กว่า 15 วัน ปฎิบัติการเก็บกู้ทั้งรถและคน ขึ้นจากแม่น้ำโขง จ.เลย

(23 พ.ค.67) จากกรณี ชายไทย อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้เช่ารถเก๋งจากจังหวัดกระบี่ เดินทางมาถึง แก่งคุดคู้ อ.เชียงคาน จ.เลย แล้วขับรถลงไปในแม่น้ำโขง เมื่อกลางดึกวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการและอาสาสมัครจากสมาคม องค์กร มูลนิธิกู้ภัยเอกชนทั้งในจังหวัดเลยและต่างจังหวัดได้ระดมกำลังคนและเครื่องมือค้นหากันเป็นเวลากว่า 7 วัน ยังไม่สำเร็จ ต้องยุติชั่วคราวเนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น มีสีขุ่นแดง และไหลเชี่ยว เกรงจะเกิดอันตรายแก่ทีมค้นหา

ต่อมา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 อาสาสมัครมูลนิธิสว่างคีรีธรรมจังหวัดเลย ร่วมกับอาสาสมัครสมาคมกู้ชีพกู้ภัยฯจังหวัดเลย มูลนิธิสว่างเมธาอุดรธานี   กู้ภัยพิทักษ์กาญจน์  กู้ภัยนเรศวร ผู้ใหญ่เบียร์พิทักษ์ชีพ ได้ระดมกำลังลงค้นหาอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้อุปกรณ์เครื่องซาวด์เดอร์ค้นหาวัตถุใต้น้ำ ได้พบซากรถคันดังกล่าว ติดอยู่กับโขดหินใต้น้ำที่ความลึกประมาณ 20 เมตร บริเวณทางโค้งของแก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำไหลเชี่ยว อันตรายที่สุด และเป็นจุดต้องสงสัยตั้งแต่การค้นหาช่วงแรก โดยนักประดาน้ำอาสาสมัครกู้ภัยได้นำเชือกลงไปผูกติดกับตัวรถส่วนที่เป็นเหล็กไว้แล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ได้ออกปฏิบัติการกู้ซากรถและค้นหาร่างผู้เสียชีวิต โดยมีฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้ต้องล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครได้นำเชือกไปเกี่ยวกับรถที่อยู่ใต้น้ำได้สำเร็จ ก่อนที่จะนำเรือของ นรข.มาลาก

ในขณะที่ลากอยู่นั้น ร่างของผู้เสียชีวิต หลุดออกจากตัวรถ ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ เจ้าหน้าที่จึงนำขึ้นฝั่งได้สำเร็จ  

ขณะที่ซากรถเจ้าหน้าที่ก็สามารถเก็บกู้ลากขึ้นมาได้อีกเช่นกัน ท่ามกลางชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคาน และแพทย์เวรโรงพยาบาลเชียงคานได้เข้าตรวจสอบสภาพศพของผู้เสียชีวิต ก่อนส่งมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป.

ที่มา_เลยไทม์ออนไลน์ loeitime online