25  พ.ค.2567  ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายชูชาติ อายุ 62 ปี  พร้อมกับพาไปดูบ้าน หลังเดียว 4 ชั้น ราคาก่อสร้าง 4 ล้านบาท ซึ่งกำลังก่อสร้างในพื้นที่ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และได้สั่งปูนคอนกรีตผสมเสร็จ จากแพลนท์ปูนแห่งหนึ่ง มาเทตอม่อและคาน ซึ่งมีการก่อสร้างไปแล้ว 1 ชั้น โดยอาคารบ้านมาขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร แต่ปรากฏว่าปูนที่สั่งมาไม่ตรงสเปก กว่าจะมาตรวจพบก็ผ่านไปแล้วกว่า 10 วัน ซึ่งหากก่อสร้างต่อไป อาจเกิดความเสียหาย ตนจึงสั่งให้ช่างหยุดก่อสร้าง และแจ้งให้ทางพนักงานแพลนท์ปูนรับทราบ และมาตรวจสอบ ซึ่งยอมรับความผิดพลาด และจะชดใช้ค่าเสียเป็นเงิน 3 หมื่นบาท แต่ตนเองไม่รับ

ตรวจสอบพบว่าตอม่อ เทปูนมาแล้วหลายวัน แต่ปูนไม่แห้ง จากนั้นจึงใช้เล็บขูดผิวปูนดู ปรากฏว่าปูนยังเป็นผง และร่อนออกมาอย่างง่ายดาย ตนเองจึงไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาตรวจสอบ และวัดค่าของสเต้งท์ปูน ปรากฏว่าค่าสเต้งท์ไม่ผ่านที่จะใช้ก่อสร้าง

จากนั้นนายชูชาติ จึงใช้ค้อนปอนด์ทุบโครงสร้างอาคารที่กำลังก่อสร้างทิ้งทั้งหมด เพราะเกรงว่าหากสร้างต่อไปจะไม่ปลอดภัย โครงสร้างอาจถล่มลงมาได้ และวันจันทร์ที่จะถึงนี้ นายชูชาติ จะเดินทางไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าทื่ สคบ. และศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดระยอง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย รวมทั้งเอาผิดกับแพลนท์ปูนดังกล่าว

ขณะที่ นายนิติกร อยู่คงแก้ว ทนายความ เปิดเผยว่า เป็นความผิดพลาดของแพลนท์ปูนคอนกรีตผสมเสร็จ ที่ผสมปูนไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งหากผู้บริหารแพลนท์ปูนปฏิเสธความรับผิดชอบ ก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย