หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 05:39 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

 

>> กรมศุลกากร เตรียมทำลายบุหรี่ไฟฟ้า 72 ล้านบาท

10.00 น. นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา และบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการทำลายบุหรี่ไฟฟ้าของกลางที่คดีสิ้นสุด และผลการตรวจยึดสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า พร้อมของกลาง น้ำยา-อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 72 ล้านบาท และสินค้าแบรนด์เนม อาทิ กระเป๋า, เสื้อผ้า, พรม, รองเท้า, น้ำหอม แบรนด์ดัง มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 150 ล้านบาท

จากการระดมการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า และทำลายของกลางในในความผิดตามกฎหมายศุลกากรที่คดีสิ้นสุดแล้ว มูลค่ากว่า 72 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้กรมศุลกากรทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ได้จับกุมและตรวจยึดสินค้าจากห้างร้าน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงโกดัง ซึ่งประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยมาโดยตลอด และมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งของกลางดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินและรอการทำลาย โดยของกลางที่นำไปทำลายครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 874,535 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 72,019,523.46 บาท


>> นายกฯ ตรวจเยี่ยมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล เร่งผลักดันอาหารฮาลาลไทย ขยายตัวสู่ทั่วโลก

10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับฟังบรรยายและเยี่ยมชมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ณ อาคารวิจัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
นายกฯ กล่าวว่ารู้สึกภาคภูมิใจ สำหรับคนไทยและประเทศไทย ซึ่งศูนย์แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศ อันจะส่งผลให้สินค้าฮาลาลของไทยมีมาตรฐานในระดับสากล

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ผลักดันนโยบาย “อาหารไทย อาหารโลก” ที่มุ่งเน้นการขยายตลาดอาหารไทยไปยังตลาดโลกมาโดยตลอด ควบคู่กับการส่งเสริมการผลิตและการส่งออกสินค้าฮาลาลมาอย่างต่อเนื่อง


>> ไฟไหม้เพิงพัก เสียหายวอดทั้งหลัง

10.56 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ ซอยราษฎร์พัฒนา 4 แยก 1 ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะทีเกิดเหตุเพิงพักชั้นเดียวโครงสร้างไม้ หลังคาสังกะสี ประกอบกิจการที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในเพิงพัก เพลิงลุกไหม้โรงเก็บไม้เสียหายหมดทั้งหลัง พื้นที่เพลิงไหม้ 60 ตารางวา ลุกลามเพิงพักไม่มีเลขที่ ไหม้ที่นอน เครื่องครัว พัดลมตั้งพื้น ตู้เสื้อผ้า พื้นที่เพลิงไหม้ 6 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก เพลิงไหม้หญ้าลุกลามเพิงพัก ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้า


>> ออกหมายเรียกไรเดอร์แท็กซี่ มารับทราบข้อหา เชิดช่อเงินสด กว่า 5 หมื่น

12.50 น. พ.ต.อ.ศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผกก.สน.บางเสาธง เผยถึง ความคืบหน้ากรณี ผู้เสียหายโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัย ถูกนายณรงค์ศักดิ์ อายุ 45 ปี คนขับแท็กซี่ส่งของ เชิดดอกไม้ช่อเงินมูลค่า 53,550 บาท ที่เตรียมนำไปเซอร์ไพรส์วันรับปริญญาแฟนหนุ่ม 
โดยสั่งเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้สั่งช่อเงินจากร้านดอกไม้ และทราบว่าเจ้าของร้าน ได้ว่าจ้างผ่านแอปฯให้ นายณรงค์ศักดิ์ มารับนำช่อเงินดังกล่าวจากที่ร้านไปส่งให้ลูกค้าย่าน จ.ปทุมธานี ต่อมาก็พบว่า นายณรงค์ศักดิ์ ยักยอกนำช่อดอกไม้เเละเงินสดทั้งหมดไป พร้อมปิดแอป ไม่สามาถติดต่อได้ แต่อ้างว่ามีคนมารับช่อดอกไม้และส่งมอบให้ไปแล้ว

ล่าสุด โดยผู้ขับขี่ ยังไม่เข้ามาพบผู้เสียหายตามที่นัด ตำรวจได้ส่งสายสืบไปตามตัวตามทะเบียนบ้านที่อยู่ย่านคลองสาน และยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามตามตัวทุกช่องทาง ขณะเดียวกัน ก็เตรียมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ยักยอกทรัพย์ 
ทั้งนี้ หากไม่มาก็อาจจะพิจารณาออกหมายจับต่อไป ส่วนเจ้าของร้าน เบื้องต้นได้มีการนัดพูดคุยกับลูกค้าซึ่งมีการโอนเงินคืนให้ลูกค้าทั้งหมดแล้ว


>> ศาลฎีกาพิพากษา อดีตรองเลขา ป.ป.ช. ฐานยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ

14.46 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาว่า นายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาธิการ ป.ป.ช. จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์ควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินจำนวน 6 รายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินและหนี้สินในชื่อของ นางธนิภา พวงจำปา (คู่สมรส) เป็นทรัพย์สินในประเทศ จำนวน 2 รายการ กว่า 2 ล้านบาท และทรัพย์สินในต่างประเทศ จำนวน 4 รายการ กว่า 225 ล้านบาท มูลค่ารวมกว่า 227 ล้านบาท

การไต่สวนพบว่านางธนิภายังคงเป็น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และมีสัญญากู้กับธนาคารกรุงเทพสาขาลอนดอนอยู่ จนกระทั่งถึงวันที่นายประหยัดยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในฐานะในฐานะรองเลขาธิการ ป.ป.ช.

โดยศาลพิพากษา ว่านายประหยัดมีความผิดตามฟ้อง ให้พ้นจากตำแหน่งในวันที่มีคำวินิจฉัย ห้ามดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลา 5 ปี และลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี


>> รถกระบะ ชนประสานงารถบรรทุก เสียชีวิตร่างติดค้างในซากรถ 3 ศพ

15.19 น. รับแจ้งจาก อาสาบางแก้วเมตตาธรรม พิศณุโลกย์ เกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1114 เส้นทางสายบางกระทุ่ม - เนินกุ่ม ในพื้นที่ บ้านบึงช้าง ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก

โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ยี่ห้อ นิสสัน สีเทา ทะเบียน พิษณุโลก ลักษณะชนประสานงากับ รถบรรทุก ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน พิจิตร ความรุนแรงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายติดอยู่ในซากรถ และมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 รายนำส่ง รพ.บางกระทุ่ม ทราบชื่อ น.ส.พรศิริ อายุ 19 ปี อาสากู้ภัยฯ ใช้เครื่องมือตัดถ่างเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากยานพาหนะ และตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อต่อมา นายพิษณุ นางอำพัน และน.ส.ขวัญตา ทั้งหมดมีภูมิลำเนาเป็นชาวบ้าน ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม 


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกระทุ่ม จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวช รพ.พุทธชินราชพิษณุโลก และจะทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


>> ผบ.ตร.ร่วมพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง กว่า 20,000 กระบอก

16.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์. ผบช.สกบ. พล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ.ระยอง เข้าร่วมพิธีเป็นสักขีพยาน

โดยพิธีทำลายอาวุธปืนของกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เป็นการนำเอาอาวุธปืนของกลางซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว โดยถูกเก็บรักษาไว้ที่กองสรรพาวุธ แล้วขออนุมัติเพื่อจัดพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง โดยจะใช้วิธีการทำลายผ่านเครื่องจักรบดอัดให้เสียสภาพ แล้วนำไปหลอมในเตาหลอมอุณหภูมิสูง เพื่อให้อาวุธปืนของกลางทั้งหมดสิ้นสภาพที่จะนำมาใช้งานได้ โดยในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเครื่องจักรคุณภาพสูงในการหลอมโลหะด้วยอุณหภูมิสูง มีอาวุธปืนของกลางที่จะเข้าสู่กระบวนการหลอมทำลายจำนวน 13,559 กระบอก นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนอีกส่วนหนึ่งที่เข้าระเบียบที่หน่วยงานระดับสถานีสามารถทำลายได้เอง และมีการดำเนินการทำลายไปแล้วในช่วงระหว่างวันที่ 1 ต.ค.65 ถึง 31 ม.ค.66 อีกจำนวน 7,176 กระบอก รวมจำนวนอาวุธปืนที่ทำลายทั้งสิ้น 20,735 กระบอก

ผบ.ตร. กล่าวว่า พิธีทำลายอาวุธปืนของกลางครั้งนี้ จำนวน 20,735 กระบอก เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน ไม่ให้มีการนำอาวุธของกลางซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว ออกไปใช้ในทางมิชอบ อย่างไรก็ตาม การทำลายอาวุธปืนของกลาง เป็นเพียงหนึ่งในมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายของ ตร. ที่ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกมิติ ทั้งการระดมกวาดล้าง จับกุมแหล่งผลิต จำหน่าย โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายออนไลน์ เมื่อจับกุมได้ให้ขยายผลดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังทุกราย รวมทั้งประสานฝ่ายปกครองในการเพิกถอนใบอนุญาต เพื่อแก้ปัญหาอาวุธปืนผิดกฎหมาย ไม่ให้นำมาก่อเหตุความรุนแรงในสังคมตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน


>> รถเก๋ง ชนตำรวจแล้วหนี ทำให้เสียชีวิต บนวงแหวนกาญจนาภิเษก ก่อนดอดเข้ามอบตัวภายหลัง

17.20 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุบนวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก (ทล.9) ฝั่งมุ่งหน้าบางปะอิน โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณ กม.30+200 หรือบนต่างระดับลำลูกกา

โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ของตำรวจทางหลวง ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเทรเซอร์ 900 สีขาว หมายเลขทะเบียน -16 กรุงเทพมหานคร ห่างกันประมาณ 80 เมตร ช่วงทางลาดลงสะพาน พบรถนั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หน้ารถฝั่งซ้ายมีร่องรอยการชนจนได้รับความเสียหายพังยับเยิน ล้อหน้าและล้อหลังฝั่งขวาแตก ภายในห้องโดยสารพบขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตกอยู่ 1 ขวด อาวุธปืนยิงปลา ส่วนผู้ขับขี่ได้หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ จากความรุนแรงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตชาย 1 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ทราบชื่อต่อมา ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผบ.หมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.

ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. ที่ผ่านมา ชายผู้ต้องหาขับรถเก๋งคันดังกล่าวเข้ามอบตัวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวสอบสวน


>> เพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้าในตลาดอินโดจีน

18.00 น. ร.ต.อ.อุทัย ศรีแนน ร้อยเวร สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตลาดอินโดจีนที่ร้านเสงี่ยม 2 ถนนสำราญชายโขง ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายวลัยพรรณ น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และนายบุญเรือง เมฆฉิม รองผู้ว่าราชการ จ.มุกดาหาร เข้ามาบัญชาการควบคุมสั่งการในการดับเพลิงในครั้งนี้

ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง บริเวณโกดังเก็บสินค้าของนางอุไรวรรณ สำราญชัยโขง อายุ 68 ปี เป็นเจ้าของร้านเสงี่ยม 2 ซึ่งเป็นโกดังเก็บสินค้าประเภทร่ม และสินค้าอื่น ๆ อีกหลายรายการ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากเทศบาลเมืองมุกดาหาร ปภ.จังหวัดมุกดาหาร และพื้นที่ใกล้เคียงร่วมดำเนินการฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด เพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ลามไปห้องข้าง ๆ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันขนสินค้าบางส่วนออกมาวางไว้ข้างถนน เพื่อไม่ให้เป็นเชื้อเพลิง และเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปดับเพลิงได้อย่างสะดวก เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงไว้ได้ 
ขณะเกิดเหตุยังไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร


>> ดาบตำรวจ ขี่รถ จยย.ปฎิบัติหน้าที่ เฉี่ยวชนกับรถบรรทุก 4 ล้อเสียชีวิตบนทางพิเศษฯ 

20.24 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เกิดอุบัติเหตุ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก ช่วง กม.14+800B ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

โดยที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน 8357 กทม. ลักษณะเฉี่ยวชนท้ายรถบรรทุก 4 ล้อเล็ก อีซูซู ทะเบียน 8778 กทม. ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.สมุทรปราการ และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ ดต. พนัศ ผ่องจิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตร.ด่วน 6 สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ  
 

>> กระบะ เสียหลักหมุนไปชนจักรยานยนต์กระเด็นตกน้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต

21.50 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุ บริเวณถนนใต้ทางพิเศษกาญจนาภิเษก บริเวณซอยบางปูนคร ใกล้ตลาดนัดสังกะสี ฝั่งมุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านเฟื่องฟ้า 15 เขตพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซู สีขาว และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีส้ม-ดำ ทะเบียน -8642 กทม. จมอยู่ในน้ำ พลเมืองดีขับรถผ่านมาเห็นฟองอากาศในน้ำ กระโดดลงไปช่วยงมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจากน้ำ ก่อนโทรแจ้งกู้ภัยช่วย แต่ผู้บาดเจ็บอาการสาหัส กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งปั้มหัวใจกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล ชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นาย ชัยสิทธิ์ อายุประมาณ 29 ปี

สอบถามชาวบ้านให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเสียหลักหมุนชนจักรยานยนต์จนตกลงไปในน้ำเป็นเหตุให้ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ควบคุมตัวผู้ขับขี่รถกระบะ ไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> แผ่นดินไหว ประเทศเมียนมา

02.10 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.2 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 58 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย 
 

>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 05.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 679,208,753 ราย รักษาอาการดีขึ้น 652,018,322 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,794,781 ราย

1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 105,094,456 ราย เสียชีวิต 1,143,781 คน (เพิ่มขึ้น 21 คน) 
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,685,450 ราย เสียชีวิต 530,763 คน (เพิ่มขึ้น 1 คน) 
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 39,605,037 ราย เสียชีวิต 164,848 คน (เพิ่มขึ้น 19 คน) 
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,068,912 ราย เสียชีวิต 167,604 คน (เพิ่มขึ้น 113 คน) 
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 36,997,328 ราย เสียชีวิต 698,381 คน (เพิ่มขึ้น 334 คน)  

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ