วันที่ 6 กรกฎาคม 2567 เวลา 04:17 น.
จ.นนทบุรี หนุ่มคลั่งจุดไฟเผาบ้านพัก อดีตภรรยาคาดว่าแค้นเรื่องลูก หลังแม่ยายให้ทหารไปอุ้มลูกชาย
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 5 ก.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านพักโครงการฯ ในพื้นที่ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด ได้รับความเสียหาย จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครปากเกร็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หลังสุดท้ายของซอย ชั้นบนแบ่งเป็น 2 ห้องนอน เป็นสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่พักอาศัย สำหรับ 2 ครอบครัว คือ ครอบครัวของ น.ส.อาย (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ และครอบครัวของ น.ส.พลอย (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี และสามีนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี โดยก่อนหน้าชาวบ้านได้ช่วยกันนำกระป๋องตักน้ำมาช่วยดับไฟไปก่อน เหลือเพียงกลุ่มควัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้รถน้ำจำนวน 2 คันเข้าตรวจสอบและควบคุมเพลิง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมาถึงได้ควบคุมตัวนายเชด (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ผู้ก่อเหตุไว้ได้ขณะนั่งอยู่ข้างบ้าน
จากการตรวจสอบบ้านเกิดเหตุ พบว่ากระจกหน้าบ้านแตกเสียหายหลายบาน ด้านในพบข้าวของกระจัดกระจาย เครื่องใช้ไฟฟ้าพังเสียหาย กระจกหน้าต่างและบานเกล็ดแตกเป็นรู มีคราบเขม่าไฟติดตามเพดานและกำแพงบ้าน ไฟได้ลามไปไหม้เสื้อผ้าของทั้ง 2 ครอบครัวเสียหายหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกันพื้นที่ไว้ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ พฐ.เข้าตรวจสอบเพื่อเก็บหลักฐานอีกครั้ง
จากการปากคำ ผู้ก่อเหตุ ขณะควบคุมตัวได้ กลับให้การ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเผา แต่ไฟมันไหม้เอง แต่หลังจากสืบสวนสอบเข้มจึงยอมรับว่าได้จุดไฟแช็คเผาเสื้อตัวเอง 1 ตัว จากนั้นได้โยนเข้าไปที่ราวเสื้อผ้าในบ้าน จนไฟได้ลุกลาม เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นว่าไฟได้ลุกไหม้มากขึ้นจึงได้นำน้ำไปดับไฟ ส่วนหน้าต่างและกระจกที่เสียหายก็ยอมรับว่าเป็นคนทุบแตกเองก่อนที่จะจุดไฟ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ยอมรับว่าเป็นคนยกทุ่มจนแตกเสียหาย
นายศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านติดกัน กล่าวว่า ตนพักอยู่บ้านข้างบ้านเกิดเหตุ แล้วหัวหน้าฝ่ายการเงินเขาโทรหาตน ว่าช่วยดูหน่อยมีคนทุบทำลายบ้าน ช่วงเวลาประมาณ 16.50 น. จากนั้นตนก็เดินออกมาดูเห็นควันขึ้นมาจำนวนมาก จึงแจ้งให้คนโทรเรียกดับเพลิงเรียกตำรวจ เพราะตนต้องเอารถหลบออกไปเก็บอีกฝั่งไว้ก่อน และไม่ได้เข้าไปช่วยดับไฟ ช่วงนั้นก็จะมีคนงานเอาน้ำไปช่วยดับไฟ สักพักดับเพลิงก็มาทำไม่นาน คนก่อเหตุเขาก็นั่งดูอะไรอยู่ตรงข้างบ้าน ทำตัวเฉื่อยเหมือนไม่สะทกสะท้าน จากนั้นเขาก็ยืนดูแค่นี้ ตนกับเขาไม่ได้คุยกัน ตนไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะ ตนอยู่ห้องฝั่งหนึ่งจึงไม่ได้ยินเสียง ส่วนบ้านที่เกิดเหตุเป็นทรัพย์สินของทางราชการที่ให้เจ้าหน้าที่พักอยู่
ต่อมาเวลา 20.00 น. น.ส.อาย (นามสมมุติ เบลอหน้า) ภรรยาผู้ก่อเหตุเดินทางมาตรวจดูทรัพย์สิน กล่าวว่า ตนกับอดีตสามีแต่งงานกันมา 3 ปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน เมื่อช่วงสงกรานต์เขาได้หลอกตนให้ไปเที่ยว จากนั้นก็ไม่ปล่อยตัวกลับมาทำงาน พอพูดคุยกันและขอเลิกกับเขา เขาจึงให้ตนกลับมาทำงานแต่เอาลูกชายไว้ หลังจากตนกลับมาทำงาน เขาได้พาลูกชายตนเข้ากรุงเทพ โดยพาลูกเดินไปตามถนนในกรุงเทพหลายแห่ง เมื่อแม่ตนทราบ จึงให้พี่เขยตนที่เป็นทหารไปรับตัวเอาหลานกลับมา อดีตสามีจึงตามมาที่นี่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 ช่วงเที่ยง อดีตสามีได้โทรไปเรียกตนเพื่อออกมาคุยที่บ้านหลังนี้ ทำให้มีปากเสียงกัน เขาจึงทุบทำลายข้าวของในบ้านจนเสียหาย และได้ทำร้ายตนจนต้องเข้ารักษาตัวนอนที่โรงพยาบาล 4 วัน
น.ส.อาย กล่าวต่อว่า ตนถูกอดีตสามีทำร้ายที่ใบหน้าและศีรษะ โดยใช้กำปั้นทุบมาที่เบ้าตา และทุบที่ศีรษะกระแทกกับกำแพง ตนถูกเขาทุบประมาณ 5-6 ครั้ง ทำให้มีเลือดคลั่งในสมอง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาทำร้ายตน ส่วนสาเหตุเขาบอกว่าตนเอาทหารไปอุ้มเอาตัวลูกชายมาจากเขาที่รามอินทรา ซึ่งตนไม่เข้าใจเพราะไม่ทราบเรื่องที่แม่มีคนไปเอาลูกชายมา เหมือนเขาแค้นตนเรื่องลูกเพราะเขาบอกว่าอยากอยู่กับลูก จากนั้นเขาก็เดินทางมาที่นี่มาหาตนจนมาเกิดเหตุเผาบ้านครั้งนี้ ครั้งนี้ตนเลิกกับเขาเด็ดขาด ส่วนเรื่องที่เขาทำลายข้าวของในบ้าน และจุดไฟเผาบ้าน ตนเพิ่งทราบวันนี้เพราะเพื่อนโทรไปบอก จึงเดินทางมาดู เห็นสภาพบ้านแล้วคงอยู่ไม่ได้ แต่ตนก็ไม่มีที่อยู่ ตอนนี้ต้องเช่าบ้านอยู่ข้างนอก สำหรับอาการเขาที่คลั่งแบบนี้ เขาน่าจะเสพยาแต่ตนไม่เคยเห็น ซึ่งเมื่อก่อนตอนที่แต่งงานกันเค้าไม่ได้เป็นแบบนี้ สำหรับค่าเสียหายทั้งหมดคงต้องให้พ่อแม่เขารับผิดชอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุส่งพนักงานสอบสวนสภ. ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำ ก่อนตั้งข้อกล่าวหาว่า ทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใด แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และ ปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
28 กรกฎาคม 2568
28 กรกฎาคม 2568
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ