วันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา 23:41 น.
ความคืบหน้ากรณีที่กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) รายงานว่า เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำ ซึ่งบรรจุน้ำมันรวมกว่า 3.3 แสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
วันที่ 13 มิถุนายน 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผู้กำกับ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เรือบรรทุกน้ำมันหาย 3 ลำ ณ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ก่อนเข้าประชุมเร่งรัดหาข้อเท็จจริง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า การดำเนินการติดตามเรือที่หาย ได้มีการตั้งคณะกรรมการในการดำเนินคดีออกเป็น 3 ส่วน คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง และในส่วนของลูกเรือ โดยได้ตั้งกองอำนวยการสืบสวนหาข้อเท็จจริงถึงสาเหตุเรือบรรทุกน้ำหาย และจะเร่งนำเรือของกลางกลับมาโดยเร็ว ทั้งนี้เชื่อว่า เรือที่หายทั้ง 3 ลำ ยังคงอยู่ในอ่าวไทย และยังไปไม่ถึงประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเรือทั้ง 3 ลำมีน้ำมันอยู่ด้วย ทำให้เรือสามารถวิ่งได้ประมาณ 7-8 นอต และจะต้องใช้ระยะเวลาในการวิ่งเรือจากพื้นที่เกิดเหตุไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีระยะทาง 240 ไมล์ทะเล โดยต้องใช้ระยะ 15 ชั่วโมง
ส่วนข้อสงสัยที่ว่า ทำไหมเรือบรรทุกของกลางที่จอดด้วยกัน 5 ลำ จึงหายไปเพียง 3 ลำนั้น ด้วยเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำที่หายนั้น จากสืบข้อมูลเชิงลึก เรือทั้ง 3 ลำ มีเจ้าของและเป็นเรือของผู้มีอิทธิพลเรื่องน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ปัตตานี และเหตุที่คาดการว่า เรือทั้ง 3 ลำจะไปประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยเจ้าของเรือคาดว่าอีก 2 ลำ เป็นเรือไม่มีเจ้าของ แต่ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน สำหรับลูกเรือที่จับได้ทั้งหมด 28 คน และหายไปกับเรือ 3 ลำ 18 คน ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางสั่งลงมาให้ดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง หากพบเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ และปล่อยเรือออกไปก็จะดำเนินคดี เพราะไม่ทำหน้าที่เท่าที่ควร มีอะไรกับเป้าหมายหรือไม่ รับรองว่าการเข้ามาทำหน้าที่ของตนตรงไปตรงมา หากพบเจ้าหน้าที่นายไหนมีส่วนเกี่ยวข้องพร้อมดำเนินคดี 157 ทันที และเชื่อว่าบนเรือไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเรือของกลาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา ให้ช่วยติดตามหาเรือทั้ง 3 ลำแล้ว พร้อมเตรียมออกหมายจับลูกเรือที่หนีไป
ด้าน พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผู้กำกับ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า เรือ 3 ลำได้ยึดเป็นของกลางในคดี ทั้งเป็นคดีของพนักสอบสวนกลาง และกรมสรรพสามิต ซึ่งเรือแต่ละลำมีทะเบียนเรือไม่ตรงกับข้อมูลเรือ บางลำไม่มีทะเบียนเรือ และจากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่าเรือ 3 ลำ ที่หายไปเป็นเจ้าของเดียวกัน ส่วนการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 5 ลำนั้น ด้วยมีการขนถ่ายน้ำมันกลางทะเลในฝั่งทะเล ออกทะเลอันดามัน เพื่อจะเอาน้ำมันเข้ามาในราชอาณาจักร จึงมีการจับกุม ส่วนการจัดเก็บของกลางตามระเบียบ สตช. ระบุให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดูแล และหากของกลางเป็นประเภทเรือ ของกลาง จะต้องให้ตำรวจน้ำในพื้นที่ดูแล
เครดิต สยามชล นิวส์

10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568
ทต.หาดเล็ก ขอรับบริจาคอวนประมง ด่วน "เพื่อใช้ยุทธวิธีทางทหาร"
10 ธันวาคม 2568
10 ธันวาคม 2568
ทต.หาดเล็ก ขอรับบริจาคอวนประมง ด่วน "เพื่อใช้ยุทธวิธีทางทหาร"