จากกรณีเพจดังเพจหนึ่ง ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เข้าจับกุมโชเฟอร์ขับแท็กซี่ โดยระบุว่า ชนแล้วหนี..ชุดสืบ สภ.ปากเกร็ดให้ผู้เสียหายแกล้งเป็นผู้โดยสารสวมรอยแล้วล่อสกัดจับ
   
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 มิถุุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด สอบถามถึงรายละเอียดเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่าแท็กซี่คันในคลิปขับรถชนแล้วหลบหนี เหตุเกิดที่เมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 18.17 น. โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนสามารถจับกุมได้ที่หน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ตรงข้ามโรงพัก ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในเมืองทองเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน 2567 เป็นภาพรถแท็กซี่ สีเหลืองขับเข้าไปในซอยหมู่บ้านเมืองทอง จากนั้นได้เฉี่ยวชนรถเก๋งสีขาวที่จอดอยู่ข้างทางตรงด้านหน้ารถ ก่อนที่จะขับหลบหนีไป

จากการสืบสวนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากนายต้น (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ว่ารถยนต์ถูกรถแท็กซี่ชนได้รับความเสียหาย แล้วหลบหนีไป จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่าเป็นรถแท็กซี่ สีเหลือง จึงได้ตรวจสอบทะเบียนรถ จนวางแผนเข้าจับกุม
   
พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน ที่ผู้เสียหายถูกรถแท็กซี่ชน เวลาประมาณ 17.00 น. จากนั้น ผู้เสียหาย ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบทะเบียนรถแท็กซี่คันดังกล่าว

ต่อมาผู้เสียหายได้พบเห็นรถแท็กซี่คันหนึ่งมีลักษณะคล้ายรถแท็กซี่ที่ชนรถของตนเอง จึงได้โทรมาตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เป็นรถคันเดียวกันหรือเปล่า ซึ่งตรวจสอบพบว่าทะเบียนตรงกัน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายได้วางแผนขับรถตามรถแท็กซี่คันดังกล่าว เพราะในระหว่างที่ขับตามรถแท็กซี่มีผู้โดยสารนั่งอยู่ จึงไม่สามารถทำอะไรได้ จนกระทั่งรถแท็กซี่ไปส่งผู้โดยสารที่ใกล้มหาวิทยาลัยรังสิต จึงได้มีการพูดคุยกับผู้เสียหายและวางแผนกัน ให้ผู้เสียหายลงไปเรียกรถแท็กซี่

โดยให้ผู้เสียหายเรียกรถมาจอดใกล้ สภ. ปากเกร็ด จึงให้น้องผู้หญิงที่นั่งมากับผู้เสียหาย ปลอมตัวเป็นผู้โดยสาร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกับผู้เสียหายก็ขับรถตาม ตลอดทางมีการคุยโทรศัพท์ส่งสัญญาณกันตลอดเวลา จนกระทั่งถึงช่วงตรงข้ามก่อน สภ.ปากเกร็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ขับรถแซง จากนั้นให้รถแท็กซี่จอด

ภาพเหตุการณ์ต่อมาคือตามคลิป ตอนที่เข้าจับกุมแท็กซี่ เขาปฏิเสธอยู่ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาคลิปวิดีโอให้ดูเขาถึงยอมรับว่าเขาเป็นแท็กซี่คันที่ก่อเหตุจริง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย ในข้อหาขับรถชนแล้วหลบหนี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนนทบุรี ให้ตรวจสอบตามระเบียนสำนักงานขนส่งเพื่อลงโทษต่อไป