หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบหนุ่มรับจ้างทำความสะอาดรายวัน ขโมยเงินนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น

วันที่ 1 มิถุนายน 2567 เวลา 15:44 น.


สืบนครบาล รวบ หนุ่มรับจ้างทำความสะอาดรายวัน แอบขโมยเงินนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น อ้างเอาเงินไปผ่อนรถเพราะกลัวโดนยึด

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 สืบนครบาล ร่วมกันจับกุมตัว นายเก่ง (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 496/2567 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” จับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ม.7 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

พฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น อายุ 39 ปี ได้เข้าพักที่ห้องพัก ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้แจ้งได้ลงมาจากห้องพักเพื่อรับประทานอาหาร ที่ห้องอาหารของโรงแรม เมื่อผู้แจ้งรับประทานอาหารเสร็จ เวลาประมาณ 10.30 น. ผู้แจ้งได้กลับห้องพัก ต่อมาผู้แจ้งได้ตรวจสอบกระเป๋าสะพายของผู้แจ้ง ซึ่งได้วางไว้บนโซฟา ภายในห้องพักดังกล่าวของผู้แจ้ง พบว่าเงินสดจำนวน 160,000 เยน คิดเป็นเงินไทย 38,000 บาท ได้หายไป ซึ่งไม่ทราบว่า ผู้ใดเป็นคนร้ายได้เข้ามาขโมยเอาไป เป็นเหตุให้ได้รับคามเสีหาย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อจะได้ติดตามทรัพย์คืนมาตลอดจนจะได้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายต่อไป

ภายหลังจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทำความสะอาดรายวัน รับงานเมื่อมีคนจ้าง ส่วนมากจะรับเฉพาะโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท วันเวลาเกิดเหตุดังกล่าว ขณะทำความสะอาดกับเพื่อนพนักงานอยู่นั้นได้เห็นกระเป๋าสะพายผู้พักอาศัย วางอยู่ภายในห้องจึงคิดว่าต้องมีของมีค่าแน่นอน เมื่อทำความสะอาดเสร็จ ตนและเพื่อนพนักงานจึงออกจากห้องและไปทำความสะอาดห้องอื่นต่อ เมื่อเพื่อนพนักงานทำความสะอาดอยู่นั้น ตนจึงออกอุบายว่าลืมรองเท้าแล้วเข้าไปห้องเดิมเพื่อเปิดกระเป๋าสะพายนั้นดู พบเงินของประเทศญี่ปุ่นจึงหยิบใส่กระเป๋ากางเกงของตนมา เมื่อเสร็จงานตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ ไปเปลี่ยนเสื้อที่ปั๊มน้ำมันเพื่อเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ และขับขี่รถตรงไปร้านแลกเงินเยน เป็นเงินบาท ย่านสุขุมวิท แต่ร้านนั้นปิด ตนจึงเดินทางกลับบ้านย่านนนทบุรี และไปแลกเงินที่ ร้านแลกเงิน ภายในห้องสรรพสินค้าย่านท่าพระ ผู้ต้องหายังรับอีกว่าเงินที่ได้มาเอาไปจ่ายค่างวดรถจักรยานยนต์ที่ตนขับขี่อยู่ เนื่องจากกลัวไฟแนนซ์จะมายึดรถไป ครั้งหนึ่งเคยมีไฟแนนซ์มายึดรถตนถึงบ้านจึงไม่อยากให้ภาพติดตาครั้งนั้นเกิดขึ้นกับตนอีกและขณะจับกุมผู้ต้องหาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ผมเคยเห็นพี่ในTikTok”

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การสืบนครบาล กล่าวว่า จากคดีความที่เกิดขึ้นพบว่ามีพนักงานที่ทำงานใกล้ชิดกับทรัพย์สินของลูกค้านั้น มักก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของแขกผู้เข้าพัก โดยอาศัยจังหวะที่เข้ามาทำความสะอาดห้อง หรือช่วงที่เข้ามาบริการในห้องพัก  ดังนั้นการมีมาตราการปิดช่องโอกาสอย่างหนึ่งคือตรวจประวัติอาชญากรรมด้านคดีเกี่ยวกับทรัพย์ เพื่อไม่ให้ทำงานเกี่ยวกับการใกล้ชิดทรัพย์ของผู้ใช้บริการ จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะเป็นการคัดกรองเบื้องต้น  และถ้าเหตุเกิดกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ