หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจไซเบอร์ รวบสาวเบญจเพส 3 หมายจับ เครือข่ายอ้างบริษัทบัตรเครดิต เหยื่อคุยตำรวจเก๊มีเนียนแทรกเสียงวิทยุ

วันที่ 4 กันยายน 2567 เวลา 10:23 น.


สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 พ.ย.65 ขณะที่กำลังพักอยู่ที่บ้าน ได้มีมิจฉาชีพเป็นผู้หญิงโทรเข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทบัตรเครดิต KTC แจ้งว่าผู้เสียหายได้เปิดบัตรเครดิตที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาโคราช และใช้บัตรดังกล่าวไปรูดเงินซื้อทองคำ ในราคา 98,653 บาท เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ผู้เสียหายจึงปฏิเสธไม่ใช่เจ้าของบัตร หญิงคนดังกล่าวจึงแนะนำให้แจ้งความกับตำรวจ สภ.โคราช

จากนั้นมิจฉาชีพจึงโอนสายไปให้ชายปริศนาที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ให้ผู้เสียหายแอดไลน์ชื่อ “สภ.เมืองนครราชสีมา” และได้ส่งรูปบัตรตำรวจให้ผู้เสียหายดู จากนั้นได้ขอข้อมูลส่วนตัวผู้เสียหายเพื่อไปตรวจสอบ โดยขณะคุยสายนั้น มีการสร้างสถานการณ์โดยมิจฉาชีพให้บุคคลที่ 3 แสร้งทำเป็นพูดวิทยุเข้ามา และเอ่ยชื่อผู้เสียหาย พร้อมพูดว่าพบการพัวพันกับคดีฟอกเงินโดยมีความเกี่ยวพันกันหลายคน

ต่อมามิจฉาชีพจึงขอข้อมูลว่าผู้เสียหายมีบัญชีธนาคารของแต่ละธนาคารกี่บัญชี และใช้งานแอป Mobile Banking ของธนาคารใดบ้าง และมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงให้ข้อมูลไป ต่อมามิจฉาชีพจึงส่งเอกสารที่อ้างว่ามาจาก ป.ป.ง. เพื่อขอตรวจสอบเส้นทางการเงิน และแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินไปตรวจสอบ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินไปหมดทุกบัญชี รวมทั้งสิ้นจำนวน 197,599 บาท เมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอกลวงจึงได้เข้าแจ้งความในเวลาต่อมา

กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 3 ก.ย. 67 ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัว 1 ในผู้ต้องหาของขบวนการดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา อายุ 25 ปี โดยควบคุมตัวได้บริเวณ สถานีรถไฟอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้น ผู้ต้องหา ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้หลอกให้โอนเงินจริง โดยได้รู้จักกับคนที่ว่าจ้างเปิดบัญชีผ่านทางเฟชบุ๊ก ได้ค่าตอบแทนจำนวนบัญชี 1,000 บาทต่อบัญชี นอกจากนี้ จากข้อมูลการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบอีกว่า นางสาวศิริวรรณ ยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอศาลออกหมายจับอีกจำนวน 2 หมาย ในความผิดลักษณะเดียวกันซึ่งเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้แก่

1. หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ฐาน “เป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

2. หมายจับศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น,ร่วมกันโดยทุจริต โดยหลอกลวงนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดนประการที่น่าจะเกิดคว่ามเสียหายแก่ประชาชน

ข่าวยอดนิยม