วันที่ 23 มิถุนายน 2567 เวลา 05:40 น.
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2567
>> เพลิงไหม้บ้านพักภายในโรงเรียน ย่านพระราม 2 เกือบเสียหายวอดทั้งหลัง
06.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซอยพระรามที่ 2 ซอย 69 ถนนพระรามที่ 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น หลังคากระเบื้อง ใช้เป็นสถานศึกษา ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่างภายในห้องเก็บของซึ่งเป็นบ้านพักภายในโรงเรียน เพลิงลุกไหม้ตู้เย็น พัดลม เครื่องซักผ้า โต๊ะ ที่นอน และลุกลามขึ้นชั้นบนเสียหายเล็กน้อย พื้นเพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 20 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่คอมเพรสเซอร์ตู้เย็น ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นทีรับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนเทียน
>> รถพ่วงไหลทับคนขับ เสียชีวิต
07.30 น. เจ้าหน้าตำรวจ สภ.วังน้อย พร้อมเจ้าหน้ามูลนิธิพุทไธสวรรย์ (จุดวังน้อย) รับแจ้งมีอุบัติรถทับคนที่คันคลองชลประทาน เส้นทางลัด หมู่ 2 วัดตะดง-หันตะเภา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ที่เกิดเหตุ พบรถพ่วง 18 ล้อ ป้ายทะเบียน 6760 ประจวบคีรีขันธ์ จอดอยู่ข้างถนนใต้ท้องรถพบร่างของ นายนิมิตร อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขัน ซึ่งเป็นคนขับพ่วงคันดังกล่าว สภาพถูกล้อรถพ่วงทับเสียชีวิต เจ้าหน้าที่อาสาดำเนินการนำร่างออกมาจากใต้ท้องรถ โดยภรรยาผู้เสียชีวิตยืนร้องให้ อยู่ตลอดเวลา
จากการสอบถามภรรยา ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้นำรถมาจอดคอย เพื่อรอขึ้นดินในบ่อดิน ตำบลสนับทึบ จะไปส่งให้ลูกค้า ขณะจอดรถอยู่ผู้ตายได้ลงไปดูสภาพรถและเช็ดรถ จู่ๆรถเกิดไหล แล้วทับร่างจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่ง ชันสูตรที่ รพ.วังน้อย ต่อไป
>> สายตรวจยานนาวา สกัดดาวรุ่งเยาวรุ่นทรงช่าง พกมีด,ปืนมาพร้อมเตรียมก่อเหตุ
07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ยานนาวา ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มเด็กนักเรียนวัยรุ่นรวมตัวจะก่อเหตุอยู่ที่บริเวณปากซอยเจริญกรุง 69 จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงได้พบกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันคล้ายว่าจะก่อเหตุร้ายจึงแสดงตัวและขอทำการตรวจค้นกลุ่มดังกล่าว
ทั้งนี้ในขณะตรวจค้นนั้นพบว่า 1 ในสมาชิกของกลุ่มแสดงอาการพิรุธต้องสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายจึงได้เข้าตรวจค้น ปรากฎพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ชนิดลูกซองสั้น 1 กระบอก โดยมีกระสุนบรรจุอยู่ในรังเพลิงสภาพพร้อมใช้ยิงเหน็บอยู่ที่เอวและพบอาวุธมีดปลายแหลม ยาว 1 ฟุต เหน็บอยู่ที่เอวเช่นกัน
กรณีเป็นความผิดซึ่งหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุมและตรวจยึดของกลางไว้พร้อมกับได้แจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนฯไว้ในความครอบครองฯ, พกพาอาวุธปืนฯและมีดไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” จากนั้นจึงควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.ยานนาวา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> กองกำลังพีดีเอฟ. ถล่มฐานตำรวจฝั่งเมียนมา ชาวบ้านกว่า 200 ชีวิต หนีตายข้ามฝั่งอพยพเข้าไทย
08.00 น. เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดระนอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 บ.น้ำแดง ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จังหวัดระนองว่า ได้ยินเสียงปืนจากฝั่งตรงข้าม คือฐาน ตร.เมียนมา บริเวณ บ.หมาราง ต.หมาราง อ.เขม่าจี จ.เกาะสองประเทศเมียนมาซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไทย มีเพียงแม่นำสายเล็กๆขั้นกลางระหว่างประเทศ
จึงพร้อมหลายหน่วยงานทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่า มีชาวเมียนจำนวนกว่า 200 คนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ข้ามแม่นำมายังฝั่งไทย สอบถามชาวเมียนมาในเบื้องต้น พอจับใจความได้ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน ได้มีกองกำลังพิทักษ์ประชาชนชน (pdf) จำนวนกว่า 20 คน พร้อมอาวุครบมือทั้งปืนสั้นและปืนยาวแต่ไม่แน่ใจว่ามีอาวุธหนักหรือไม่ เข้ายิงถล่มฐานตำนวจเมียนมา ที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำฐานจำนวน 6 นาย แต่ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าทั้ง 6 นายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
มีการการยิงตอบโต้กันไปทั่วบริเวณโดนบ้านเรือประชาชนทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา ประชาชนชาวเมียนจึงรีบอพยบข้ามมายังฝั่งไทยเพื่อความปลอดภัยเพราะกลัวลูกหลงจากจากยิงใส่กัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือชาวเมียนจำนวนกว่า 200 คนที่ข้ามมา โดยการนำข้าวกล่อง น้ำดื่ม ไปให้ พร้อมดูแลความพร้อมภัยตามหลักสิทธิมนุยชนให้กับพี่น้องชาวเมียนมาที่ข้ามมายังฝั่งไทย พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอดจนกว่าสถานณ์จะปลอดภัย เพื่อให้ชาวเมียนมาได้เดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย
>> นายกฯ ติดตามการแก้ไขปัญหาท่องเที่ยวเกาะล้าน ทั้งเรื่องความปลอดภัยโรงพยาบาลและการกำจัดขยะ
13.44 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไป จ. ชลบุรีหลังผ่านศึกอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2568 ซึ่งเช้าวันนี้ได้ข้ามไปที่เกาะล้าน โดยใช้โอกาสนี้ติดตามและสอบถามถึงปัญหา ของเกาะล้าน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวข้ามเรือจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย ไปยังเกาะล้านเดือนละกว่า 5 แสนคน ทำให้บริการนักท่องเที่ยวได้ไม่ดี ทั้งในเรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบบสาธารณสุข ปัญหาขยะ น้ำประปา ที่พักตลอดจนปัญหาความสะอาดและภูมิทัศน์ ซึ่งได้ขอให้นายกฯ เมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไข อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เรื่องของโรงพยาบาลหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงเรื่องของการกำจัดขยะบนเกาะและการบำบัดน้ำเสีย เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะล้านด้วย
>> นายคารม เผย สปสช.แจง กทม.ยังไม่เริ่ม 30 บาทรักษาทุกที่
14.18 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรื่องจังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พ.ศ. 2567 โดยมีรายชื่อทั้งสิ้น 42 จังหวัด ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในลำดับที่ 42 ด้วยนั้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ชี้แจงว่า ในส่วนของ กทม. นั้น ยังไม่ได้เริ่มตามแนวทาง 30 บาทรักษาทุกที่ โดยขณะนี้ สปสช.เขต 13 กทม. อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งในส่วนของการเตรียมงบประมาณ การเชื่อมต่อระบบบริการ และการจัดเตรียมหน่วยบริการเพื่อให้การดูแลประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าในพื้นที่ กทม. เป็นพื้นที่มีความซับซ้อน ทั้งในด้านประชากรและจำนวนหน่วยบริการที่ไม่เพียงพอ
หากในพื้นที่ กทม. มีความพร้อมแล้วที่จะดูแลประชาชนภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ก็จะมีการเปิดตัวนโยบายอย่างเป็นทางการ เพื่อแจ้งการเริ่มบริการให้ประชาชนรับทราบต่อไป ส่วนที่มีรายชื่อ กทม. อยู่ในประกาศของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรื่องจังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่นั้น เพื่อเป็นการจัดเตรียมงบประมาณจำนวน 64 ล้านบาทเพื่อใช้ในการดำเนินการรองรับในส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมการ
>> ปภ.เตือนประชาชน 21 จังหวัด ภาคอีสาน ภาคกลาง และ ภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
14.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือน 21 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ได้แก่ ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
โปรดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 22-26 มิถุนายนนี้ โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามสถานการณ์ และปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้
หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 1 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่
>> ปอท. บุกรวบเจ้าของเพจดัง ผู้ติดตามกว่า 2 ล้าน แปะโฆษณาเว็บพนัน ฟุตบอลยูโร
15.03 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นำหมายศาลแขวงนครราชสีมา เข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ม.3 ต.ตลาด อ.เมือง จ.นครราชสีมาพบ ชายอายุ 36 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตรวจยึดหลักฐานแท็บเลต IPAD Pro จำนวน 1 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 2 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน จำนวน 1 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม
สืบเนื่องจากช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ทาง บก.ปอท. ตรวจสอบข้อมูลสื่อออนไลน์ที่ประกาศชักชวนเล่นการพนันทายผลฟุตบอลในรูปแบบต่างๆ โดยตรวจพบเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Top Comment ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ มีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน โพสต์รูปภาพเป็นคอมเมนต์ และติดป้ายโฆษณาของเว็บไซต์พนันฟุตบอล เพื่อชักชวนให้เล่นการพนัน จึงเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว
จากการสอบสวนเจ้าของเพจ ให้การรับว่า เป็นเจ้าของเพจจริง โดยเปิดมาตั้งแต่ปี 2557 มีการเผยแพร่ภาพที่มีข้อความที่เป็นกระแสน่าสนใจ ตรงใจเป็นที่นิยมของบุคคลทั่วไปในวงกว้าง จนมีผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านคน พร้อมรับลงโฆษณาต่าง ๆ โดยยอมรับว่าปัจจุบันกว่า 90% เป็นโฆษณาเว็บไซต์การพนันฟุตบอล ทำให้ตนมีรายได้จากการโฆษณาเว็บไซต์พนันฟุตบอลตกเดือนละกว่า 150,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหา "ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน" และ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.
>> หนุ่มเมืองคอน ทนไม่ไหว ข้างบ้านหลอนยา ใช้หนังสติ๊กไล่ยิงพ่อ-แม่ คว้ามีดไล่สับจนเสียชีวิต ก่อนนั่งรอมอบตัว
18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายในสวนยางพารา บ้านท่าข้าม ม.6 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด
ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้เสียชีวิตคือ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 35 ปี มีบาดแผลถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าบริเวณแก้มซ้าย 1 แผล ศีรษะ 1 แผล หน้าท้อง 1 แผล และชายโครงขวา 1 แผล นอนหงายเสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ได้ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ ทราบชื่อต่อมา นายทนงศักดิ์ อายุ 33 ปี
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเกียรติศักดิ์ มีอาการคลุ้มคลั่งยา ใช้หนังสติ๊กยิงใส่พ่อแม่ของ นายทนงศักดิ์ ซึ่งได้มีการแจ้งตำรวจ สภ.ชะอวด มาระงับเหตุ ก่อนที่ นายเกียรติศักดิ์ ได้วิ่งหนีเข้าป่าสวนยางหายไป หลังจากตำรวจกลับไป ช่วงเย็นเวลา 16.00 น. นายเกียรติศักดิ์ ได้ย้อนกลับมาใช้หนังสติ๊กไล่ยิงพ่อแม่อีกครั้ง ทำให้คราวนี้ นายทนงศักดิ์ เกิดโมโหบันดาลโทสะ คว้ามีดพร้าไล่ฟัน นายเกียรติศักดิ์ จนเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนและจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> เตรียมออกหมายจับ "เสี่ยโจ้" ข้อหา จ้างวานให้ลักเรือของกลาง
19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าคดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ หายไปจากท่าเทียบเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนไปพบว่าเรือทั้ง 3 ลำ ลอยลำอยู่ในน่านน้ำ พื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะไทยมาเลเซีย ห่างจากท่าเทียบเรือสงขลาไป 90 ไมล์ทะเล หรือ 162 กิโลเมตร
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ตัวการสำคัญอย่างเสี่ยโจ้ คนออกคำสั่งขโมยเรือ ทั้ง 3 ลำออกไป จากพื้นที่ท่าเรือสัตหีบ ผ่านนายเล็ก ผู้จัดการส่วนตัว ว่า ล่าสุดมีคนเห็น “เสี่ยโจ้” นั่งเล่นพนันอยู่ในกาสิโน ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ห่างจากชายแดนไทยไม่มากนัก โดยไม่มีท่ากังวลใจกับคดีฝั่งไทย โดยในวันที่ 24 มิ.ย. พนักงานสอบสวนจะประชุมคดีที่เกี่ยวเนื่องเรื่องการจับกุมเรือน้ำมันเถื่อน 5 ลำ พร้อมลูกเรือรวม 28 คน รวมถึงคดีลักเรือ น้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ ถึงแนวทางการดำเนินคดีและการออกหมายจับเสี่ยโจ้ ในข้อหาบงการ หรือจ้างวานให้ลักเรือของกลาง
นอกจากนี้ จะพิจารณาดำเนินการออกหมายจับตำรวจน้ำระดับนายสถานี อย่างน้อย 2-3 นาย ที่บกพร่องต่อหน้าที่เรื่องการรักษาเวรยาม จนเป็นเหตุให้มีการขโมยเรือออกไปจากพื้นที่
>> ไฟไหม้บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวอดทั้งหลัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร
19.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ในชุมชนเทพประทานพร หมู่ 3 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี
ซึ่งเป็น จึงประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองราชบุรี รถน้ำดับเพลิงจากอบต.ดอนตะโก รถน้ำขององค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี และรถบรรเทาสาธารณภัยภาคตะวันตก ให้เข้าไปทำการฉีดน้ำดับเพลิง เนื่องจากบริเวณดังกล่าว
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นชุมชนหนาแน่น ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังระดมฉีดน้ำดับไฟภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งลักษณะเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ และทราบว่าเป็นบ้านของ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 โดยไฟได้ลุกไหม้อยู่บนชั้นสองซึ่งเป็นไม้
เจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาพร้อมด้วยรถดับเพลิง ต้องเร่งทำการฉีดน้ำดับไฟใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ นอกจากนี้บริเวณหน้าบ้านก็มีรถยนต์จอดอยู่ 3 คัน ซึ่งได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย แต่ตัวบ้านนั้นได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากภายในบ้านนั้นมีทรัพย์สินที่มีค่าถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้าไปเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ต่อไปด้วย
>>รถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มีผู้เสียชีวิต 4 รายและสุนัขตาย 1 ตัว จ.สุโขทัย
22.01 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยเทพนิมิตรสุโขทัย จุดอำเภอศรีสัชนาลัย มีอุบัติเหตุ รถกระบะ ชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และมีผู้เสียชีวิต ริมถนนหมายเลข 1305 บริเวณใกล้เคียงวิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย ในพื้นที่ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
ที่เกิดเหตุ บริเวณท่งหญ้าข้างทาง พบรถกระบะ ฟอร์ด สีเทา 9033 พิจิตร ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ฮอนด้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 8756 กทม. ใกล้กันพบว่ามผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นชาย 1 และหญิง 3 ราย (ผู้ใหญ่ 2, เด็ก 2 ราย) และมีผู้บาดเจ็บ 1 รายเป็นคนขับรถกระบะ ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลศรีสัชนาลัย และพบว่ามีสุนัขตายอีก 1 ตัว ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย
>> เพลิงไหม้ตึกแถว บริเวณห้าแยกวัชรพล จนท.ดับทันไม่ลุกลาม
00.30 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 4 ชั้น ประกอบกิจการร้านค้า ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 เพลิงลุกไหม้เครื่องปรับอากาศ และโซฟา พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องปรับอากาศ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขน
>> รถกระบะ เสียหลักฟาดเสาไฟฟ้าข้างทาง ริมถนนหมายเลข 324 มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
00.23 น. รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุมูลนิธิขุนรัตนาวุธกาญจนบุรี มีอุบัติเหตุ รถกระบะ เสียหลักชนเสาไฟ และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ถนนทางหลวงหมายเลข 324 เส้นทางต่างระดับวังสารภี มุ่งหน้าแยกหนองขาว ใกล้เคียงโรงเรียนบ้านห้วยตลุง ก่อนถึงทางเบี่ยงเข้าถนนมอเตอร์เวย์ (M81) ประมาณ 200 เมตร ในพื้นที่ ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีทอง ป้ายทะเบียน กาญจนบุรี ลักษณะฟาดเข้ากับเสาไฟข้าง อาสาสมัครตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต สภาพร่างติดค้างภายในยานพาหนะ ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างเพื่อนำออกมา แล้วตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 28 ปี และ หญิงไทย อายุ 27 ปีภูมิลำเนาชาว อ.ท่าม่วง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. หนองขาว
>> เพลิงไหม้บ้านทาวน์เฮ้าส์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 เสียหายวอดทั้งหลัง
00.45 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือน สถานที่เกิดเหตุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 แยก 3 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น 3 คูหา ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 ลุกลามชั้น 2 เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 100 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้ ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย เป็นเพศหญิง มีอาการสำลักควัน และ เป็นเพศชาย มีอาการสำลักควัน ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาลทั้ง 2 ราย พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางอ้อ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด
>> รถบิ๊กไบค์ชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ผู้หญิงบาดเจ็บ ส่วนผู้ชายเสียชีวิต
01.25 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ภายในซอยประชาอุทิศ 90 บริเวณใกล้เคียงโรงเรียน สารสาสน์วิเทศศึกษา ในพื้นที่ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซีบีอาร์-500 สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 7950 กทม.ล้มคว่ำในสภาพหน้ารถพังเสียหาย ใกล้กันเบผู้บาดเจ็บหญิง 1 ราย อายุประมาณ 20 - 30 ปี ทางอาสาสมัครช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนมอบให้รถกู้ชีพมาดำเนินการนำตัวส่ง รพ.ใกล้เคียง และพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 25 - 30 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์
14 ธันวาคม 2568
13 ธันวาคม 2568
14 ธันวาคม 2568
13 ธันวาคม 2568