หน้าแรก > สังคม

นนทบุรี เพื่อนบ้านกุเรื่องปาคางคกใส่บ้านรับสารภาพ หลังสองสามีภรรยาฟ้องศาล เดินหน้าเอาผิดนักข่าวไม่มีจรรยาบรรณ

วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 เวลา 14:29 น.


วันที่ 29 พ.ค.67 เมื่อเสลา 10.00 น. ที่ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี จากเหตุการณ์ข้อพิพากระหว่างเพื่อนบ้านที่ปลูกบ้านติดกัน ก่อนผิดใจกันเรื่องการต่อเติมจนนำไปสู่การแจ้งความกล่าวหาว่า อีกฝ่ายลอบปาคางคกใส่บ้านไม่ต่ำกว่า 50 ตัว จนนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินในชั้นศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี 

จนในวันนี้ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีอ่านคำตัดสินคดีดังกล่าวแล้ว โดยฝ่ายจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กุเรื่องด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จขึ้นมา โดยให้ข่าวกับผู้ช่วยนักข่าว นำไปเสนอข่าวให้เกิดความเสียหายกับคู่กรณีจริง ภายหลังฟังคำตัดสินของศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีแล้ว นายปัญจเทพ ( สงวนนามสกุล ) อายุ 64 ปี และนาง ศิรินทร์ทิพย์ ( สงวนนามสกุล ) อายุ 60 ปี สองสามีภรรยาฝ่ายโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายยื่นฟ้องตรงกับศาลแขวง

โดยนายปัจจเทพ ออกมาเปิดเผยว่า ฝ่ายจำเลยคือนางกุ้ง คู่กรณีได้ให้การรับสารภาพต่อศาลว่าสร้างเรื่องอันเท็จขึ้นมาเพื่อให้ข่าวใส่ร้ายป้ายสีครอบครัวตนกับนักข่าว จึงมีความผิดตามที่ฝ่ายตนฟ้องไป โดยนางกุ้งได้ไปแจ้งความกล่าวหาตนว่า ตนนำคางคกไปปาใส่บ้านหลายสิบตัวบ้าง สาดน้ำกรดใส่บ้าน โรยตะปูเรือใบ หรือแม้กระทั่งชักปืนมาข่มขู่ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.66 แต่ตนกับครอบครัวเลือกที่จะเงียบไม่ตอบโต้ออกสื่อ เพราะหวังมาพึ่งกระบวนการความยุติธรรมในขั้นศาลแทน เอาความจริงมาสู้กันในชั้นศาล แต่มาถึงวันนี้ศาลตัดสินหลังจากที่คู่กรณีให้การรับสารภาพว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ไม่มีมูลความจริงใดๆ เลย แต่ตนกับครอบครัวกับถูกสื่อหลักต่าง ๆ ออกข่าวไปฝ่ายเดียวจนทำให้ได้รับความเสียหายอย่างผิดจรรยาบรรณ โดยที่ไม่ได้ทำการตรวจสอบหาความจริงเลย แบบนี้จรรยาบรรณอยู่ที่ไหน ไปย้อนดูข่าวที่นำเสนอก่อนหน้านี้เลยว่า สร้างความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงกับครอบครัวตนขนาดไหน ครอบครัวเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ 

ตนหวังพึ่งความยุติธรรมแต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเพียงแค่ชิงรับสารภาพศาลสั่งปรับเงินเพียง 1 หมื่นบาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคือเหลือเพียงค่าปรับ 5 พันบาท แต่ครอบครัวตนกลับต้องขายบ้านหนีเพื่อนบ้านคู่กรณีรายนี้ไปอยู่ที่อื่น เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัยในชีวิต

นายปัจจเทพ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนเองกลับครอบครัวถูกคู่กรณีตามคุกคามมาโดยตลอดจนต้องขายบ้านย้ายหนี หลังจากตกเป็นข่าวได้ประมาณ 1 เดือน จากบ้านที่ปลูกอยู่อาศัยมานานกว่า 30 ปี ต้องอพยพย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ซื้อบ้านใหม่ จากข่าวที่ไม่มีมูลความจริง แต่ศาลกลับมองว่าเป็นคดีลหุโทษ มีโทษปรับแค่เพียง 1 หมื่นบาท รับสารภาพเหลือปรับแค่ 5 พันบาท แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนกลับไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ทั้งๆ ที่เสื่อมเสียชื่อเสียงไปแล้วและยังต้องขายบ้านทิ้งในราคาถูกกว่าราคาตลาดเพื่อย้ายไปซื้อบ้านหลังใหม่แทน จากการสร้างหลักฐานเท็จและเต้าข่าว ตนยอมรับว่าผิดหวังในคำตัดสิน

ทางด้านนางศิรินทร์ทิพย์ ผู้เสียหายฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า หลังฟังคำตัดสินของศาลแล้ว ตนอยากจะขอคืนบัตรประชาชนได้ไหม ไม่อยากอยู่เมืองไทยเลย เหมือนไม่ได้รับความยุติธรรม ตนกับครอบครัวเลือกที่จะเงียบมาโดยตลอดนับตั้งแต่เกิดเรื่องปีกว่า หวังพึ่งกระบวนการความยุติธรรมของศาล ตอนนี้ก็ได้แต่หวังพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายแทน ครอบครัวตนไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยลงโทษคนผิดแทน เพราะครอบครัวตนได้รับความเดือดร้อน เสียหาย แต่ศาลกลับสั่งปรับคนกุข่าวเพียง 5 พันบาท ทำให้เราต้องสูญเสียบ้านซึ่งเป็นเรือนหอปลูกอยู่กันมานานกว่า 30 ปี ต้องขายทิ้งย้ายไปหาซื้อบ้านหลังใหม่อยู่แทนเพราะทนอยู่ที่เดิมไม่ไหว คู่กรณีไปกุข่าวสร้างเรื่องว่าตนนำคางคกไปปาใส่บ้านทุกวัน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง สุดท้ายศาลก็แค่สั่งปรับ โดยที่เขาไม่มีท่าทีสำนึกผิดหรือมากล่าวขอโทษครอบครัวตนสักคำ ทั้ง ๆ ที่ทำให้ครอบครัวตนเดือดร้อน อย่างไรก็ตามตนกับครอบครัวจะขอปรึกษากับทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งเป็นทนายที่ดูแลคดีนี้ให้กับครอบครัวตนอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังศาลแขวงมีคำตัดสินเช่นนี้

ทางด้านทนายความส่วนตัวที่เดินทางมาฟังคำตัดสินด้วย กล่าวว่า ฝ่ายจำเลยคู่กรณีได้ให้การรับสารภาพในชั้นสืบพยานว่า ได้สร้างเรื่องเท็จขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายฝ่ายโจทก์จริง จึงมีความผิดตามที่ฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องร้อง แต่ศาลได้ใช้ดุลยพินิจมองว่าเป็นความผิดไม่ร้ายแรงประกอบกับจำเลยชิงรับสารภาพจึงเหลือแค่โทษปรับ 1 หมื่นบาท รับสารภาพลดโทษให้อีกกึ่งหนึ่งเหลือเพียงปรับ 5 พันบาทเท่านั้น จากที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายจำเลยให้การปฎิเสธขอต่อสู้มาโดยตลอด ทำให้ทางฝ่ายโจทก์ลูกความของตนยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายไปคนละ 3 แสนบาท ซึ่งหลังจากนี้ก็อยู่ที่ลูกความของตนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยใช้คำตัดสินของศาลฟ้องเอาผิดกับสื่อที่นำเสนอให้เกิดความเสียหายต่อไป

  

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม