หน้าแรก > สังคม

ปิดตำนาน "เหยี่ยวดำ" มือปราบตี๋ใหญ่ พ.ต.อ.บรรดล ตัณฑไพบูลย์

วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 เวลา 10:05 น.


ปิดตำนานเหยี่ยวดำ “มือปราบตี๋ใหญ่” พ.ต.อ.บรรดล ตัณฑไพบูลย์ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 76 ปี

วันที่ 12 ก.ค. 2567 ในโลกออนไลน์ต่างเขียนข้อความแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ พ.ต.อ.บรรดล ตัณฑไพบูลย์ วัย 76 ปี มือปราบเหยี่ยวดำ ผู้สร้างตำนานปราบ “ตี๋ใหญ่” ถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็งปอด หลังเข้ารักษาที่ รพ.ตำรวจ

สำหรับ “ตี๋ใหญ่” ชื่อจริงคือนายกรประเสริฐ ช่างเขียน อดีตจอมโจรชื่อกระฉ่อนของไทยในยุคระหว่างปี พ.ศ. 2516-2524 อาชญากรหมายเลขหนึ่งตามหมายจับของกรมตำรวจ โดยก่อเหตุปล้นฆ่าจาก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้แผ่ขยายเข้ามาในกรุงเทพฯ ก่อคดีมากมายสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนอย่างหนัก

พ.ต.อ.บรรดล ในขณะนั้น เป็นตำรวจชั้นประทวน ถูกส่งตัวเข้าไปทำงานสืบสวนหาข่าวนานกว่า 5 เดือน นำมาสู่การจับกุมลูกน้องของ “ตี๋ใหญ่” ได้หลายคน จนในที่สุดก็สามารถปิดบัญชี “ตี๋ใหญ่” ได้สำเร็จ โดยถูกจับตายเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2524

พ.ต.อ.บรรดลฯ นักสืบพันธุ์แท้ ที่ทำงานมาตลอดชีวิตราชการ จับปืนเสี่ยงตายไล่เด็ดหัวโจรผู้ร้ายมานับไม่ถ้วน

ประวัติการศึกษา

พ.ต.อ.บรรดลฯ เป็นคนจังหวัดลำปาง ไปโตที่เชียงใหม่ เรียนหนังสือโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ก่อนเข้ามาสมัครเป็นตำรวจสังกัดกองสืบสวนภูธรภาค 1 ยุค พล.ต.ท.จำรัส มังคลารัตน์ คุมหน่วยตำรวจภูธรทั่วประเทศ เพราะชอบชีวิตโลดโผนผจญภัยมาตั้งแต่เด็ก

พ.ต.อ.บรรดลฯ บอกว่า “มีความรู้สึกลึกๆ ว่าอาชีพตำรวจตรงกับนิสัยผม ที่ไม่ค่อยกลัวคน ไม่ชอบให้ใครมารังแก ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ยิ่งโจรผู้ร้าย คำว่ากลัวโจรไม่อยู่ในหัว เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย ผมไม่เคยกลัว”

ภารกิจสำคัญ ปลอมเป็นโจร เพื่อจับ “ตี๋ใหญ่”

สมัยเป็นตำรวจหนุ่ม พ.ต.อ.บรรดลฯ พยายามเรียนรู้สะสมประสบการณ์งานสืบสวนจากรุ่นพี่ไว้มากมาย กระทั่งไปเข้าตา พ.ต.ต.ศิริ ทองมี สารวัตรกองสืบสวนภูธรภาค 1 แนะนำให้ไปร่วมวางแผนจับหัวหน้าโจรชื่อดัง “ตี่ใหญ่” ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านมาหลายท้องที่

โดย พ.ต.อ.บรรดลฯ ต้องปลอมตัวเข้าไปอยู่ในรังโจร สารวัตรศิริฯ ให้เหตุผลว่า “อั๊วต้องการให้ลื้อไปสืบสวนคดีนี้ ต้องการได้รับข้อมูลจากลื้อโดยตรง ไม่ใช่จากสาย” พ.ต.อ.บรรดลฯจำคำพูดวันนั้นได้ไม่ลืม

พ.ต.อ.บรรดลฯ ยอมรับว่า ไม่รู้จักตี๋ใหญ่มาก่อน รู้แค่คนดำเนินสะดวกเหมารถบัสมาร้องทุกข์ พล.ต.ท.จรัส เพ็ญเจริญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 บอกโจรผู้ร้ายเต็มเมืองไปหมดแล้ว ขอให้ส่งกำลังตำรวจไปปราบด้วย คลองดำเนินสะดวก ตอนนี้ดำเนินไม่สะดวกแล้ว

สารวัตรศิริฯ ถาม พ.ต.อ.บรรดลฯ ย้ำว่า “เอามั้ยบรรดล มันเสี่ยงนะมึง”

พ.ต.อ.บรรดลฯ กลับไปคิดอยู่ 1 คืน เอาแฟ้มขอมูลของแก๊งตี๋ใหญ่มานอนอ่าน รุ่งขึ้นตัดสินใจตอบตกลงทันที เข้าไปสืบสวนหาเบาะแสนานกว่า 5 เดือน กินนอนอยู่กับสาย ขาดออกจากงานในหน้าที่เลย ลงประจำวันไว้

พล.ต.ต.เริงณรงค์ ทวีโภค รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 บอกกับทุกคนว่า “ถ้าบรรดลเป็นอะไรตายไป ให้ถือว่าตายในขณะปฏิบัติหน้าที่”

การสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของตี๋ใหญ่กับลูกสมุนผ่านไปด้วยดี พ.ต.อ.บรรดลฯ สามารถเจาะข้อมูลส่งข่าวไปยังสารวัตรศิริ และทีมงานวางแผนจับกุมลูกน้องของตี๋ใหญ่ได้หลายคน

ทำให้มันเริ่มระแวงว่าต้องมีใครสักคนในกลุ่มทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ หลังจากลูกน้องคนสนิทของมันถูกตำรวจสืบสวนเหนือบุกล้อมจับถึงแหล่งกบดานก่อนวิสามัญฆาตกรรมวันเดียว 4 ศพในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิต และพญาไท

ถัดจากวันนั้น พ.ต.อ.บรรดลฯ โดนคำสั่งให้ถอนตัวออกมา เพื่อไม่ให้เสี่ยงอันตราย แต่ยังคงทำงานสืบสวนไล่ล่าตี๋ใหญ่กับสารวัตรศิริฯ และทีมของสืบสวนเหนือที่มี พ.ต.อ.เจริญ โชติดำรงค์ เป็นผู้กำกับ รวมถึง พ.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ หากแต่ ตี๋ใหญ่ยังสามารถแหกวงล้อมยิงตำรวจสายตรวจ 191 เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.2522 ในท้องที่เมืองนนทบุรี

ปีต่อมา พ.ต.อ.บรรดลฯ เข้าอบรมนายตำรวจ ลงทำงานเป็นรองสารวัตรสืบสวนโรงพักห้วยขวาง ตามคำชวนของ พ.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ที่ย้ายเป็นรองผู้กำกับการนครบาล 3 คุมพื้นที่รับผิดชอบอยู่ ทั้งที่ตอนแรก พ.ต.อ.บรรดลฯ เตรียมย้ายไปทำงานร่วมกับ พ.ต.อ.ถวิล เปล่งพานิช พ่อของนก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช พระเอกหนุ่มคนดังที่เมืองเพชรบุรี เนื่องจากเห็นโจรผู้ร้ายเต็มไปหมด แต่ พ.ต.อ.ถวิล กลับมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อน

จากนั้นไม่นานตี๋ใหญ่ก็ถูกจับตายเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2524 ปิดบัญชีโจรชื่อก้องได้สำเร็จ

ทำตามความฝัน อยากทำงานที่ “สืบเหนือ”

พ.ต.อ.บรรดลฯ มีความใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจสืบเหนือมาก ตั้งเป้าไว้กับตัวเองว่า ชาตินี้ทั้งชาติต้องเป็นตำรวจสืบสวนเหนือให้ได้ แล้วฝันของเขาก็กลายเป็นจริง

เมื่อ พ.ต.อ.เจริญ โชติดำรงค์ ดึงเขาไปเป็นรองสารวัตรกองสืบสวนเหนือ ใช้ชีวิตนักสืบอยู่ที่นั่นนาน 6 ปี ได้รับโล่เกียรติยศสืบสวนดีเด่นครั้งแรกในชีวิตจาก พล.ต.ท.มนัส ครุฑไชยยันต์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

แต่ก็เกือบสังเวยชีพมา 1 ครั้ง หลังไปล้อมจับมือปืนรับจ้างกับ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่เวลานั้นเป็นสารวัตรสืบสวนเหนือ

ปรากฏว่า พ.ต.อ.บรรดลฯ ถูกคนร้ายยิงเข้าไหล่กระสุนเฉี่ยวไขสันหลังไปนิดเดียว หวิดพิการไปตลอดชีวิต ขณะที่ พล.ต.ต.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง เพื่อนคู่หูถูกยิงเข้าหน้าท้องแตกบาดเจ็บสาหัส มีลูกน้องชั้นประทวนตาย 1 คน ส่วนคนร้ายถูกยิงตายด้วย

ที่มาของฉายา “มือปราบเหยี่ยวดำ”

พอ “สมเกียรติ พ่วงทรัพย์” ย้ายไปขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธร 7 จังหวัดลำปาง เลยดึง พ.ต.อ.บรรดลฯ ไปเป็นมือทำงาน ตำแหน่งสารวัตรสืบสวนเมืองเชียงใหม่ กลับถิ่นเกิด เป็นจังหวะที่ พล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งสารวัตรใหญ่เมืองเชียงใหม่ ได้ก่อตั้งหน่วยสืบสวนเหยี่ยวดำขึ้นมา จึงตั้งให้ พ.ต.อ.บรรดลฯ เป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจเหยี่ยวดำ กลายเป็นที่มาของฉายา “มือปราบเหยี่ยวดำ” ติดตัว พ.ต.อ.บรรดลฯ ถึงปัจจุบันนี้

พ.ต.อ.บรรดลฯ ต้องย้ายไปหลายตำแหน่ง ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เวลานั้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.บรรดลฯ ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จึงดึงเขาไปเป็นรองผู้กำกับสืบสวนภูธรภาค 2 ช่วยปราบปรามผู้มีอิทธิพลของเจ้าพ่อภาคตะวันออก

มือปราบเหยี่ยวดำ จำต้องย้ายกลับเข้ากรุงอีกครั้ง เมื่อ พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนท์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจัดกระบวนทัพนักสืบใหม่ให้ พ.ต.อ.บรรดลฯ เป็นรองผู้กำกับการสืบสวนนครบาลธนบุรี ปราบโจรทุกรูปแบบตามสไตล์

พ.ต.อ.บรรดลฯ เติบโตในงานตำรวจทั้งงานสืบสวน และงานอำนวยการ จนเกษียณในตำแหน่ง รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดสระบุรี

ฝากถึงน้องตำรวจรุ่นใหม่

พ.ต.อ.บรรดลฯ กล่าวว่า “ผมกล้าพูดอย่างไม่อาย ไม่กระดากปาก ผมนักสืบของแท้ ของแท้ๆ เลือดทุกหยดผมเป็นตำรวจนักสืบ

ทุกวันนี้น้องทุกคน ไม่ทำงานเหมือนสมัยพวกผมทำงานเป็นนักสืบเด็กๆ เลย ไม่ค่อยมีสาย ไม่ใช้สายข่าว แต่หาข่าวจากคอมพิวเตอร์หมดแล้ว

สมัยก่อนอยู่สืบเหนือ ตำรวจนักสืบจะรู้ล่วงหน้านะว่าจะมีการปล้นแบงก์ ปล้นร้านทอง เดี๋ยวนี้เกิดก่อนแล้วค่อยมาตามจับ ไม่ค่อยสมบุกสมบันกัน

นอกจากนี้ ยังอยากฝากถึงนายตำรวจระดับผู้กำกับขึ้นไปที่แต่งเครื่องแบบ ไม่พกปืนติดตัว ไม่พร้อมที่จะทำงานกันเลย

ผมขอเตือนสติกันไว้หน่อย มีตำรวจเยอะแยะที่ถูกยิงตายขณะสวมเครื่องแบบ แล้วไม่มีปืนพก เช่น นั่งกินข้าวอยู่ในตลาด แล้วมีการปล้นร้านทองเกิดขึ้น ปืนไม่มีแล้วจะเอาอะไรไปสู้กับโจร

ท่านกำลังตั้งอยู่ในความประมาท การแต่งเครื่องแบบตำรวจนั้น ต้องพกปืนติดตัว ติดเอวตลอดเวลา มันสง่านะครับ อย่าได้ห่างปืน”

ขอบพระคุณข้อมูลจาก Cop’s Magazine และ Police News Varieties

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ