวัดเชียงราย 1 คืน
>> CIB รวบหนุ่มชาวจีนพร้อมเครื่อง Starlink 10 เครื่อง เตรียมนำส่งให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกลวง
16.07 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม นายเชา อายุ 25 ปี สัญชาติจีน ในความผิดฐาน ประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร” พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink จำนวน 10 เครื่อง สถานที่จับกุม ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink, ซิมการ์ด และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ได้ โดยในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 – เดือนกันยายน 2567 ได้มีการตรวจยึดเครื่อง Starlink จำนวน 86 เครื่อง, ซิมการ์ดกว่า 30,000 หมายเลข
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการ ปอศ. ได้สืบสวนติดตามตัวผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว โดยสืบทราบว่าจะมีการลักลอบส่งอุปกรณ์ดังกล่าว โดยจะส่งพัสดุมาที่ห้องพักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดความยากต่อการติดตามจับกุม จากนั้นจะมีผู้สั่งการแจ้งให้นำพัสดุไปส่งยังสถานที่ต่างๆ โดยจากการสืบสวนพบว่า ห้องพักดังกล่าวข้างต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อทำการตรวจค้น ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายค้นให้ตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว และสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นชายชาวจีนได้พร้อมด้วยเครื่อง Starlink จำนวน 10 เครื่อง จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> จ.นนทบุรี แจ้งเตือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ
18.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ตรวจสอบมาตรวัดน้ำพบว่าระดับน้ำขึ้นถึงระดับเฝ้าระวัง สูง 1.83 เมตร เหลือระดับน้ำอีกประมาณ 20 ซม. จะถึงจุดวิกฤต ซึ่งเทศบาลนครนนทบุรี ได้วางแนวกระสอบทรายตามริมเขื่อนและเฝ้าระวังตลอด 24 ชม พร้อมทั้งเตรียมเครืองสูบน้ำเร่งระบายน้ำที่ซึมเข้าตามแนวเขื่อนออกจากพื้นที่
ส่วนที่ท่าน้ำปากเกร็ด มาตรวัดน้ำขึ้นสูงถึงนะดับเฝ้าระวังเช่นกัน โดยมีระดับน้ำสูง 1.58 เมตร เหลือระดับน้ำอีกประมาณ 37 ซม. จะถึงจุดวิกฤต ซึ่งแนวริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าะระยา ยังสูงกว่าระดับน้ำประมาณ 50-70 ซม. น้ำจากแม่น้ำถึงจะล้นเขื่อนเข้าพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ส่วนบ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยานอกคันกั้นน้ำ ะบว่าระดับน้ำแตะพื้นบ้านแล้ว ซึ่งทางเทศบาลนครปากเกร็ดได้ประกาศให้ชาวบ้านริมน้ำยกของขึ้นที่สูงแล้ว
>> ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง หวิดเกิดเพลิงไหม้บ้าน
19.09 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยเคหะร่มเกล้า 31 แยก 4-2 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง เพลิงลุกไหม้เสียหายพัดลมไอน้ำ ลุกลามกองเสื้อผ้า เเละตู้โชว์ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้า
>> รถกระบะ เสียหลักชนเสาไฟส่องสว่าง บาดเจ็บ 2 และเสียชีวิต 1 ราย
19.30 น. สภ.มะขาม รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำ มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย โดย 1 รายอาการสาหัส บนถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ช่วงบ้านชำปาง ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน นครราชสีมา สภาพรถพังยับเยิน ยางล้อหลังซ้ายแตก เสาไฟส่องสว่างเกาะกลางถนนถูกชนหักโค่น 1 ต้น โดยมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เป็นชาย 1 รายและหญิง 2 ราย เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่ง รพ.ใกล้เคียงจำนวน 2 ราย ส่วนอีก 1 รายนั้นอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพช่วยเหลือปั๊มหัวใจมาตลอดทาง ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ น.ส.ปราณี อายุ 46 ปี
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ทั้งหมดไปรับผลลองกองที่ตัดมาจาก บ้านทุ่งกร่าง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เดินทางไปส่งที่ จ.ระยอง ขับมาถึงจุดเกิดเหตุคาดยางล้อระเบิดทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำขึ้นเกาะกลางฟาดกับสาไฟส่องสว่าง เหวี่ยงร่างน.ส.ปราณี กระเด็นออกจากรถถูกตัวทับร่างซ้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
22.15 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.5 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 188 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำกลางถนนเทพรัตน (บางนาตราด) ฝั่งขาเข้า ก่อนถึงใต้ต่างระดับศรีเอี่ยม พบผู้เสียชีวิต 2 ราย
00.20 น. รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้เสียชีวิต ถนนเทพรัตน ขาเข้า ช่องทางคู่ขนาน ช่วงหน้าซอยบางนาตราด 50 ในพื้นที่เขตบางนา กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีขาว ป้ายทะเบียน 7719 กทม. ล้มคว่ำอยู่กลางถนน และใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 2 ราย อายุประมาณ 20 - 30 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา
>> หนุ่มวัย 26 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ เสียชีวิตช่วงทางกลับรถใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์
01.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ถนนราชพฤกษ์ - นนทบุรี 1 บริเวณทางกลับรถใต้สะพานสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี
มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ สีเขียว-ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน เสียหลักพลิกคว่ำ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 26 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง กลางถนนเจ้าคุณทหาร
03.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต บนถนนเจ้าคุณทหาร ช่วงใกล้เคียงเชิงทาขึ้นต่างระดับข้ามแยกเข้าคลังสินค้า ไอซีดี ในพื้นที่เขตลาดกระบัง กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ป้ายทะเบียน กทม. ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บชาย 1 ราย อาสากู้ภัยช่วยเหลือและนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 9 และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 20 ปี
อาสากู้ภัย ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่มากับรถกระบะคันดังกล่าว มีเพียงโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องและกระเป๋าสตางค์วางไว้ในรถ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ร่วมตรวจสอบและจะติดตามประสานผู้ครอบครองรถกระบะมาสอบสวนต่อไป
26 กรกฎาคม 2568
26 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ